เรือดำน้ำฝึก-อาวุธเรือฟริเกต รื้อสัญญา 'จีทูจี' ก่อนเจรจาจีน

การแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์เรือดำน้ำ S26T ที่จีนไม่สามารถนำเครื่องยนต์เยอรมันมาติดตั้งได้ตามสัญญา กลายเป็นเรื่องที่ “คาราคาซัง” มาเป็นปี จนวาระสุดท้ายในการดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือของ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ จึงได้ตัดสินใจนำเสนอแนวทางไปให้รัฐบาลว่า เครื่องยนต์จีนมีสมรรถนะ “เทียบเท่า” และไม่สูญเสียคุณค่าทางยุทธการหากนำมาใช้ทดแทนเครื่องยนต์เยอรมัน แต่ก็ต้องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาและเห็นชอบในการแก้ไขสัญญาก่อน

แต่ดูเหมือนว่าแนวทางดังกล่าว “เสี่ยงเกินไป” เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดในอนาคตจะกลายเป็น “ระเบิดเวลา” ที่ถูกหยิบฉวยเป็นประเด็นมาฟัองร้องรัฐบาลย้อนหลังได้ และจะว่าไปเครื่องยนต์จีนชุดนี้ก็ไม่เคยติดตั้งในเรือดำน้ำแบบใดมาก่อน จึงไม่มีใครรู้ว่าผลการใช้งานระยะยาวเป็นอย่างไร 

สิ่งที่กองทัพเรือต้องกลับมา “ทบทวน” คือทำอย่างไรไม่ให้สิ่งที่ดำเนินการมา “สูญเปล่า” ในขณะเดียวกัน ก็สามารถเดินหน้าพัฒนาขีดความสามารถด้านกำลังรบของกองทัพเรือในระดับต่ำ ตามยุทธศาสตร์และสมุดปกขาวที่เพิ่งมีการปรับแก้ไปตามสภาวะแวดล้อมทางด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไป หลังจากที่ใช้มาอย่างยาวนานตั้งแต่  “ครูณรงค์ พิพัฒนาศัย”

อย่างไรตาม หาก “ถอยไปสุดทาง” หลังจากรัฐบาลไม่ยอมเป็นหนังหน้าไฟแก้สัญญาให้แล้ว ทร.ยังต้องเสียงบฯ กว่า 7,500 ล้านบาทที่ได้ทยอยจ่ายเงินงวดไปกับเรือดำน้ำแล้ว 5 ปีแลกกับ “ปุ๋ย” หรือถ้าเจรจามาแล้ว งบฯ ที่ได้กลับมาก็ต้องคืนคลังกลายสภาพเป็น “งบฯ ตกน้ำ” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภายใต้สภาพของเรือที่ประจำการอยู่ก็ “บักโกรก” เต็มที ก็จะมีปัญหาอื่นๆ ที่งอกตามมาเป็นงูกินหาง โดยเฉพาะสมรรถนะของเรือแบบต่างๆ ที่ทยอยเข้าคิวซ่อมและปลดประจำการเป็นหางว่าว

ในที่สุด หลังจากนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน และ “สุทิน  คลังแสง" รมว.กลาโหม หารือกับผู้นำจีน จึงได้ข้อสรุปออกมาเป็นแนวทางซื้อเรือฟริเกตทดแทน ซึ่งเป็น  1 ใน 2 ทางเลือกที่ ทร.ไทยเสนอมา และจีนตอบรับ ด้วยการเปิดเผยวงเงินการจัดซื้ออยู่ที่ 14,000 ล้านบาท

