เศรษฐกิจชายแดนคึกคัก แห่นำเงินเยียวยาออกมาจับจ่าย ขอบคุณรัฐบาลใหม่เร่งรัดเบิกจ่าย

ประชาชนในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ แห่กดเงินเยียวยาผู้ประสบภัยฯ 5,000 บาท ออกมาจับจ่ายใช้สอยเลือกซื้อ ของกินของใช้ และสินค้าข้าวของเครื่องอุปโภค-บริโภค ที่ตลาดสด และร้านค้าต่างๆ ส่งผลให้การค้าขายแนวชายแดนจากที่เงียบเหงา กลับมาคึกคักอีกครั้ง

6 ตุลาคม 2568 - เมื่อเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีประชาชนชาว อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ต่างออกมาเลือกซื้อจับจ่ายข้าวของต่างๆ ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง และสิ่งของเครื่องใช้อุปโภค-บริโภคต่างๆ ทั้งที่บริเวณตลาดสดเทศบาลตำบลบ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตลาดนัดคลองถม ร้านซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าตามหมู่บ้าน ชุมชนต่างๆ ในเขตตัว อ.บ้านกรวด กันอย่างคึกคักเป็นพิเศษ ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้ายิ้มออก หลังขายสินค้าดีกว่าปกติทุกวันที่ผ่านมา

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่สำรวจตลาดของทีมข่าว และได้สอบถามจากปากของพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่ออกมาจับจ่ายสินค้าส่วนใหญ่ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเพราะอานิสงค์จากการที่ รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัย กรณีอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ ปี 2568 ครัวเรือนละ 5,000 บาท จึงทำให้ในหลายพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านได้รับเงินเยียวยาดังกล่าว ต่างออกมากดถอนเงินสดจากตู้ เอ.ที.เอ็ม. และจากทางธนาคาร ออกมาจับจ่ายใช้สอย เลือกซื้อสินค้าเครื่องอุปโภค-บริโภค เพื่อนำไปรับประทานในครอบครัว และกักตุนเสบียงอาหารไว้กันมากกว่าปกติ

นางสากล ล่าโพนทัน อายุ 59 ปี แม่ค้าขายปลาส้มและอาหารแปรรูป ตลาดสดเทศบาลตำบลบ้านกรวด บอกว่า ก็เพิ่งเห็นวันนี้แหละที่ชาวบ้าน ออกมาจับจ่ายซื้อข้าวของกันเยอะ คึกคักกว่าปกติ แตกต่างจากเมื่อวันก่อนๆที่ค่อนข้างจะเงียบ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการที่รัฐบาล ได้โอนเงินเยียวยาผู้ประสบภัยฯ จึงทำให้ประชาชนมีเงินจับจ่ายใช่สอยกันมากขึ้น และทำให้พ่อค้าแม่ค้าขายของดีขึ้นตามไปด้วย ซึ่งถือกว่าดีกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก

น.ส.กรรณิการ์ สวามิตร อายุ 24 ปี แม่ค้าขายปลาร้าตลาดสดเทศบาลตำบลบ้านกรวด บอกว่า ในวันนี้(6ต.ค.68) หลังจากที่ชาวบ้านได้เงินเยียวยาผู้ประสบภัยฯ ก็ได้มีชาวบ้านออกมาจับจ่ายเลือกซื้อข้าวของกันคึกคักมากขึ้นกว่าเดิม จากที่วันปกติจะมีแต่คนที่มาเดินดูการขายของก็จะเงียบนิดนึง แต่พอมาวันนี้หลังชาวบ้านได้เงิน 5,000 บาท ทำให้ชาวบ้านมีกำลังซื้อกันมากขึ้น

นายวรนารถ หาญบุรี อายุ 30 ปี พ่อค้าขายไก่สด ตลาดสดเทศบาลตำบลบ้านกรวด บอกว่า วันนี้ตลาดคึกคักกว่าทุกวัน ขายของดีขึ้นจากปกติทุกวัน ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการที่ชาวบ้านได้รับเงินเยียวยาผู้ประสบภัยฯ

นางวรรณี พิประโคน อายุ 39 ปี ชาวบ้านตำบลบ้านกรวด อ.บ้านกรวด หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับเงินเยียวยาผู้ประสบภัยฯ บอกว่าหลังทราบว่าเงินเยียวยาฯถูกโอนเข้าบัญชี จึงรีบไปกดมาแต่เช้าทั้งหมด 5,000 บาท เพื่อนำมาใช้จ่ายทั้งซื้อกับข้าว ของกิน ของใช้ในครัวเรือน ข้าวสาร อาหารแห้งต่างๆเก็บกักตุนไว้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งดีที่ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในห้วงนี้ ต้องขอขอบคุณรัฐบาลชุดใหม่ ที่ได้มีการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยฯ ทำให้ชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้ในระยะหนึ่ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับไต๋กัมพูชาวางแผนลึก จ้องขยับหลักเขตแดนสุดท้ายทางบก หวังฮุบทรัพยากรพลังงานใต้ทะเล

‘พีระพันธุ์-พล.ท.กนก’ จับไต๋กัมพูชาวางแผนลึก จ้องขยับ ‘หลัก 73’ เปลี่ยนแนวเส้นเขตแดน หวังฮุบทรัพยากรพลังงานใต้ทะเล หนุนไทยเปิดเกมรุกตอบโต้อย่างเด็ดขาด ย้ำอธิปไตยชาติสำคัญกว่าทุกสิ่ง ยิ่งปล่อยยืดเยื้อยิ่งเจอศึกหนัก!

กังขา ‘อันวาร์-ประธานอาเซียน’ วางบทบาทเป็นกลางจริงหรือไม่

ฝ่ายปกครอง-ความมั่นคงกระทุ่มแบน ออกตรวจพื้นที่ช่วงตีสอง เจอสายปั่นมีพิรุธก่อนพบยาบ้า 186 เม็ดในกระเป๋า ขยายผลบุกค้นบ้านเจอซุกอีก 7,780 เม็ด ผู้ต้องหาหน้าถอดสี ยอมรับทั้งหมดเป็นของตนเอง

‘จตุพร’ ชี้การเดินสายพูดของ ‘บิ๊กกุ้ง’ ยังจำเป็นต่อการปลุกกระแสรักชาติ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเปราะบาง

ผบ.ทบ. เยี่ยมกำลังพลบาดเจ็บ เหยียบกับระเบิดเขมรลอบวางที่ห้วยตามาเรีย

ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของหน่วยป้องกันชายแดนในพื้นที่ของกองทภ. 2 พร้อมเยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนตรวจเยี่ยมการฝึกทหารใหม่ของหน่วยในพื้นที่

ทบ. ตรวจพบทุ่นระเบิด 'ช่องอานม้า' เพิ่มอีก 2 ทุ่น แบบ PMN-2 สภาพใหม่

ทบ. เผยยังคงตรวจพบทุ่นระเบิดต่อเนื่อง ล่าสุดในพื้นที่ช่องอานม้า พบอีก 2 ทุ่น ยืนยันเดินหน้ากวาดล้างทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนในเขตอธิปไตยไทย เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชน