“หมออ๋อง” เชียร์เบียร์ สะเทือนเก้าอี้รอง ปธ.สภา

ในภาวะการเมืองฝุ่นตลบ พรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคต่างต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรีเท่านั้นเท่านี้ แต่พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำ ขอให้ทุกพรรคทุกฝ่ายโหวตคนของเพื่อไทยเป็นนายกฯ ให้ผ่านพ้นไปเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาจัดแบ่งเค้กกันภายหลัง          

หากเป็นอนุบาลการเมืองก็คงคล้อยตาม แต่พรรคพันธมิตรที่เข้าร่วมรัฐบาลเก่าแก่เขี้ยวลากดินทั้งนั้น จึงไม่มีใครยอมเซ็นเช็คเปล่าแน่นอน โดยข้อเรียกร้องของพวกเขาต้องการให้พรรคแกนนำแจกแจงกระทรวงให้เรียบร้อยก่อนจะโหวตนายกฯ ว่าพรรคใดได้รับผิดชอบกระทรวงใด

เพราะขืนเดินตามเกมที่พรรคเพื่อไทยขีดไว้ จะเท่ากับพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีหลักประกันอะไรเลย และอาจถูกตลบหลังเอาง่ายๆ ดีไม่ดีที่ สว.เตือนไว้อาจเกิดขึ้นจริง

สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่าไว้ “เปิดการแสดงอีกรอบ 22 ส.ค. ที่รัฐสภา รอชม พท.การแสดง+ก.ก.การละคร 22 ส.ค.โหวตนายกฯ คนที่ 30 วันเผยธาตุแท้นักการเมืองไทย ดีลลับฮ่องกง ล้ม รธน.ปราบโกง ปฏิบัติการพาลุงโทนี่กลับบ้าน ม้วนเดียวจบหรือม้วนเดียวจอด #สมชายแสวงการ #เพื่อไทย #ก้าวไกล #ทักษิณ #ดีลลับฮ่องกง” 

นี่ก็คือสถานการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในนาทีนี้

ในทางกลับกัน ก็มีอีกฝ่ายที่มองข้ามช็อต เห็น พรรคก้าวไกล เป็นฝ่ายค้านเรียบร้อยแล้ว และเกิดคำถามว่าเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ที่ขณะนี้มี ปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก จากพรรคก้าวไกล ดำรงตำแหน่งอยู่จะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 ตำแหน่ง ผู้นำฝ่ายค้าน กำหนดไว้ว่าจะต้องแต่งตั้งจากหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีจำนวน สส.มากที่สุด และ สส.ในพรรคต้องไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาฯ หรือรองประธานสภาฯ

ประเด็นข้างต้นยังไม่ทันสิ้นกระแส หมออ๋อง-ปดิพัทธ์ ก็มีเรื่องเพิ่มอีก เจ้าตัวโพสต์รูปคู่กับผลิตภัณฑ์เบียร์คราฟต์ยี่ห้อหนึ่ง ชื่อพร้อมโลโก้ชัดเจน สังคมทักท้วงว่าทำไม่ได้ เพราะกฎหมายห้ามไว้ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 32

บัญญัติไว้ว่า “...ห้ามไม่ให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม

การโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ใดๆ โดยผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทให้กระทำได้เฉพาะการให้ข้อมูลข่าวสาร และความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม โดยไม่มีการปรากฏภาพของสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น เว้นแต่เป็นการปรากฏของภาพสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสัญลักษณ์ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นเท่านั้น ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง...”

กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนเข้าทางนักร้องมืออาชีพ ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ตระเวนไปในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยื่นร้องให้ตรวจสอบ ว่า “ปดิพัทธ์” ทำผิดข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ สส.และกรรมาธิการ พ.ศ.2563 มาตรฐานจริยธรรมที่ออกโดยศาลรัฐธรรมนูญ และฝ่าฝืนมาตรา 53 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขณะที่หลายฝ่ายก็เรียกร้องให้ลาออกจากประธานสภาฯ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ

ขณะที่อดีตกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นพ.สมาน ฟูตระกูล ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.ขอนแก่น โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ไม่ต้องถามว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายไหม เพราะชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้ในระดับชาติ ทั้ง สคบ. สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงศึกษาธิการ น่าจะร่วมมือกันทำแบบสอบถามสาธารณะว่า หากนักการเมืองหรือผู้มีชื่อเสียงระดับชาติ สื่อสารสาธารณะว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของดีออกไปแบบสาธารณะ ที่ใครก็สามารถเห็นได้ ทั้งลูกหลาน เด็กเยาวชน และบุคคลทั่วไป จะมีผู้เห็นสมควรด้วย หรือไม่เห็นด้วย แตกต่างกันมากน้อยเพียงใดดีไหม”

ทั้งหมดทั้งมวลก็พอจะเข้าใจว่า เรื่องสุราก้าวหน้าเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของพรรคต้นสังกัดท่านรองประธานสภาฯ และมีประชาชนชื่นชอบอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นการทลายทุนผูกขาดและทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยผลักดันผ่านการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่) พ.ศ....หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า จึงทำให้ “หมออ๋อง” ต้องแสดงออกเช่นนี้

แต่ก็อย่าลืมว่ายังมี พ.ร.บ.ควบคุมเหล้า-เบียร์ บังคับใช้อยู่ด้วย โดยเฉพาะท่านอยู่ในตำแหน่งระดับสูงของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นฝ่ายออกกฎหมายบังคับใช้กับคนทั้งประเทศ ก็ควร “ต้อง” เป็นตัวอย่างที่ดี เคารพขื่อแปของบ้านเมือง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า หมออ๋อง และพรรคก้าวไกล จะไม่แสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องดังกล่าว แต่ตำแหน่ง ผู้นำฝ่ายค้าน ตามรัฐธรรมนูญก็บัญญัติชัดเจนว่า จะต้องแต่งตั้งจากหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีจำนวน สส.มากที่สุด และ สส.ในพรรคต้องไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาฯ หรือรองประธานสภาฯ 

สุดท้าย พรรคก้าวไกล ก็คงเลือกตำแหน่งที่สำคัญ มากกว่าเก้าอี้ของ "หมออ๋อง".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม

วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก

ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต

ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)