ลุ้นคั่วนายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” ดีลลงตัว ทักษิณ-เสี่ยนิด-พท.

เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยไปแล้วสำหรับว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย “เสี่ยนิด เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)” นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ที่เลือกใช้เวลาและสถานที่เปิดตัวที่ไม่ธรรมดา เพราะใช้จังหวะช่วงเทศกาลตรุษจีน เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา เปิดตัวไปลงพื้นที่ย่านเยาวราช กับ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ที่ยกคณะชุดใหญ่ โดยเฉพาะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต กรุงเทพมหานครของพรรคเพื่อไทยหลายคนลงพื้นที่ เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เนื่องในวันตรุษจีน และพบปะพูดคุยกับนักธุรกิจในย่านเยาวราช

โดย เศรษฐา ระบุชัดๆ ระหว่างให้สัมภาษณ์ ว่าจะมาช่วยแพทองธารดูเรื่องเศรษฐกิจ จากนั้นโชว์สเต็ปนักการเมืองตั้งแต่วันแรกของการเปิดตัว ด้วยการบอกว่าจะนำเสียงสะท้อนที่ได้จากการพูดคุยกับนักธุรกิจ-ประชาชน ไปปรับเป็นนโยบายให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม เศรษฐา รู้ดีอยู่แล้วว่า เปิดตัวครั้งแรกต้องถูกสื่อถามแบบรุกหนักว่า จะมีชื่อของตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพื่อไทยหรือไม่ ทำให้ เศรษฐา-แสนสิริ ไม่ตอบแบบชัดๆ โดยบอกแต่ว่าขณะนี้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยมาช่วยด้านเศรษฐกิจ และบอกชัดว่า มีความปรารถนาที่อยากจะให้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเยอะที่สุด ไม่งั้นก็คงไม่มาช่วย ส่วนที่ว่าหลังจากนี้จะร่วมลงพื้นที่กับเพื่อไทยในช่วงหาเสียงและขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่ ต้องดูเวลาด้วย เพราะยังทำงานที่บริษัทแสนสิริอยู่

เห็นได้ชัดว่า เศรษฐา ทำการบ้านมาระดับหนึ่ง ในการที่จะไม่ตอบอะไรที่ผูกมัดตัวเองและพรรคเพื่อไทย ในขณะที่ยังต้องรอให้ ทักษิณ ชินวัตร และเพื่อไทย เคาะชื่อแคนดิเดตนายกฯ อย่างเป็นทางการออกมาก่อน ที่ก็ยังมีเวลาเหลืออีกพอสมควร

ทำให้ เศรษฐา ต้องออกลูกแทงกั๊กไว้แบบนี้ เพราะหากขืนพูดออกตัวไปตอนนี้ว่าพร้อมแล้วสำหรับการลงชิงเก้าอี้นายกฯ ในนามพรรคเพื่อไทย แล้วต่อไปสถานการณ์วันข้างหน้าเปลี่ยน จนเพื่อไทยต้องปรับแผน ไม่เป็นอย่างที่เคยประกาศไว้ มันก็ย่อมทำให้ทั้งตัวเศรษฐาและเพื่อไทยอาจพลิกสถานการณ์ลำบากและไม่ทันการณ์ จนอาจเสียคะแนนและเสียความน่าเชื่อถือได้ ทำให้การเดินทางการเมืองของเศรษฐาและเพื่อไทยจึงต้องรัดกุมเป็นพิเศษ

โดยพบว่าทางอุ๊งอิ๊งก็รู้ดีว่า การเปิดตัวของเศรษฐาจะกลายเป็นจุดสนใจมากที่สุดในการลงพื้นที่ ทางอุ๊งอิ๊งและทีมงานการเมืองในเพื่อไทยจึงเห็นว่า ต้องไม่ทำให้การเปิดตัวครั้งแรกของเศรษฐาออฟไซด์ก่อนเวลาอันควร ทำให้อุ๊งอิ๊งพยายามที่จะให้สัมภาษณ์ เพื่อไม่ให้เศรษฐาพูดอะไรที่ผูกมัดตัวเองและเพื่อไทย ด้วยการช่วยประคองการให้สัมภาษณ์ของเศรษฐาตลอดเวลา ไม่ให้มีอะไรที่ออฟไซด์การเมือง   แต่ก็พยายามยกบทบาทของเศรษฐา ว่าไม่ธรรมดา และได้ขอให้มาช่วยกันลงพื้นที่พบปะประชาชน และย้ำว่าเพื่อไทยจะเลือกคนที่มีคุณภาพมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ

อย่างไรก็ตาม แม้ทั้งเศรษฐาและอุ๊งอิ๊งจะแทงกั๊ก ไม่ให้คำตอบชัดๆ เรื่องแคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทย แต่เมื่อเศรษฐาเปิดตัวอย่างเป็นทางการแบบนี้ โดยเลือกวันเปิดตัวในช่วงวันไหว้ของเทศกาลตรุษจีน ที่มีภาพของการใส่เสื้อแดง สีมงคล และยังเป็นสีประจำพรรคเพื่อไทย ที่ถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย

รูปการณ์ทั้งหมดทางการเมืองมันชัดยิ่งกว่าชัดว่า เศรษฐา ลงการเมืองแน่ และพร้อมแล้วสำหรับเป็นหนึ่งใน 3 ชื่อ แคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทย  

เมื่อเป็นแบบนี้ แสดงว่า ทักษิณ เพื่อไทย และเศรษฐา ที่เป็นเพื่อนกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาตั้งแต่สมัยทั้ง 2 คน ยังคงเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยกัน เพราะก่อนหน้านี้ ยิ่งลักษณ์ก็เคยเป็นผู้บริหารบริษัท เอสซี แอสเซท จำกัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลชินวัตร มาก่อนจะเข้าสู่การเมือง ทำให้คาดได้ว่า ทั้งทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เพื่อไทยและเศรษฐา ได้คุยกันลงตัวระดับหนึ่งแล้ว จนเป็นที่มาของการที่เศรษฐาเปิดตัวดังกล่าว

และทำให้นับแต่นี้เป็นต้นไป ทุกก้าวย่างของเศรษฐาจะถูกสปอตไลต์ทางการเมืองจับจ้องเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะทำหรือคิดอะไรก็จะต้องถูกเชื่อมโยงกับเรื่องทางการเมืองและพรรคเพื่อไทยทุกเรื่อง อีกทั้งจะกลายเป็นบุคคลสาธารณะที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ตามมาในทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องในอดีต ก็คาดว่าอาจจะเริ่มมีคนนำกลับมาพูดถึงอีกนับแต่นี้เป็นต้นไป

เรื่องนี้มันก็คือ ต้นทุนทางการเมือง ที่เศรษฐาก็รู้ตัวดีว่า นับแต่นี้ชีวิตส่วนตัวและชีวิตทางธุรกิจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่เศรษฐาที่เป็นนักธุรกิจ นักลงทุน คงคิดแล้วว่ามันคุ้มกับการลงทุน เลยเอาชีวิตส่วนตัวและชีวิตทางธุรกิจเข้ามาบนถนนการเมือง เพราะหากหลังเลือกตั้ง เพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แม้หากสุดท้าย ทักษิณดันอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ ยังไงตัวเศรษฐาก็ต้องมีตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลแน่นอน

ขณะเดียวกัน ทักษิณคงมั่นใจว่า การมีเศรษฐาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกแคนดิเดตนายกฯ และดันขึ้นมาเป็นแกนนำทีมเศรษฐกิจเพื่อไทยในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง มันก็คุ้มค่า และน่าเสี่ยง เพราะคงมองว่าด้วยความสด ความใหม่ ในตลาดการเมืองของเศรษฐา ที่ประสบความสำเร็จในวงการอสังหาริมทรัพย์ระดับหนึ่ง มันก็เป็นเครดิตที่เพื่อไทยจะนำไปขายได้ในช่วงเลือกตั้ง โดยเฉพาะกับชนชั้นกลาง และฐานเสียงเพื่อไทยในระดับตัวเมือง

อีกทั้งคงมองว่า ยังไงเศรษฐา นักธุรกิจระดับพันล้าน คงไม่เดินเข้าเพื่อไทยแบบจับเสือมือเปล่า ไม่ควัก ไม่จ่ายให้เพื่อไทยในช่วงเลือกตั้ง เพราะระดับนี้ ยังไงเข้ามาแล้วก็ต้องมีทุนใส่เข้ามาที่พรรคเพื่อไทย เพื่อให้พรรคชนะเลือกตั้ง

รวมถึงทักษิณอาจมองว่า หากสุดท้าย ถ้าอุ๊งอิ๊งยังไม่พร้อม แล้วต้องดันเศรษฐา คนนอกครอบครัวชินวัตรขึ้นเป็นนายกฯ จริง เพื่อรอให้อุ๊งอิ๊งสุกงอมทางการเมืองมากกว่านี้ ยังไงทักษิณเชื่อว่าเศรษฐาเป็นคนที่เขาสามารถคอนโทรลได้ แม้ทักษิณจะอยู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะกับการเมือง ที่เศรษฐายังละอ่อน ไม่มีฐานเสียงใดๆ โดยเฉพาะกับพวก ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ที่มีช่องว่างกับเศรษฐาเยอะ ทำให้เศรษฐาย่อมไม่กล้าพยศการเมืองใดๆ กับทักษิณแน่ ซึ่งสิ่งนี้จะแตกต่างกับตอนที่ทักษิณหนุน สมัคร สุนทรเวช ให้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลพลังประชาชน ที่ทักษิณคุมไม่ได้ เพราะสมัครเก๋าเกมการเมืองกว่า

ทั้งหมดจึงเป็นความลงตัว และความคุ้มค่าที่จะเสี่ยงด้วยกันทั้งฝ่ายทักษิณ เพื่อไทย และเศรษฐา ทวีสิน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ยัน ฟัน 'สุรเชษฐ์' เป็นเรื่องภายในตร. 'กิตติ์รัฐ' ย้ำดำเนินการตามกม.

นายกฯ เผยสั่ง 'สุรเชษฐ์' ออกจากราชการ เป็นเรื่องภายในตร. ส่วนสอบ 2 บิ๊กสีกากี มั่นใจ 3 คกก.มืออาชีพ ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 คน ด้าน 'กิตติ์รัฐ' ลั่นไม่หนักใจ มั่นใจดำเนินการตามกม.

7 เดือน ‘รัฐบาลเศรษฐา’ เผชิญแรงบีบรอบด้าน!

แม้จะยังไม่ผ่านโค้งแรกในการบริหารประเทศของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เริ่มต้นทำงานได้เพียง 7 เดือน แต่ก็เหมือนถูกบีบจากสถานการณ์รอบด้าน ที่เข้ามาท้าทายความสามารถของผู้นำประเทศ อีกทั้งยังมีภาพนายกฯ ทับซ้อนที่ทำให้นายกฯ นิดดูดร็อปลงไป