‘เพื่อไทย’ นำ ‘บิ๊กตู่’ วางมือ ‘แรมโบ้อีสาน’ อยู่ยาก โดนบล็อก-บีบ

ภายในวันที่ 24 ตุลาคม วันเดียว เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมายใน ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ 

มีทั้งคนเดินออกจากพรรค มีทั้งคนเดินเข้ามาในพรรค ตลอดจนมีคนลาออกจากตำแหน่ง สส. 

เริ่มตั้งแต่อดีตผู้ก่อตั้งพรรค ‘แรมโบ้อีสาน’ เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  

ตามด้วย นายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต สส.กทม.และอดีต สส.บัญชีรายชื่อ ที่เพิ่งจะย้ายเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อนการเลือกตั้ง สส.ที่ผ่านมา ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเช่นกัน 

ส่วนในช่วงเย็น พรรครวมไทยสร้างชาติเปิดตัว นายถาวร เสนเนียม อดีต รมช.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่ย้ายมาจากพรรคไทยภักดีเข้าร่วมงานกับพรรค 

ขณะที่ในวันเดียวกัน ‘เสี่ยพงษ์’ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ยื่นลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ              

เรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความแปลกใจให้กับสังคมอย่างมากว่า เกิดอะไรขึ้นกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยเฉพาะในรายของ ‘แรมโบ้อีสาน’ ที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี รมว.พลังงาน เพิ่งจะลงนามเป็น 1 ใน 11 ‘คณะที่ปรึกษารองนายกฯ’ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมานี่เอง   

อีกทั้งนายเสกสกลเองเป็นผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 15 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งปัจจุบันมี สส.บัญชีรายชื่อ 14 คน หากมี สส.บัญชีรายชื่อคนใดลาออกสัก 1 คน ‘แรมโบ้อีสาน’ จะได้เข้าสภาผู้แทนราษฎร เหตุใดจึงตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค ทำให้ไม่สามารถเป็น สส.ได้  

สิ่งที่น่าสนใจคือ ในวันที่ ‘แรมโบ้อีสาน’ ลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นวันเดียวกับที่นายสุพัฒนพงษ์ตัดสินใจลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ ทำให้ ‘แม่เลี้ยงติ๊ก’ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ในลำดับที่ 16 ได้เลื่อนมาเป็น สส.แทน 

เรื่องนี้ถือว่ามีความเชื่อมโยงกัน  

ขณะที่ ‘แรมโบ้อีสาน’ เปิดใจถึงการลาออกในครั้งนี้เพียงสั้นๆ ว่า ไม่ได้จะเลิกเล่นการเมือง แต่ต้องการที่จะถอยออกมาตั้งหลัก   

คำตอบของอดีตองครักษ์พิทักษ์ ‘บิ๊กตู่’ ถือว่ามีนัยสำคัญ และสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ได้แยกกันด้วยดีสักเท่าไหร่นัก 

คนอย่าง ‘แรมโบ้อีสาน’ มีหรือที่ไม่อยากจะเข้าสภาฯ ไปวาดลวดลาย หรือโชว์ฝีปาก ซึ่งตัวเองถนัด หรือแม้กระทั่งอยากมีตำแหน่งทางการเมือง ฉะนั้น การลาออกจากสมาชิกพรรคที่ทำให้ตัวเองอดเป็น สส. จึงผิดธรรมชาติอดีตแกนนำคนเสื้อแดงรายนี้ 

มันมีจุดที่น่าสังเกตอยู่จุดหนึ่งคือ ย้อนกลับไปภายหลังการสลายขั้วจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และมีพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นหนึ่งในองคาพยพ เคยมีข่าวลือว่า หนึ่งเรื่องที่ทางผู้มีอำนาจในพรรคเพื่อไทยขอกับผู้ใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติคือ ไม่เอา ‘แรมโบ้อีสาน’ เด็ดขาด ไม่ว่าตำแหน่งไหน 

เนื่องจาก ‘แรมโบ้อีสาน’ ในบทบาทองครักษ์พิทักษ์ ‘ลุงตู่’ ฟาดใส่ ‘ตระกูลชิน’ และ ‘พรรคเพื่อไทย’ เอาไว้หลายครั้ง ชนิดที่ว่า ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ ไม่ให้เกียรติอดีตต้นสังกัดเก่า  