จากบทเรียนในอดีตว่าด้วยการ ลด แลก แจก แถม ตามลักษณะการค้าแบบ “จีนสไตล์” อาจทำให้ ทร.ต้องดำเนินการอย่างรัดกุมขึ้น และตอบสังคมให้กระจ่าง  เพราะเรือฟริเกตราคาถึง 14,000 ล้านบาท แพงกว่าเรือดำน้ำถึง 1,000 ล้านบาท ส่วนวงเงินงบประมาณที่รัฐบาลและกองทัพเรือพิจารณาร่วมกัน เห็นว่ามีงบประมาณค้างจ่ายเรือดำน้ำเดิมอยู่แล้ว ส่วนต่างที่เพิ่มออกมาจึง “พอรับได้”

จากข้อมูลยังพบพบว่า เรือฟริเกตของจีนที่ ทร.เล็งไว้เพื่อทดแทนเรือดำน้ำ เป็นเรือรุ่นใหม่ มีเทคโนโลยี Stealth เช่นเดียวกับเรือหลวงภูมิพล ปัจจุบันจีนยังไม่ได้ส่งออกหรือขายให้ประเทศไหน จึงยังไม่มีการระบุราคาที่แท้จริง ต้องมีการเจรจาลงรายละเอียดอีกรอบ

อย่างไรก็ตาม ทร.ก็มีการตั้งงบฯ ปี 67 ผูกพันงบประมาณในวงเงิน 17,000 ล้านบาท จะซื้อเรือฟริเกตสมรรถนะสูงที่เล็งไว้ในฝั่งยุโรปเพิ่มเติมตามแผน เป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. คนก่อนปูทางไว้ในการวางกำลังทางเรือในฝั่งอ่าวไทยและ อันดามัน โดยต้องมีเรือฟริเกตพร้อมปฏิบัติงานครบ 8 ลำในปี 2580

ขั้นตอนต่อจากนี้คือ คณะกรรมการบริหารโครงการเรือดำน้ำ ที่มี พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ทร. ต้องดูรายละเอียดในเรื่อง “สัญญา” ระหว่างรัฐต่อรัฐ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้นต้องอยู่ภายใต้การเจรจาให้ได้ของที่เทียบเท่าหรือสูงกว่า ประเทศชาติได้ประโยชน์ก่อนเท่านั้น ซึ่งต่างจากสัญญาจัดซื้อจัดจ้างปกติที่สามารถยกเลิกได้ทันที  

ในประเด็นที่มีข้อวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่อง ทร.เสียโอกาสนั้น ทร.มีแนวทางการเจรจาเตรียมไว้หากรัฐบาลไทยเห็นชอบ และจีนพร้อมขายในเงื่อนไขที่ ทร.เจรจา เช่น การขอลดราคา การรักษาองค์ความรู้เรื่อง “เรือดำน้ำ” เอาไว้ รวมถึงมีการเรียนรู้ต่อเนื่อง เพื่อรักษาโครงการจัดหาเรือดำน้ำไว้ให้เดินหน้าต่อไป รอเวลาในการริเริ่มอีกครั้ง

 หนึ่งในนั้นคือ การเจรจาขอเรือดำน้ำมือสองมาฝึกให้แก่บุคลากรไทยได้แบบใช้จริง เหมือนโมเดลของประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ที่กว่าจะซื้อเรือดำน้ำ “ชั้นสกอร์เปียน” เข้าประจำการได้ ฝรั่งเศสก็ได้ให้เรือดำน้ำมือสองเข้ามาฝึกให้ทหารเรือของประเทศเขาก่อน

นอกจากนั้น ก็เป็นระบบอาวุธของเรือฟริเกตจีน รวมถึงจรวดที่ควรให้ในจำนวนที่มากกว่าที่ตั้งไว้ เพราะ ทร.เองไม่มีอาวุธของจีนประจำการอยู่เลย รวมไปถึงระยะเวลาการรับประกันที่มากขึ้น การสนับสนุนการซ่อมบำรุง และอะไหล่ตลอดอายุใช้งาน ส่วนจะมีการจัดหาแบบแพ็กเกจหรือ 2 ลำ ถ้าจีนเสนอมาเป็น “ออปชัน” ก็คงต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนทั้งข้อดีและข้อเสีย

