รีดทรัพย์ดาราสาวเกาหลี วิกฤตศรัทธาองค์กรตำรวจ

ไม่มีแผ่ว ร้อนแรงข้ามปี องค์กร ตำรวจ นับตั้งแต่ทุนจีนสีเทาคดีผับจินหลิงของ ตู้ห่าว ทำลายความเชื่อถือกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำไม่เหลือชิ้นดี ล้วนแต่เป็นผู้ถือกฎหมายกระทำความผิดเสียเอง แทนที่ตำรวจจะไปไล่จับผู้ร้าย กลับต้องมาจับตำรวจด้วยกันเอง ถูกแจ้งข้อหากราวรูดทั้ง ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.149 เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับทรัพย์สิน โทษถึงประหารชีวิต

ลากยาวด้วยตำรวจ 191 นาย สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ทหาร ตบทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาชาวจีนอาศัยบ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรูเป็นสถานที่ปลอมแปลงวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวแดนมังกร จับผู้ต้องหาร่วม 10 คน แลกกับการไม่ดำเนินคดีกับเงินเกือบ 10 ล้าน ปล่อยตัวผู้ต้องหาหมายแดงตำรวจสากลหลบหนีออกนอกประเทศ ถูกตั้งข้อหากันถ้วนหน้า สะเทือนถึงเก้าอี้อธิบดีดีเอสไอถูกเด้งไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์

ไม่หยุดหย่อนฉาวไปทั่วโลก ตำรวจไทยเงินซื้อได้ นักท่องเที่ยวสาวจีนเปิดคลิปเพียงจ่ายเงิน 7,000 บาท ตำรวจบริการตั้งแต่ลงเครื่องยันถึงโรงแรม โดยมีรถตำรวจขับนำขบวนแบบวีไอพี คลิปเดียวดิ้นกันทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ปีชง ขึงขังสั่งตรวจสอบที่มาที่ไป แต่ที่ไหนได้ จ๊อบ นี้ตำรวจทำกันมานาน ร่วมกับบริษัททัวร์เปิดให้ซื้อแพ็กเกต ต้องการความสะดวกจ่ายค่าบริการเพิ่ม หลักฐานมัดตำรวจ 4 นาย จาก บก.ท่องเที่ยว และ บก.จราจร ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยและอาญา

เคสนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนยังไม่ทันจบ ยังอยู่ในแค่รูปตั้งกรรมการสอบสวน ตอกย้ำวิกฤตองค์กรตำรวจ ฉาวโกอินเตอร์ เน็ตไอดอลสาวชาวไต้หวัน “อันยูชิง” บินเที่ยวเมืองไทยช่วงเทศกาลปีใหม่ โพสต์อินสตาแกรมว่าถูกตำรวจไทยรีดเงิน 27,000 บาท แลกกับการปล่อยตัวไม่ดำเนินคดีบุหรี่ไฟฟ้า และไม่มีวีซ่าตัวจริง พร้อมเตือนคนไต้หวันมาเที่ยวเมืองไทยอย่าพกเงินสดติดตัวมาก เดี๋ยวจะโดนแบบตัวเธอจนเป็นข่าวดังไปทั่วเกาะไต้หวัน 

ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยถูกทำลายทันที บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ต้องยกหูสั่งการ ผบ.ตร.ทำความจริงให้ปรากฏ ไล่เช็กไทม์ไลน์เน็ตไอดอลสาวเดินทางเข้าไทยวันที่ 29 ธ.ค.65 มีการเช็กอินเฟซบุ๊กตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในกรุงเทพฯ เดินทางกลับวันที่ 5 ม.ค.66 ก่อนที่จะโพสต์อินสตาแกรมวันที่ 8 ม.ค.ที่ไต้หวัน

