พรรคพลังประชารัฐประชุมชาวตราด แจงปัญหาเขตแดนไทยกัมพูชาด้านเกาะกูด หวั่นเสียดินแดน หากรัฐบาลนิ่งเฉย ขณะกลุ่มประมงยื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาลยกเลิก MOU 2544
21 ธ.ค.2567 - ที่โรงแรมเอวาดา ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานร่วมศูนย์นโยบาย และวิชาการ และ ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนในจังหวัดตราด โดยได้รับการประสานงานจากประชาชนในพื้นที่ว่า ได้ติดตามเรื่อง MOU 2544 มีความห่วงใยเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐ จึงขอให้มาจัดกิจกรรมและให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวที่จังหวัดตราดเพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อปัญหานี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งมีประชาชนชาวตราด นำโดยนายกาหลง หาดอ้าน ประธานชมรมอาสาสมัครพิทักษ์สิ่บแวดล้อมและเครือข่ายประมงพื้นบ้านจังหวัดตราด และกลุ่มอื่นๆร่วมรับฟังกว่า 300 คน
นายสนธิรัตน์ กล่าวถีงการเดินทางมาจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในปัญหาของชาวตราดที่ต้องรับรู้ในเรื่องของบ้านตัวเอง ซี่งวันนี้ เกาะกูดและพื้นที่ทะเลกำลังมีปัญหาจากรายละเอียดของ MOU 2544 หากปล่อยไปโดยไม่ออกมาทำความเข้าใจและคัดค้านอาจจะส่งผลกระทบต่ออาณาเขตทางทะเลขอลประเทศไทยให้กับกัมพูชา ซึ่งในรายละเอียดนั้น ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ที่เป็นเชื้อสายชาวตราดจะอธิบายให้ทุกคนรับทราบและเข้าใจ
จากนั้น ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ ได้นำเรื่องราวความเป็นมาของเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของไทยในช่วงเวลาในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เกี่ยวข้องกับชาวตราด โดยเฉพาะการคืนจังหวัดตราดมาให้ประเทศไทยในยุคที่ฝรั่งเศสเข้ามาล่าอานานิคมซี่งร.5 ได้นำ 3 จังหวัดในกัมพูชา คือ เสียมเรียบ ศรีโสภณ และพระตะบองแลกคืนจังหวัดตราดกลับมา
ต่อมามีการลากเส้นอาณาเขตทางทะเลหรือเส้นเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเล ซี่งทางกัมกัมพูชาลากกันคนละเส้น ซึ่งเส้นของกัมพูชาลากมาเข้าเกาะกูดของไทย โดยไม่ยึดกฎหมายสากล ซึ่งทั้งสองประเทศยังไม่ได้มีการเจรจากันอย่างจริงจัง และแม้จะมีการทำ MOU 2544 ขึ้นก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ และรัฐบาลปัจจุบันก็ยังไม่ขยับ แต่กลับจะทำข้อตกลงเพื่อร่วมแบ่งปันพื้นที่ทางทะเล ซึ่งไม่ใช่เป็นของกัมพูชาแต่เป็นของไทย แล้วเราจะเอาทรัพยากรของไทยไปแบ่งครึ่งกับกัมพูชาได้อย่างไร
นี่คือสิ่งที่พวกเราพรรคพลังประชารัฐมีข้อห่วงใย และขับเคลื่อนออกมาเพื่อให้รัฐบาลเกิดความตระหนัก และไม่นำดินแดนของไทยไปให้กัมพูชา และหากยังไม่แสดงความชัดเจนอาจะเกิดผลกระทบทั้งการเมือง และประชาชนในพื้นที่ได้ และที่อันตรายมากก็คือ แนวสันเขื่อนดินที่กัมพูชาสร้างต่อเติมออกไปนั้น เป็นจุดที่อันตรายมาก เพราะการวัดอาณาเขตจะต้องยึดแนวสันเขื่อนนี้ที่เป็นสิ่งปลูกสร้างไว้นานแล้ว หากไม่ประท้วงหรือไม่มีข้อคัดค้านใดๆก็จะกลายเป็นเขาพระวิหาร 2 เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
"ในพระราชวงศ์จักรีมีพระเจ้าน้องยาเธอในรัชกาลที่ 5 ที่มีเชื้อสายตราดสองพระองค์ คือ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช และกรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ ต้นราชสกุลเกษมศรี เพราะมีพระมารดา คือ เจ้าจอมมารดาจันทร์ ธิดาเจ้าเมืองตราด มีบ้านเกิดอยู่ที่หนองคันทรง ในอำเภอเมืองตราด ตนจึงมีความผูกพันกับตราดโดยสายเลือด ซึ่งผมจะไม่ยอมให้เกาะกูดเป็นของเขมรเด็ดขาด"
ประธานกลุ่มประมงชุมชนชายฝั่งอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลตำบลหาดเล็ก ได้แสดงความห่วงใยว่า MOU 2544 ปรากฏเส้นเขตแดนทางทะเลกัมพูชารุกล้ำทะเลจังหวัดตราดเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ย่อมส่งผลกระทบต่ออาชีพการประมง กระทบต่อรายได้ความเป็นอยู่ของประชาชนตามชายฝั่งทะเลตราดในอนาคต และที่สำคัญคืออาจเสียเขตแดนทางทะเลที่เป็นของคนไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา
ต่อมาประธานกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อมตำบลท่าพริก กล่าวว่า ที่กลุ่มของตนเดินทางมาในครั้งนี้เนื่องจากกังวลใจต่อสถานการณ์ที่รัฐบาลพยายามเดินหน้า MOU 2544 ที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของของคนตราด และสอบถามเรื่องที่รัฐบาลต้องการแบ่งผลประโยชน์ก๊าซและน้ำมันในทะเลตราดให้แก่กัมพูชาทั้งที่เป็นของประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่จะต้องเกิดขึ้น
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ตนเดินทางมาในครั้งนี้ เพราะต้องการมารับฟังปัญหาทุกด้านจากพี่น้องประชาชนจังหวัดตราดด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำประมง การทำการเกษตร ตนในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยินดีรับฟัง และจะหาทางช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และขอขอบคุณที่ติดตามปัญหาเรื่อง MOU 2544 และได้เดินทางมายื่นหนังสือในวันนี้ ตนขอยืนยันว่า จะคัดค้านการกระทำใดๆ ที่จะทำให้ประเทศ และประชาชนไทยเสียประโยชน์
ตนเห็นว่า การดำเนินการตาม MOU 2544 สุ่มเสียงต่อการเสียอาณาเขตทางทะเลของไทยที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงรักและหวงแหนเป็นที่สุด ยอมแลกพื้นที่กัมพูชาครึ่งประเทศเพื่อได้จังหวัดตราดกลับคืนมาจากฝรั่งเศส MOU 2544 เป็นเอกสารราชการไทยฉบับแรกที่รับรู้การลากเส้นเขตแดนทางทะเลตามอำเภอใจของกัมพูชา ทับน่านน้ำภายในของจังหวัดตราด ทับทะเลอาณาเขตของเกาะกูด และทับเขตเศรษฐกิจจำเพาะทิศตะวันตกของเกาะกูด ชาวตราดย่อมได้รับผลกระทบ ทั้งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงปฏิเสธเส้นที่กัมพูชาขีด ด้วยการประกาศพระบรมราชโองการเส้นไหล่ทวีปของไทยไว้เมื่อ ปี 2516 ตนจึงขอยืนยันว่า ตนยืนเคียงข้างพี่น้องชาวตราดยึดมั่นในพระราชปณิธานปกป้องทะเลตราดเพื่อเป็นมรดกให้ลูกหลานไทยสืบไป และขอขอบคุณพี่น้องชาวตราดที่มายื่นหนังสือในวันนี้
จากนั้น ตัวแทนชาวประมง 2 กลุ่มคือนายกาหลง หาดอ้าน และนายเอก ขาวคม ได้ยื่นหนังสือให้นายสนธิรัตน์ ผ่านไปยังนายกรัฐมนตรีและผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อคัดค้าน MOU 2544
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เฉลิม’ ยืนยันลาออกพ้นเพื่อไทย เตรียมย้ายซบพลังประชารัฐ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เผยเซ็นลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว เตรียมยื่น กกต. วันที่ 3 ธ.ค. ย้ำเป็นเหตุผลทางการเมือง ไม่มีการแจ้งแพทองธาร และยังไม่ได้คุยกับวัน อยู่บำรุง ก่อนประกาศชัด
‘ลุงป้อม’ไปต่อ! พปชร.ปรับทัพ ตรีนุชนั่งเลขาฯ
พปชร.ปรับทัพใหม่สู้เลือกตั้ง ดัน “ตรีนุช” นั่งเลขาธิการพรรค เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ 3
'เกาะช้าง-เกาะกูด' คึกคัก นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ส่วนคนไทยแห่ขึ้นเหนือ
เที่ยวเกาะกูดยังคึกคัก แม้อุณหภูมิลด เรือโดยสารยังเปิดบริการ ขณะนทท.ต่างชาติข้ามเที่ยวจากเกาะช้างมาเกาะกูดวันละ 400 คน
พปชร.จัดทัพสู้ศึกเลือกตั้ง 'บิ๊กป้อม' ให้ถาม 70 ล้านคน ยังอยากให้เล่นการเมืองหรือไม่
ประชุมใหญ่ พปชร. ปรับโครงสร้างพรรค ลุยศึกเลือกตั้ง เลือก “ตรีนุช เทียนทอง” เป็นเลขาฯ พร้อมเปิดรับชื่อ 3 แคนดิเดตนายกฯ ก่อน 8 ธ.ค. “บิ๊กป้อม” ปล่อยหมัดถามประชาชน 70 ล้านคน ยังอยากให้ตัวเองอยู่การเมืองต่อหรือไม่
ชาวบ้านชำราก อึดอัดสถานการณ์ชายแดน กระทบทำมาหากิน อยากให้รบกันไปเลยจะได้จบ
ชาวบ้านชำราก กังวลไทย-เขมร อาจปะทะรอบ 2 แต่อยากให้รบให้จบ เหตุทำกินลำบาก ด้านเอกชนขนเครื่องจักรแรงงานทำถนนชายแดนชำรากฟรี!!
ฤกษ์ดี 'บิ๊กป้อม' เป็นประธานบวงสรวง พิธีตั้ง 'ศาลพระภูมิ' ที่ทำการพรรคพปชร.แห่งใหม่
ฤกษ์ดี 'บิ๊กป้อม' เป็นประธานบวงสรวง พิธีตั้ง 'ศาลพระภูมิ-ศาลตา ยายง ที่ทำการพรรคพปชร.แห่งใหม่ ถนนประชาราษฎร์ เสริมสิริมงคล