 เพราะจะว่าไป ระบบควบคุมบังคับบัญชาของเรือฟริเกตที่ ทร.มีอยู่ 3 ลำ ได้แก่ เรือหลวงภูมิพล, เรือหลวงตากสิน และเรือหลวงนเรศวร รวมถึงเรือหลวงจักรีนฤเบศร ใช้ระบบเดียวกันหมด การติดต่อสื่อสาร การฝึกสามารถใช้ทดแทนกันได้ ส่วนเรือฟริเกตอีก 1 ลำ ซึ่งกองทัพเรือได้ขยับชั้นขึ้นมาเป็นเรือฟริเกต คือ เรือหลวงรัตนโกสินทร์ ซึ่งใช้งานมา 36 ปี ก็ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน (เรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงสายบุรี โซนาร์ใช้ไม่ได้จึงปรับภารกิจจากเรือฟริเกต เป็นเรือโอพีวีหรือเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งแทน)

  ดังนั้น ถ้า ทร.ตัดสินใจใช้เรือจีนก็อาจจะมีปัญหาเรื่องระบบควบคุมบังคับบัญชา ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับเรือลำอื่นได้ จึงมีแนวโน้มว่า ทร.อาจตัดสินใจซื้อเป็นแพ็กเกจ 2 ลำ ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่าการจัดหาเรือฟริเกต ในโครงการของงบฯ 67 จะคัดเลือกแบบเป็นเรือสัญชาติจีนไปด้วยเลยหรือไม่

เหนือสิ่งอื่นใดคือ เราต้องไม่เสียเปรียบ ด้วยการใช้ช่องทาง “จีทูจี” ที่หยิบยกและอ้างถึงให้เป็นประโยชน์  

แต่ท้ายที่สุดแผนเหล่านี้จะราบรื่น หรือถูกถล่มยับ  ก็ขึ้นอยู่กับจะสามารถอธิบายให้สังคมได้เข้าใจ ถึงเงื่อนไข และความจำเป็นของกองทัพเรือในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างโปร่งใส และตอบทุกคำถามได้หรือไม่. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง

ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ

ท็อปไฟว์5ข่าวดังการเมืองไทย68 ยุบสภาฯไคลแมกซ์ปิดท้ายปี

นับถอยหลังเหลือเวลาอีกแค่สัปดาห์เศษก็จะสิ้นปี 2568 เข้าสู่ปีใหม่ 2569 ที่เป็นปีมะเมีย ซึ่งตำราโหราศาสตร์บางสำนักบอกว่า จะเป็นปีม้าธาตุไฟ โดยการเมืองไทยปี 2569 เรื่องสำคัญที่สุดก็คือ การเลือกตั้ง สส.ในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ที่จะนำมาสู่การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง

หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี

แนวรบสุดท้ายสู้สแกมเมอร์ ปัจจัยที่ต้องปิดจ๊อบชายแดน

แม้สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดน "ไทย-กัมพูชา" ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ฝ่ายไทยจะสามารถยึดเป้าหมายในหลายพื้นที่ และ มีแนวโน้มที่ดีใน 13 แนวรบ แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่า "กัมพูชา"

ได้ทุกขั้ว-เสบียงกรัง-อำนาจ เมินกระแส สส.แห่ซบ‘กล้าธรรม’

นอกจาก ‘พรรคภูมิใจไทย’ ที่มี ‘แม่เหล็ก’ ดึงดูดอดีต สส.และนักการเมือง ในการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ‘พรรคกล้าธรรม’ อาณาจักรของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่ปรึกษาพรรค เป็นอีกค่ายหนึ่งที่มีผู้คนพาเหรดเข้ามาเป็นองคาพยพ

โจทย์หิน3แคนดิเดตนายกฯพท. ลูกเจ๊แดงโปรไฟล์ดีแต่มีข้อกังขา!

หลังพรรคเพื่อไทยเปิดตัว ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ลูกชายเจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ ชินวัตร และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หมายเลข 1 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา