
ผู้ว่าฯชัยนาท สั่งปิดร้านอาหาร 3 แห่งชั่วคราว หลังเกิดคลัสเตอร์ มีพนักงาน PR จากต่างพื้นที่ นำโควิด-19 ไปแพร่สู่พนักงานในร้านอาหารกึ่งผับและลูกค้าที่ไปใช้บริการ พบติดเชื้อแล้ว 33 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวนมาก
18 ม.ค.2565- จากกรณีเกิดคลัสเตอร์ พนักงานในร้านอาหาร 3 แห่ง ประกอบด้วยร้านอาหารกึ่งสถานบริการ 2 แห่ง ได้แก่ ร้านขวัญเรือนแลนด์มารค์ และ ร้านเดอะซัน ตั้งอยู่ริมถนน 340 อ.เมืองชัยนาท และร้านอาหารชาบูบู้ตึ้ง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองชัยนาท ติดเชื้อโควิด-19 แล้วแพร่กระจายเชื้อไปยังลูกค้าที่ไปใช้บริการ ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 33 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวนมาก
ล่าสุด นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยนาท มีคำสั่งปิดร้านอาหารทั้ง 3 แห่ง เป็นการชั่วคราว เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคสถานที่ แม้ก่อนหน้านี้ทางร้านจะได้ปิดร้านกันไปก่อนแล้ว หลังพบพนักงานติดเชื้อ แต่เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ทางจังหวัดจึงมีคำสั่งให้ปิด ร้านขวัญเรือนแลนด์มาร์ค ไปจนถึงวันที่ 19 ม.ค.65 / ปิดร้านเดอะซัน ไปจนวันที่ 25 ม.ค.65 / ปิดร้านชาบูบู้ตึ้ง ไปจนถึงวันที่ 24 ม.ค.65
หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะมีความผิด อาจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเมื่อครบกำหนดระยะเวลาปิด หากต้องการเปิดดำเนินกิจการต่อ จะต้องขออนุญาต และให้พนักงานควบคุมโรคติดต่อ เข้าทำการประเมินความพร้อม และตรวจคัดกรองพนักงานในร้านทุกรายก่อน ซึ่งพนักงานที่จะมาให้บริการในร้าน จะต้องเป็นคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดชัยนาทเท่านั้น ห้ามนำพนักงานจากจังหวัดอื่น มาให้บริการ เพื่อป้องกันการนำเชื้อเข้ามาแพร่ระบาดในจังหวัดชัยนาทซ้ำอีก
สำหรับ คลัสเตอร์ร้านดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงที่ทางจังหวัดผ่อนผันการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค อนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ภายในร้าน ก่อนที่จังหวัดชัยนาทจะถูกปรับพื้นที่ควบคุมให้เป็นพื้นที่สีส้ม โดย คลัสเตอร์ ร้านขวัญเรือนแลนด์มาร์ค พบรายแรกวันที่ 14 ม.ค.65 ติดเชื้อจาก พนักงาน PR ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อยืนยัน จ.สุพรรณบุรี เดินทางมาทำงานในร้านขวัญเรือน ทำให้เกิดการติดเชื้อในกลุ่มพนักงานและลูกค้าที่ไปใช้บริการ ที่พนักงานPR สัมผัสร่วมโต๊ะ และลูกค้าที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของ PR มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว จำนวน 22 ราย
เช่นเดียวกับ คลัสเตอร์ ร้านเดอะซัน พบรายแรกวันที่ 14 ม.ค. 65 ติดเชื้อจากพนักงาน PR ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อยืนยัน จ.นนทบุรี เดินทางมาทำงานในร้านเดอะซัน ทำให้เกิดการติดเชื้อในกลุ่มพนักงานและลูกค้าที่ไปใช้บริการ มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว จำนวน 10 ราย ส่วนร้านชาบูบู้ตึ้ง มีพนักงานติดเชื้อ 1 ราย จากการไปเที่ยวร้านขวัญเรือน และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 13 ราย
ทั้งนี้ สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท ประกาศให้ผู้ที่ไปใช้บริการร้านอาหารทั้ง 3 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 6 -13 ม.ค.65 ให้รีบแจ้งสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อรับการคัดกรองประเมินความเสี่ยง และตรวจหาเชื้อ เพราะถือเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
น้ำใจชาวนาบางขุด ส่งเสบียง 'อาหารปลอดภัย' ช่วยพี่น้องใต้
ความภูมิใจของชาวนาบางขุด ชัยนาท กับเสบียงอาหารปลอดภัย สู่พี่น้องผู้ประสบภัยภาคใต้ในยามวิกฤตน้ำท่วม
น้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ลดต่อเนื่องแต่ยังท่วมสูง ชาวบ้านหาปลาไม่ได้ น้ำไหลแรงเน่าเสีย
น้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ลดลงต่อเนื่อง แต่ยังท่วมสูง ชาวบ้าน อ.สรรพยา หาปลาไม่ได้ เพราะน้ำไหลแรงและเน่าเสีย จึงเปลี่ยนเรือหาปลา เป็นเรือรับจ้าง รับส่งคนในหมู่บ้านแทน เพื่อหารายได้ช่วงที่น้ำยังท่วมสูง
สส.อนุชานำทีมฟุตบอล อบจ.ชัยนาท แชมป์กีฬา 7 HD แชมเปียนคัพ 2025 ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ ให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลตลุก ย้ำพร้อมให้การช่วยเหลือเต็มที่
วันนี้ 15 พ.ย.2568 ที่ บริเวณเทศบาลตำบลตลุก อำเภอสรรพยา จ.ชัยนาท นายอนุชา นาคาศัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชัยนาท เขต 1 พร้อมด้วย นางจิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท โค้ชเมธ สุเมธ อยู่โต
มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์เดินหน้าช่วยผู้ประสบอุทกภัย อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลตลุก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท เพื่อส่งต่อความห่วงใยและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่
น้ำท่วมชัยนาทขยายวงกว้าง ขณะที่เจ้าพระยายังสูงต่อเนื่อง
วันนี้แม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เพิ่มขึ้นกว่า 3,537 ลูกบาศก์เมตรต่อวินา
ชัยนาท ระทึกกลางดึก คันกั้นน้ำพังหลายจุด ทะลักท่วมหมู่บ้าน หลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำ
เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำเป็น2,700 ลบ.ม./วินาที ทำน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้นกว่า 37 เซนติเมตร พัดคันกระสอบทรายพังหลายจุด กระแสน้ำแรงทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านกลางดึก ชาวบ้านเก็บของหนีน้ำจ้าละหวั่น


