'ลูกฮวก' โกยเงินล้าน บุกตลาดต่างประเทศ

ฮวกเงินล้านมาแล้ว เกษตรกรใช้ที่นาเป็นบ่อ ทำฟาร์มกบขายลูกอ๊อดแช่แข็งส่งนอก โกยเงินเข้าชุมชนกว่า 10 ล้านบาทต่อปี

21 เม.ย.2567 – ถือเป็นภูมิปัญญาชาวอีสานขนานแท้  ที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลมานานกว่า 20 ปี โดยเฉพาะชาวบ้านหนองแต้ หมู่ 7 ต.นาขาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม แม้มีอาชีพทำนาแล้ว ในฤดูแล้งได้เลี้ยงกบ โดยหลังวางไข่และฟักเป็นลูกอ๊อดหรือลูกฮวก ก็จะนำไปขายสร้างรายได้หมุนเวียนปีละกว่า 10-20 ล้านบาท ล่าสุดเกษตรกรมีการพัฒนาเพิ่มมูลค่า นำลูกฮวกบรรจุแพ็คเก็จ แช่แข็ง ส่งขายถึงต่างประเทศ โกยเงินเข้าประเทศ

 สำหรับการเลี้ยงกบถือเป็นความชำนาญจากภูมิปัญญาชาวบ้าน  เริ่มจากการนำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาเลี้ยง ให้ได้อายุประมาณหนึ่งปี ขณะเดียวกันจะจัดพื้นที่นา เป็นลักษณะเหมือนสระน้ำ ความลึกไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร ขึงรอบด้วยตาข่ายเขียว ก่อนที่จะนำพ่อพันธุ์แม่พันธุใส่ลงบ่อ เพื่อผสมพันธุ์ประมาณ 300 คู่ รอระยะเวลาการผสมพันธุ์หนึ่งคืน รุ่งเช้าตักพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ออกจากบ่อ ผ่านไปสัก 2-3 ชั่วโมง จะเริ่มเห็นไข่กบลอยขึ้นตามผิวน้ำ

จากนั้นรอเวลาอีก 4 ชั่วโมง จะเริ่มเห็นลูกอ๊อดหรือลูกฮวก เมื่อผ่านไปประมาณ 2 วัน สามารถให้อาหารได้ โดยจะใช้หัวอาหารปลาดุกในการเลี้ยง ใช้ระยะเวลา 20-25 วัน ก็สามารถนำส่งขายได้ วิธีการตักจะใช้ตาข่ายอวนลาก ขึ้นมาจากบ่อ พร้อมตักมาชั่งน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ก่อนนำไปบรรจุถุงอัดออกซิเจน เพื่อสะดวกในการเดินทางส่งไปขาย ลักษณะนี้สามารถอยู่ได้ 7-8 ชั่วโมง ถึงมือผู้บริโภคแบบยังสดใหม่

 ปัจจุบันกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่เลี้ยงกบขายลูกอ๊อด ไม่เพียงแค่การเลี้ยงกบขายลูกอ๊อดหรือลูกฮวกเท่านั้น ยังมีการเพิ่มมูลค่า ด้วยการนำลูกอ๊อด มาบีบไส้ออกด้วยแรงงานคน เป็นการสร้างงานให้กับชุมชน พร้อมทำความสะอาดและนำไปบรรจุแพ็คเกจ แช่แข็งน้ำหนักถุงละ 1 กิโลกรัม ลูกค้าสามารถซื้อไปปรุงเป็นเมนูเด็ด ทั้งแกงอ่อมหรือหมกฮวกได้แบบสะดวกสบาย

นายสนธยา ฝาระมี อายุ 48 ปี เลขาประธานวิสาหกิจชุมชน แปลงใหญ่ บ้านหนองแต้ หมู่ 7 ต.นาขาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม เปิดเผยว่า ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่บ้านหนองแต้ ทำอาชีพเลี้ยงเลี้ยงกบขายลูกอ๊อด ประมาณ 70 ครัวเรือน เริ่มจากภูมิปัญญาชาวบ้านเลี้ยงขายตามตลาดทั่วไป ปัจจุบันมีการยกระดับทำฟาร์มกบขายลูกอ๊อดขนาดใหญ่ โดยมีการตั้งวิสาหกิจชุมชน เพื่อแปรรูป นำลูกอ๊อดหรือลูกฮวกบรรจุแช่แข็ง เพื่อความสะดวกของลูกค้า รวมถึงความสะดวกในด้านการตลาด สามารถส่งขายทั่วประเทศ และเก็บไว้ได้นานกว่าปกติ มีราคาขายกิโลกรัมละ 250 บาท ส่วนหน้าฟาร์มถ้าขายลูกอ๊อดสด จะขายกิโลกรัมละ 100 บาท

