ศึกชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ถึงเคลียร์จบก็ร้าวลึก

หลังการประชุมหารือของแกนนำ 8 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล 312 เสียง ว่างเว้นมานานหลายสัปดาห์ สุดท้ายทั้งหมดก็มาหารือกันอีกครั้งเมื่อ 2 ก.ค. ณ ที่ทำการพรรคก้าวไกล ภายใต้เส้นตายการต้องเร่งหาข้อยุติเรื่อง เก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคก้าวไกลกับเพื่อไทย ที่จะต้องจบก่อนการประชุมสภาฯ นัดแรก 4 ก.ค.ที่มีวาระสำคัญในการเลือกประธานสภาฯ

อย่างไรก็ตาม เป็นไปตามคาด ผลการหารือดังกล่าวยังไม่มีข้อยุติใดๆ ในเรื่องเก้าอี้ประธานสภาฯ ออกมา เพราะฝ่ายเพื่อไทยยังคุมเชิงในเรื่องนี้อยู่ ด้วยการที่ประกาศไว้ก่อนล่วงหน้าว่า วันจันทร์ที่ 3 ก.ค. พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคและตามด้วยการประชุม ส.ส.ทั้งหมดในช่วงเช้า เพื่อกำหนดท่าทีของพรรคในเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ จากนั้นจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการหลังการประชุมเสร็จสิ้นลง

เมื่อเพื่อไทยเดินเกมไว้แบบนี้ ดังนั้นผลการหารือแกนนำ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเมื่อ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงไม่มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจนัก เพราะทั้งหมดต้องรอการตัดสินใจของ เพื่อไทย ในวันที่ 3 ก.ค.

สิ่งที่แลเห็นทางการเมือง ต้องบอกว่า เพื่อไทยเดินหมากการเมืองแบบถือไพ่ไว้เหนือกว่าพรรคก้าวไกลหลายขุม เพื่อชิงความได้เปรียบในการเจรจาต่อรอง

แม้จะมีกระแสข่าวออกมาว่า แนวโน้มที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยน่าจะออกมาในทางที่ว่า ให้ตำแหน่งประธานสภาฯ กับพรรคก้าวไกล ส่วนพรรคเพื่อไทยได้รองประธานสภาฯ 2 ตำแหน่ง หรือที่เรียกว่า “ยอมถอย” แต่มีเงื่อนไขที่ไม่พูดต่อสาธารณชน คือหาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ได้เสียงโหวตให้เป็นนายกฯ เกิน 376 เสียง ในการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งแรก ทางก้าวไกลต้องเปิดโอกาสให้เพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนทันที

จากนั้นเมื่อเข้าสู่การประชุม ส.ส.พรรคในเวลา 10.00 น. ทางกรรมการบริหารพรรคจะได้นำมติดังกล่าวที่ให้ก้าวไกลได้โควตาประธานสภาฯ เสนอต่อที่ประชุม ส.ส.ของพรรค พท.และจะมีการเปิดให้ ส.ส.แสดงความคิดเห็นรอบสุดท้าย โดยมีรายงานข่าวว่า กรรมการบริหารพรรคยังเชื่อว่า หากมีมติกรรมการบริหารพรรคออกมา ส.ส.ของเพื่อไทย แม้จะไม่เห็นด้วยที่จะให้โควตาประธานสภาฯ กับก้าวไกล แต่ยังเชื่อว่า ส.ส.จะเคารพในมติของกรรมการบริหารพรรค และจะไม่มีการฟรีโหวตในเรื่องนี้

 นั่นคือกระแสข่าวท่าทีของเพื่อไทยที่ออกมาในช่วงสุดสัปดาห์ ก่อนหน้าการหารือแกนนำ 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาลเมื่อ 2 ก.ค.

