ศาลฯ จำคุก-ปรับ 'ลุงสมหมาย' คดีชกทหารกัมพูชา ลั่นพร้อมสู้หากเปิดศึก

ศาลแขวงสุรินทร์ตัดสินคดีลุงสมหมาย ชกทหารกัมพูชา ปรับ 2,500 บาท รอลงอาญา 1 ปี เจ้าตัวยอมรับผิด แต่ย้ำ “จะกลับไปปราสาทตาเมือนธมแน่นอน” พร้อมสู้หากเปิดศึก

21 กรกฎาคม 2568 - ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ พร้อมด้วยนายวีรยุทธ ศิริเรืองประภา ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจากทนายโนบิ ได้เดินทางไปยังศาลแขวงสุรินทร์ เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีทำร้ายร่างกาย หลังเกิดเหตุการณ์ชกทหารกัมพูชาบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ภายหลังศาลมีคำพิพากษา นายวีรยุทธเปิดเผยว่า พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องนายสมหมายในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยไม่เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ศาลพิพากษาจำคุก 1 เดือน และปรับ 5,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 15 วัน และปรับ 2,500 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี

นายสมหมายเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนสบายใจที่ศาลตัดสินตามกฎหมาย ยอมรับว่าตนผิดและพร้อมรับโทษ ไม่เคยคิดหลบหนี พร้อมระบุว่าจะไม่ไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทอีก และขอบคุณ “คุณกัน จอมพลัง” ที่ดูแลเรื่องการชำระค่าปรับให้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม นายสมหมายยืนยันว่า จะเดินทางไปยังพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมอีกครั้ง เพราะยืนหยันว่านั่นคือ “แผ่นดินไทย” และตนมีสิทธิเข้าไปได้ พร้อมกล่าวว่าได้แจ้งแม่ทัพภาคที่ 2 แล้วว่า หากมีการเปิดศึก ตนพร้อมร่วมรบในฐานะทหารอาสา โดยเฉพาะทหารพรานจากค่ายปักธงชัยที่พร้อมสนับสนุนทุกเมื่อ

แม้ศาลจะรอลงอาญาไว้ 1 ปี นายสมหมายยืนยันว่า จะยังคงเคลื่อนไหวต่อไป โดยระบุว่า หากมีการเปิดศึก ตนพร้อมสวมเครื่องแบบ จับอาวุธ และออกมาต่อสู้เพื่อทวงคืนแผ่นดินไทย แม้อายุจะถึง 60 ปี แต่ยังมีกำลังกายและจิตใจเต็มเปี่ยม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

เจ้าของอาลัย ช้างพลายคู่หมู่บ้านล้มปริศนา หลังสัตว์เลี้ยงทยอยตายในพื้นที่

เจ้าของอาลัย ช้างพลายคู่หมู่บ้านล้มปริศนา หลังสัตว์เลี้ยงทยอยตายในพื้นที่ – ปศุสัตว์จังหวัด เร่งเก็บเลือดตรวจหาสาเหตุในพื้นที่เกิดเหตุ

ทำอะไรไม่ได้ ! กองทัพภาค 2 แฉกัมพูชาขโมยลวดหนาม คาดล่อทหารไทยเข้าเขตสังหารซุกระเบิด

กองทัพภาค 2 แฉพบทหารเขมรขโมยลวดหนามออกจากพื้นที่ชายแดน บริเวณช่องระยี–ช่องเปรอ อ.กาบเชิง จว.สุรินทร์

ชายแดนระอุ! ทภ. 2 ส่องทหารกัมพูชา 4 พื้นที่เสี่ยง สร้างกระเช้าขึ้นเนิน ส่งรถถังประชิด วางทุ่นระเบิดล้อมรอบ

กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ 4 พื้นที่เสี่ยง ทหารกัมพูชาตรึงกำลัง-วางทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ ใช้ปราสาทตาควาย เป็นบังเกอร์ สร้างกระเช้าขึ้นเนิน 350 ด้านทิศตะวันตก ภูมะเขือ มีรถถัง10คัน ส่วนช่องอานม้าเนิน 677ถูกยึด ช่องบก มีกำลัง 800 นาย

โรงเรียนชายแดนซ้อมอพยพหลบภัยหากเกิดเหตุปะทะ

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สุรินทร์ ซึ่งพบว่ายังคงตึงเครียด โดยเฉพาะเรื่องทหารกัมพูชาที่แหล่งข่าวระบุว่า มีการเสริมกำลังขึ้นมาประชิดชายแดนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ประชาชนชายแดนที่ทราบข่าว

กองทัพเรือ ซัดกัมพูชาป่วนเก็บกู้ทุ่นระเบิด โยนประทัดสร้างสถานการณ์ ป้ายสีไทยใช้อาวุธ

พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่าตามที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเผยแพร่รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2025 ว่าคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนของกัมพูชา (ASEAN Observer Team: AOT) ได้ยุติภารกิจตรวจสอบการหยุดยิงบริเวณช่องทาง