บิ๊กจ้าว-พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ยอมรับวัน เวลา สถานที่ มีการตั้งด่านตรวจจริงที่หน้าสถานทูตจีน ถนนรัชดาฯ พื้นที่ สน.ห้วยขวาง ตำรวจแท็กทีมยืนกระต่ายขาเดียว ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. พล.ต.ท.ธิติ ผบช.น. หรือแม้กระทั่ง พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษก บช.น. ยืนยัน ไม่มีการเรียกรับเงิน จากดาราสาวชาวไต้หวันตามที่เป็นข่าว แต่ยังแทงกั๊กขอตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดเสียก่อน หนำซ้ำยังมีเพจเฟซบุ๊กที่เป็นกระบอกเสียงของตำรวจ นำคลิปหลักฐานระบุดาราสาวมึนเมาสุรา โวยวาย แถมมีบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ศุลกากร โทษทั้งจำและปรับ แต่ฟากฝั่งเน็ตไอดอลสาวสู้ทุกเม็ด ยันไม่เมา แต่กำลังถูกตำรวจไทยยัดเยียดความผิดให้

แต่ฟ้าฝ่า นครบาล กลางดึก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เจ้าเก่าเจ้าเดิม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "ด่วนที่สุด ตำรวจห้วยขวางตั้งด่านรีดเงินดาราสาวไต้หวันรับสารภาพ" ทั้งที่ช่วงค่ำห่างกันไม่กี่ชั่วโมง พล.ต.ต.จิรสันต์ รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น.ออกมาแถลงข่าวตรวจสอบแล้วไม่พบตำรวจเรียกรับเงิน ระเบิดลูกใหญ่ลงไปที่ บิ๊กจ้าว-พล.ต.ท.ธิติ ผบช.น. นายชูวิทย์แจงเป็นข้อๆ 1.ลบคลิปที่ด่านหน้าสถานทูตจีน 2.ลบคลิปกล้องบนหมวกของตำรวจที่ด่าน 3.กล่อมให้คนขับแกร็บยืนยันว่าดาราสาวไต้หวันเมามาก พูดไม่รู้เรื่อง อยู่ที่ด่านแค่ 40 นาที แล้วอ้างว่ากล้องหน้ารถบันทึกได้แค่ 20 วัน จึงไม่มีภาพ 4.ปล่อยคลิปสารพัดเพื่อดิสเครดิตดาราสาวไต้หวัน 5.ตอบโต้ แก้ตัวแทนลูกน้องตัวเอง โยนไปว่าสาวไต้หวันแต่งเรื่อง พร้อมส่งสารถึงนายกฯ “ให้ ผบช.น.คนนี้อยู่นครบาลต่อไป ยังมีระเบิดลงอีกเป็นลูกระนาด”

คณะนครบาล กลับลำแทบไม่ทัน พล.ต.ท.ธิติ พร้อมโฆษก และผู้การ 1 ตั้งโต๊ะแถลง สั่งดำเนินคดีข้อหา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจชุดตั้งด่าน 7 นาย ไม่จับกุมบุหรี่ไฟฟ้าและปล่อยตัวผู้ต้องหา ส่วนข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน มาตรา 149 ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมโต้เฮียชู ยืนยันไม่มีการทำลายหลักฐานกล้องวงจรปิดหลายจุด รวมทั้งกล้องติดหมวกของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงาน พร้อมนำหลักฐานทั้งหมด พฐ.ตรวจพิสูจน์ ถ้าตำรวจนิ่งเฉยจะไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจ สน.ห้วยขวางได้ “ผิดว่าไปตามผิด ตำรวจที่ไม่ดีไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในองค์กร”

คำถามจากสังคมที่กำลังจับตามองการทำงานของตำรวจ ถ้านายชูวิทย์ไม่ออกมาแฉ ตำรวจชุดดังกล่าวจะรับสารภาพว่ารีดเงินดาราสาวหรือไม่ จนกระทั่งมีคำสั่งเด้ง พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง ไปช่วยราชการที่ ศปก.บช.น. ต่อด้วยคำสั่งเด้ง 7 นายตำรวจที่ตั้งด่านไปช่วยราชการที่ ศปก.บก.น.1 แต่ที่นายชูวิทย์ หรือสังคมอยากทราบคือ เก้าอี้ ผบช.น.ของบิ๊กจ้าวสมควรจะอยู่ต่อหรือไม่ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่สมควรจะเกิดขึ้น การปฏิบัติงานของตำรวจมีต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กรณีนี้ถ้าไม่ใช่คนในสังคมโซเชียลก็คงจะเงียบ ทำให้ตำรวจนอกแถวย่ามใจเหมือนที่เคยทำกันมานาน

ที่น่าเจ็บปวด นายชูวิทย์ประสานให้พยานที่เป็นชาวสิงคโปร์ หนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นคนจ่ายเงินให้บินกลับมาให้ปากคำเพื่อเป็นหลักฐาน โดยยินดีออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักโรงแรม ค่าอาหาร พร้อมรับรองความปลอดภัย คำถามต่อมาคือ ตำรวจทำอะไรกันอยู่ ในขณะที่ภาพลักษณ์องค์กรกำลังเสียหายย่อยยับ แต่กลับเป็นนายชูวิทย์ที่ทำในฐานะประชาชนชาวไทยเพื่อเรียกความเชื่อมั่นประเทศกลับคืน ส่วนดาราสาวโพสต์ขอบคุณชูวิทย์ที่คืนความเป็นธรรมให้แก่เธอ

องค์กรตำรวจเป็นแผลเหวอะหวะ บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาหน่วยต้องออกมาขอโทษดาราสาวที่ทำให้ได้รับความเสียหาย และได้มีคำสั่งที่ 69/2566 ลงวันที่ 17 ม.ค.66 แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมสภาพปัญหา ศึกษาวิเคราะห์ระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาให้ชัดเจนโปร่งใส โดยมีกล้องบันทึกสามารถตรวจสอบได้ ย้ำไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก หากพบว่าพื้นที่ใดมีการกระทำความผิดซ้ำขึ้นอีก จะพิจารณาโทษถึงผู้บังคับบัญชาทั้งวินัยและอาญา

ถึงเวลาหรือยังที่ตำรวจจะกวาดบ้าน ทำตัวเองให้สะอาดก่อนไปบังคับใช้กฎหมายชี้ผิดชี้ถูกกับคนอื่น..?.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระทึก! กกต.ชงศาลรธน.ยุบพรรคก้าวไกลแล้ว จับตา 20 มีนา.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการ​การเลือกตั้ง​ (กกต.)​ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งได้รับมอบหมายจากกก

'ผบ.ตร.' แจงชัด! หมายเรียก 'บิ๊กโจ๊ก' ทำตามหลักฐาน เร่งให้เสร็จก่อนเกษียณ

'ผบ.ตร.' ยันพนักงานสอบสวนทำคดี 'บิ๊กโจ๊ก' ได้ตาม ป.วิอาญา ไม่มีการกลั่นแกล้ง เส้นเงินเป็นหลักฐานวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ ปัดตั้งระดับ "พล.ต.อ." หัวพน้าชุดสอบ ลั่นเร่งทำคดีให้แล้วเสร็จก่อนเกษียณ

'หมอวิกรม' ชนะขาด! คว้าเก้าอี้ 'นายกเล็กบุรีรัมย์'

ผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ กรณีพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่นใดนอกจากครบวาระ ที่มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 17 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา อย่างไม่เป็นทางการ

พิธาพลิกตำรา ‘รอดยุบพรรค’ เชื่อแค่ตักเตือน

"พิธา" ย้ำเตรียมแผนรับมือไว้แล้วหากศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล ชี้ต้องใช้ดุลพินิจ ความผิดมาตรา 49-มาตรา 92 มีความต่างกัน เชื่อศาลจะให้ความยุติธรรม

รวบครูหนุ่มคาห้องพักครู ถ่ายคลิปลับนักเรียนสาวปล่อยโซเชียล พบเหยื่อกว่า 10 ราย

สืบนครบาลบุกรวบครูหนุ่มคาห้องพักครู ถ่ายคลิปลับนักเรียนสาวปล่อยโซเชียล พบเหยื่อกว่า 10 ราย ชี้เป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง

'เรืองไกร' ส่งหนังสือด่วนที่สุด เร่ง ป.ป.ช. ฟันจริยธรรม 44 สส.

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)