แต่ก็มีข่าวอีกทางว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ ส.ส.เขตภาคอีสานและภาคเหนือ รวมถึง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์บางส่วน ยังคงเห็นว่าเก้าอี้ประธานสภาฯ ควรเป็นของเพื่อไทย ทางพรรคต้องต่อรองกับก้าวไกลให้ได้ โดยมีข่าวว่า จะมี ส.ส.เพื่อไทยหลายคนเตรียมจะไปแสดงความเห็นในโทนดังกล่าว ระหว่างการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย 3 ก.ค.นี้

จุดสำคัญของเรื่องนี้ต้องไล่เป็นฉากๆ

เริ่มจากรอดูกันว่า มติกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ในช่วงเช้า 3 ก.ค.จะออกมาอย่างไร

จากนั้นตามด้วยการติดตามท่าทีและความเห็นของ ส.ส.เพื่อไทยในเวทีประชุม ส.ส.พรรค 3 ก.ค.จะยังคงยืนยันว่า เพื่อไทยต้องได้โควตาประธานสภาฯ อยู่หรือไม่ 

แต่จุดสำคัญของเรื่องนี้ให้จับตามองว่า สัญญาณจาก ทักษิณ ชินวัตร จะออกมาแบบไหน เพราะถ้าทักษิณเคาะออกมาให้เพื่อไทยเอาอย่างไร กรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ส่วนใหญ่ คงต้องเอาตามนายใหญ่เพื่อไทย ที่แม้อาจมีเสียงเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย แต่ก็คงไม่มีใครกล้าหือ 

โดยก่อนจะถึงนัดหมายสำคัญของเพื่อไทย ที่ต้องทุบโต๊ะแล้วว่า จะเอาอย่างไรกับเก้าอี้ประธานสภาฯ

ท่าทีของ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกไว้ ระหว่างร่วมแถลงข่าวแกนนำ 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาลว่า คณะเจรจา 2 ของทั้ง 2 พรรคคือเพื่อไทยกับก้าวไกล ได้แจ้งความคืบหน้าในการหารือกันอย่างไม่เป็นทางการให้ที่ประชุมทราบ แต่เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีกระบวนการทำงานหลากหลายของคนที่มาทำงานร่วมกันมากมาย และมีความเห็นต่างมากกับการทำงานภายในพรรคที่ต้องอาศัยข้อบังคับพรรค ซึ่งเป็นกระบวนการภายใน และเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องฟังความเห็นของสมาชิกพรรค เราจึงแจ้งต่อที่ประชุมในวันเดียวกันนี้ว่า จะต้องมีการเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของพรรคเพื่อไทยเป็นการภายในวันที่ 3 ก.ค.นี้  

"ยืนยันว่าเราจะร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล ยึดหลักทุกฝ่ายทุกภาค ไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ถือเป็นทางร่วมที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน และหากข้อสรุปไม่เป็นไปตามที่ประชาชนคาดหวังก็จะกระทบต่อพรรคร่วมและการจัดตั้งรัฐบาล มั่นใจว่าวันที่ 3 ก.ค. เวลา 12.00 น. จะได้ข้อสรุปที่ดีแน่นอน และเป็นประโยชน์ต่อการจัดตั้งรัฐบาล กระบวนการขอความเห็นร่วมของพรรคเพื่อไทยเป็นไปตามข้อบังคับ แม้จะมีความเห็นต่าง แต่ก็ต้องมีข้อสรุปร่วมกันออกมา มั่นใจว่าความเห็นร่วมกันจะเป็นไปตามแนวทางที่เคยทำบันทึกความเข้าใจกันไว้"

ส่วนที่อาจจะมี ส.ส.เพื่อไทย ขอให้ลงมติแบบฟรีโหวตนั้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มองว่า ถือเป็นมุมมองที่มีความหลากหลาย แต่ความเป็นพรรคถือว่ามีความสำคัญที่สุด

ถอดรหัสการเมืองตามถ้อยคำของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ว่า หากคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติออกมาอย่างหนึ่งอย่างใด ทาง ส.ส.ของพรรคก็ควรต้องปฏิบัติตามมติดังกล่าวที่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค เพราะความเป็นพรรคมีความสำคัญที่สุด

เมื่อเป็นแบบนี้ก็คงพอคาดการทิศทางที่จะออกมาได้ อย่างไรก็ตาม ก็น่าจับตาว่า หากสุดท้ายกรรมการบริหารพรรคมีมติทำนองว่า ให้โควตาประธานสภาฯ เป็นของก้าวไกล ทาง ส.ส.เพื่อไทยหลายคนก็อาจไม่เห็นด้วย โดยอาจอ้างเรื่องการลงมติเลือกประธานสภาฯ เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. เพราะไม่ใช่การลงมติเรื่องของกฎหมาย หรือการลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็อาจทำให้ ส.ส.บางส่วนโต้แย้ง ไม่เห็นด้วย รวมถึงการแย้งว่า กรรมการบริหารพรรคมีแค่ 10 คน แต่ ส.ส.มีร้อยกว่าคน และกรรมการบริหารพรรคบางคนก็ไม่ได้เป็น ส.ส. ทางกรรมการบริหารพรรคจึงควรต้องฟังเสียง ส.ส.เป็นหลัก

 กระนั้นก็อย่างที่วิเคราะห์ไว้ข้างต้น หากสุดท้ายถ้ามีสัญญาณมาจากทักษิณให้เพื่อไทยเดินไปทางไหน ก็เชื่อว่าทั้งกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ของพรรคก็ต้องปฏิบัติตามนั้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ จะจบลงอย่างไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้น กับการแค่เริ่มต้น จัดสรรเก้าอี้-ตำแหน่งทางการเมืองตำแหน่งแรก ก็ใช้เวลานานกว่าจะได้ข้อยุติ อีกทั้งก็มีการขบเหลี่ยม-ชิงความได้เปรียบทางการเมืองกันตลอดเวลาของก้าวไกลกับเพื่อไทย

มันจึงทำให้แลเห็นทางการเมืองได้ว่า การจับมือทางการเมืองของก้าวไกลกับเพื่อไทยเพื่อจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน แนวโน้มคงได้เห็นการกระทบกระทั่งทางการเมืองของทั้ง 2 พรรคเกิดขึ้นได้ตลอดเวลานับจากนี้ จนกองเชียร์ทั้งเพื่อไทยและก้าวไกลคงได้แต่นึกในใจ การจับมือกันรอบนี้จะไปได้ตลอดรอดฝั่งมากน้อยแค่ไหน หรือเรือจะล่มกลางทางเสียก่อน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เศรษฐา1/1เร่งเครื่อง ปม'พิชิต'ทำติดหล่ม หวังศาลรธน.เคลียร์จบ

ครม.เศรษฐา 1/1 หลังจากนี้ก็สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเป็นทางการ หลังเมื่อวันศุกร์ที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำ รมต.ที่ได้รับการแต่งตั้ง ที่มีทั้งรัฐมนตรีหน้าใหม่

'คนเสื้อแดง' จวกยับ! หัวหน้าเพื่อไทย 2 มาตรฐาน กลัวพวงเพ็ชรน้อยใจ แต่หมางเมินหมอชลน่าน

กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์สตอรี่อินสตาแกรม เป็นรูปภาพคู่กับนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่พรรคเพื่อไทย พร้อมระบุข้อความว่า "รักเหมือนเดิม

พิสูจน์ฝีมือ ‘ครม.เศรษฐา2’ ปรับทัพใหม่ รอดหรือร่วง?

หลังปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรียบร้อย โดยมีรัฐมนตรีเข้าใหม่ 7 คน และออก 4 คน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ กว่าจะได้คนที่ถูกฝาถูกตัว ก็ต้องมีทั้งคนที่พอใจและไม่พอใจเป็นธรรมดา

คณะสอบวินัย"บิ๊กโจ๊ก"ส่อเค้าวุ่นไม่จบ “สราวุฒิ”จ่อเกษียณโยนเผือกร้อนสีกากี

สู้กันทุกกระบวนท่าเต็มสรรพกำลังอภิมหาศึก “สีกากี” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนพัวพันคดีเว็บพนันออนไลน์ ระบุว่า “การสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

'หมอชลน่าน' เคลื่อนไหวแล้ว โพสต์เฟซบุ๊กครั้งแรก ชี้แจงทุกประเด็นหลังหลุดเก้าอี้

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตรมว.สาธารณสุข โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณ เพจแพทย์ชนบท ที่โพสตให้กำลังใจผม และท่านรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน แต่ก็มีบางอย่างที่ผมคิดว่า

ปลอบ 'ชลน่าน-ปานปรีย์' อย่าน้อยใจ ถือว่าชะตายังดีที่ยังไม่ต้องอยู่ในคุกเหมือน 'บุญทรง'

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ว่า