และ ‘แรมโบ้อีสาน’ นั้นรู้ว่า อนาคตตัวเองไม่สดใสตั้งแต่เห็นการพลิกขั้วกันของพรรคเพื่อไทยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมถึงการวางมือของ ‘บิ๊กตู่’ แล้ว  

นอกจากนี้ เดิมนายสุพัฒพงษ์ที่ลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ทีมเศรษฐกิจของพรรคตอนเลือกตั้ง ตั้งใจไว้ว่าจะลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ ก็ถูกสั่งเบรกไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เลื่อนไปถึง ‘แรมโบ้อีสาน’ ที่จ่ออยู่ โดยให้คาเอาไว้อย่างนั้น  

ขณะเดียวกันยังมีข่าวเล็ดลอดออกมาเป็นระยะๆ ว่า ‘แรมโบ้อีสาน’ ถูกบีบและกดดันเรื่อยมา ให้หลบไปหลังฉาก เพื่อไม่ให้มีปัญหากับพรรคแกนนำรัฐบาล  

ที่สุด ‘แรมโบ้อีสาน’ ทนแรงเสียดทานไม่ไหวก็จำต้องถอยออกมา ซึ่งหลังจากทางสะดวก นายสุพัฒนพงษ์ก็ลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อทันที เพื่อให้ ‘แม่เลี้ยงติ๊ก’ ที่มีความสนิทสนมกับผู้บริหารพรรครวมไทยสร้างชาติได้เลื่อนเป็น สส. 

ขณะที่ในรายของ ‘บุญยอด’ นั้น แม้จะเคยอัดพรรคเพื่อไทย และ ‘ตระกูลชิน’ ไว้ไม่น้อยสมัยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ถึงกับขนาดของ ‘แรมโบ้อีสาน’ ที่ถูกกาหัว 

ลาออกครั้งนี้เพื่อความสบายใจในการทำงานมากกว่า หลังจากไปจับคู่กับ ‘เจ๊ปอง’ อัญชะลี ไพรีรักษ์ อ่านข่าวผ่านติ๊กต๊อกที่แนวหน้าออนไลน์ ซึ่งสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้มากกว่าตอนอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติที่เป็นหนึ่งในองคาพยพของรัฐบาลชุดปัจจุบัน  

อย่างไรก็ดี น่าสนใจว่า ชีวิตหลังจากนี้ของอดีตแกนนำเสื้อแดงตัวพ่อ ที่พลิก 360 องศามาเป็นองครักษ์พิทักษ์ ‘บิ๊กตู่’ ซึ่งวันนี้ต้องร่อนเร่จะมีเส้นทางการเมืองอย่างไร  

แต่ที่แน่ๆ คงไม่หยุดเอาไว้เท่านี้ อยู่ที่จะบทบาทไหนเท่านั้น.       

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ขี่กระแสชาตินิยม รวมบ้านใหญ่สู่รัฐบาล 4 ปี

“ประเทศไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเอง”, “รัฐบาลสนับสนุนการทำหน้าที่ของกองทัพอย่างเต็มที่”, “นี่เป็นเรื่องของสองประเทศ ไม่ใช่เรื่องของคนนอก” และ “การหยุดยิงจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อกัมพูชาแสดงความจริงใจ และต้องแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรม”

ศึกชิง ‘เมืองกล้วยไข่’ ‘กล้าธรรม’ ปะทะ ‘รัตนากร’

1 ในพื้นที่เป้าหมายสำคัญของ ‘พรรคกล้าธรรม’ ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรค คือ จ.กำแพงเพชร

เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล

การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า

ภูมิใจไทยพลัส-เปิดเกมใหญ่ ชูรัฐมนตรีคนนอก ลุยเลือกตั้ง

บรรยากาศการเมืองปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 เดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมเปิดรับสมัคร สส.ปลายเดือนธันวาคม ก่อนจะหย่อนบัตรในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พรรคการเมืองต่างเร่งเปิดตัวผู้สมัคร นโยบายหาเสียง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในช่วงโค้งสุดท้าย

‘บิ๊กป้อม’ ถอย ดัน ‘ตรีนุช’ เลือกตั้งสุดท้ายของ ‘พปชร.’

‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้งที่อีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดในวันที่ 27-28 ธันวาคมนี้