โดยนายสนธยาเผยว่าจะทำการเลี้ยงในฤดูแล้ง หลังสิ้นฤดูกาลทำนาเนื่องจากเป็นช่วงที่เหมาะสม สำหรับการขยายพันธุ์ของพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบ ทำให้ปัจจุบันสามารถเพิ่มมูลค่าได้เป็นอย่างดี และสร้างรายได้เข้าชุมชนประมาณปีละ  20 ล้านบาท มีทั้งขายในประเทศรวมถึงส่งถึงต่างประเทศ ลูกค้าส่วนใหญ่มีออเดอร์ไปยังประเทศออสเตรเลีย สิงคโปร์ เป็นต้น

“ไม่เพียงการขายลูกอ๊อดเท่านั้น  ยังขายกบชำแหละแช่แข็ง โดยเป็นกบที่เลี้ยงไว้อายุประมาณสามเดือน ในราคากิโลกรัมละ 250 บาท เป็นแพ็คเกจแช่แข็ง สะดวกต่อลูกค้า ซื้อนำไปปรุงเป็นอาหารอีสานรสเด็ด สำหรับอายุพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ จะสามารถให้ผลผลิตได้ในระยะเวลาสองปี จากนั้นจะปลดระวางส่งขายในราคาถูก และมีการเพาะพันธ์ขยายพันธุ์เป็นรุ่นๆ เพื่อนำมาผสมพันธุ์ขายลูกอ๊อดต่อไป ถือว่าเป็นอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่สร้างรายได้ดีพอสมควร เมื่อถึงฤดูฝนจะกลับไปทำนาเป็นปกติ” นายสนธยา ระบุ

นายสนธยา ระบุว่า ส่วนการปรุงอาหาร ส่วนใหญ่เมนูหลักจะนำไปแกงอ่อมใส่เครื่องเคียงสมุนไพร ที่ขาดไม่ได้คือใบชะพลู รวมถึงแกงใส่หน่อไม้ดอง อีกทั้งสามารถนำไปทำเป็นห่อหมกหรือรู้จักในชื่อหมกฮวก ตามความชอบ ถือเป็นเมนูเด็ดหากินยาก ตามร้านอาหารทั่วไป จะมีราคาแพงหลังปรุงเป็นอาหารถ้วยละ 200-300 บาท ช่วงต้นฤดูมีราคาซื้อขายหน้าฟาร์ม กิโลกรัมละ 200 บาทเลยทีเดียว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลตีปี๊บ ประกวด 'ข้าวหอมมะลิไทย' ช่วยยกคุณภาพชีวิตเกษตรกร

รัฐบาลหนุนเกษตรกรและโรงสี จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยปี 2566 เฟ้นหาและอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยคุณภาพชั้นเลิศ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่าย

ผวาหนัก! คนหาปลาดันเจอ 'ระเบิดตอร์ปิโด' ริมฝั่งโขง

ชาวบ้านหาปลาริมฝั่งโขงนครพนม ผวาหนัก เจอระเบิดสงคราม อยู่ในสภาพใช้งานได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ระบุ คาดว่าระเบิดยุคสงครามอินโดจีน เตือนหนัก หากพบวัตถุต้องสงสัยอย่าเก็บไป ต้องรีบแจ้งทันที

สงกรานต์นครพนม แห่ขอพรพญานาค

นครพนมสุดคึกคัก สงกรานต์แห่ขอพรพญานาค ถนนข้าวปุ้นอุโมงค์น้ำคึกคัก อากาศร้อนแตะ 40 องศาฯ ในเมืองเล่นสงกรานต์เที่ยงคืน