พท.-ภท.ผุด 212 เสียง บีบ "ลุงป้อม" เข้าตาจน

กระแสเลื่อนต่างๆ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูเหมือนฉากทัศน์การเมืองฉายภาพว่า "พรรคเพื่อไทย" กำลังตกที่นั่งลำบาก ถูกพรรคลุงและเครือข่าย 188 เสียงรุมกินโต๊ะ กดดันเก้าอี้รัฐมนตรี ปฏิเสธแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคสีแดง โยงไปถึง “ทักษิณ ชินวัตร” เลื่อนการกลับบ้านไปอีก 2 สัปดาห์ หลังจากกำหนดการเดิมวันที่ 10 ส.ค.นี้ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่เรียบร้อย

แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ส.ค. พรรคเพื่อไทย จำนวน 141 เสียง พลิกเกม เลือกจับขั้วใหม่กับพรรคภูมิใจไทย จำนวน 71 เสียง รวม 212 เสียง เป็นสารตั้งต้นในการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล เดินหน้าหาเสียง สส.และ สว.ให้ได้เสียงเกินจำนวน 375 เสียง สนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย 

หลังในทางลับ พรรคเพื่อไทยดีลกับพรรคการเมืองต่างๆ ได้จำนวนเสียงสภาล่างเกิน 250 เสียง โดยไม่มีพรรคก้าวไกล และพรรค 2 ลุง ร่วมรัฐบาล

การพลิกเกมนี้ของพรรคอันดับ 2 และพรรคอันดับ 3 โดยเฉพาะการมาของพรรคภูมิใจไทย ถือว่าปิดสวิตช์รัฐบาลเสียงข้างน้อย และฉีกตัวเองออกจากขั้วรัฐบาลเดิม 188 เสียง ตามกระแสข่าวระบุว่า พรรคลุงบางคนยังไม่ยอมวางมือทางการเมือง และต้องการตรึงพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเอาไว้ ด้วยกลไกอำนาจที่หลงเหลือ เพื่อต่อรองตำแหน่งต่างๆ ทางการเมือง รวมถึงกระแสต้องการชุบชีวิตคนที่หมดหวังให้กลับมาอยู่ในเส้นทางนายกฯ อีกครั้ง  

หลังก่อนหน้านี้ พรรคภูมิใจไทยได้เคยปิด "สวิตช์ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปแล้ว จากกรณีกระแสข่าวพรรครวมไทยสร้างชาติจะดันรัฐบาลเสียงข้างน้อย สะท้อนผ่านการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เนื่องจากพรรคสีน้ำเงินงดออกเสียง มิยอมยกมือโหวตตามมติพรรคร่วมรัฐบาลเดิมที่หนุนคนของพรรค รทสช.จนเป็นเหตุหนึ่งในหลายเหตุผล ให้ "ลุงตู่" ประกาศเลิกเล่นการเมืองในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม คำถามที่ตามมาคือ การไม่เอา 2 ลุง พรรคเพื่อไทย และภูมิใจไทย จะเดินหน้าหาเสียงเกิน 375 เสียงได้อย่างไร เพราะยังขาดประมาณ 111 เสียง

เพราะขณะนี้ในกระเป๋ามีเสียงประมาณ 263-266 เสียง ได้แก่ พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง และพรรคเล็ก 1 เสียง รวมกันได้ 6 เสียง และพรรคประชาธิปัตย์อีกจำนวน 21 หรือ 25 เสียง

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่า ในแถลงการณ์บอกชัดเจนว่าไม่มี 2 ลุง แต่ไม่ปฏิเสธเงื่อนไข ถ้าจะมี สส. สว.เป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลมาสนับสนุนนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละบุคคล  

แปลความง่ายๆ คือ ไม่ปิดกั้น หรือห้ามใครจะมาโหวตนายกฯ ให้ ไม่ว่าจะเป็น “งูเห่า”   หลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า มี สส.บางกลุ่มจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติโหวตร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย รวมถึงการดีลลับกับ สว.บางส่วนอีกด้วย 

หากประเมินในส่วนของ  พรรครวมไทยสร้างชาติ มีโอกาสร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยได้ง่ายขึ้น หลัง "บิ๊กตู่" โบกมือลาทางการเมืองไปแล้ว ที่สำคัญพรรคนี้ยังเป็นกลุ่มทุนเดียวกับพรรคเพื่อไทย การเจรจาทางการเมืองต่างๆ คงไม่มีอะไรยาก และหากมาจริง ว่ากันว่าจะมี สว.สาย พล.อ.ประยุทธ์มาสนับสนุนอีกจำนวนมาก

แตกต่างจากพรรคพลังประชารัฐของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค ตามกระแสยังมีความเคลื่อนไหวไม่ยอมแพ้ และหวังรอส้มหล่นในตำแหน่งนายกฯ ฉะนั้นหากยังตั้งเงื่อนไขสูงเช่นนี้ ก็มีโอกาสเป็นฝ่ายค้านสูง หากตัวเองไม่ยอมถอยอะไรลงมาบ้าง

เพราะต้องไม่ลืมว่า หากเสียงยังไม่พออีก 375 เสียง อีกไม้เด็ดสำคัญของพรรคเพื่อไทย คือซูเปอร์ดีลระหว่าง "ทักษิณ ชินวิตร" กับ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ที่เกาะฮ่องกง ในวันที่ 24 ก.ค. ที่อาจขอเสียงจากก้าวไกลเพื่อปิดสวิตช์พรรค 2 ลุง โดยที่ยอมไปเป็นฝ่ายค้าน

คำถามคือ พรรคส้มได้อะไร ก็ต้องบอกว่า นายทุนพรรคยังรอได้ เพราะยังเด็กกันอยู่ เหมือนกับทักษิณที่รอมา 17 ปี กลับมามีอำนาจได้ ไม่นับเรื่องธุรกิจต่างๆ ของครอบครัวของนายทุนพรรคก้าวไกล ที่ยังต้องหากินในแผ่นดินไทยให้อยู่รอดต่อไป

อีกทั้งนโยบายต่างๆ ของพรรคก้าวไกลก็สามารถผลักดันผ่านรัฐบาลเพื่อไทย ที่มีความสอดคล้องกัน ไม่ว่าจะเป็นแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยการตั้ง ส.ส.ร., ผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม, สุราก้าวหน้า, ปฏิรูประบอบราชการตรวจกองทัพ และกระบวนการยุติธรรม, เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับเป็นวิธีสมัครใจ, ผลักดันกระจายอำนาจ ในแง่ภารกิจและงบประมาณ, ยกเลิกการผูกขาด และส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม ฯลฯ 

หากหมากเกมของพรรคเพื่อไทยออกมาตามสูตรนี้ สถานการณ์ของ "บิ๊กป้อม" อาจเรียกว่า "เข้าตาจน" หมดอำนาจต่อรอง ใช่หรือไม่. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา1/1'เศรษฐกิจ-การเมืองนำ เว้นระยะ'ความมั่นคง-กองทัพ'

โฉมหน้า “คณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1” ที่ออกมา นอกจากจะเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตัวบุคคลของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว เป้าหมายที่ฉายภาพชัดต่อทิศทางการบริหารงานของรัฐบาล

'แก้วสรร' แพร่บทความปอกเปลือก ทักษิโณมิคส์ บวก X กลายเป็นโครงการแจกเงินดิจิทัล

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความเรื่อง "ทักษิโณมิคส์ + X = โครงการแจกเงินดิจิตอล" มีเนื้อหาดังนี้ เมื่อคราวแรกเริ่มครองอำนาจในปี ๒๕๔๖ ของพรรคทักษิณ ที่พลิกมิติการปกครองไทยด้วยชุดนโยบายการเงินที่โหมอัดฉีดประชานิยมชนิดเข้มข้นต่างๆนานา

'อนุทิน' ย้ำ ภท.หนุนดิจิทัลวอลเล็ตให้เป็นไปตามกฎหมาย ยึดข้อเสนอ 3 หน่วยงาน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ถึงกรณีที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ออกมาแสดงความคิดเห็นคัดค้านโครงการแจกเงินดิจิทัล

'อนันต์' การันตี 'ลุงป้อม' ส่งชื่อนั่ง รมต. โควตากำแพงเพชร

'อนันต์' การันตี 'ลุงป้อม' ส่งชื่อนั่ง รมต. มั่นใจคุณสมบัติไร้มลทิน ลั่นเก้าอี้ตัวนี้โควตากำแพงเพชร ไม่ท้อหากชวดตำแหน่ง เชื่อพรรคไม่แตกแม้ผลออกมาเป็นอย่างไร