เศรษฐาอยู่ไม่ครบเทอม เปลี่ยนม้ากลางศึกก่อนเลือกตั้ง?

ควันหลงทางการเมืองที่ตามมา หลัง อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา

จับกระแสได้ว่า มีหลายสรรพเสียงมองว่า ภายในช่วงสมัยสภาฯ ชุดปัจจุบันที่มีวาระ 4 ปี ถ้าไม่มีอุบัติเหตุยุบสภาฯ กลางคันเสียก่อน อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีการ

เปลี่ยนม้ากลางศึก

ในฝ่ายบริหาร เพื่อให้อุ๊งอิ๊งขึ้นเป็นนายกฯ ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ เพราะทักษิณ ชินวัตร อาจเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจ เลือกตั้งรอบหน้าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง จนทำให้บุตรสาวได้ขึ้นเป็นนายกฯ คนที่ 4 ของเครือข่ายตระกูล ชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์ สืบต่อจาก ทักษิณ-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามีเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่

 ดังนั้นเพื่อความชัวร์ ทักษิณคงอยากเห็นบุตรสาวได้เป็นนายกฯ ก่อนการเลือกตั้งไปเลยดีกว่าที่จะไปรอลุ้นหลังเลือกตั้งรอบหน้า

 เพราะมีโอกาสสูงที่พรรคก้าวไกลอาจจะกลับมาชนะเลือกตั้งอีกรอบ และจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เพราะไม่มีด่านสกัดสมาชิกวุฒิสภา แบบตอนโหวตนายกฯ ที่ผ่านมา จนทำให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่สามารถขึ้นเป็นนายกฯ ได้

 ผนวกกับประชาชนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่ม 14 ล้านเสียง ที่เคยเลือกก้าวไกลตอนเลือกตั้งที่ผ่านมา อาจ คาใจ ที่ก้าวไกลได้คะแนนเสียงมากสุด และชนะเลือกตั้ง แต่กลับเป็นฝ่ายค้าน ก็อาจพร้อมใจไปเลือกก้าวไกลอีกครั้งรอบหน้า และก้าวไกลก็น่าจะได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นอีกในการเลือกตั้งรอบหน้า โดยเฉพาะหากทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลเศรษฐาอย่างเข้มข้น-ตรงเป้า มันก็น่าจะทำให้ก้าวไกลกลับมาชนะเลือกตั้งได้อีกครั้งไม่ยาก

 รวมถึงหากเศรษฐาบริหารประเทศไปสักระยะ เช่น 1 ปี หรือ 2 ปี แล้วเรตติ้งไม่ดี คะแนนนิยมของรัฐบาลและเพื่อไทยไม่พุ่ง จนอาจมีผลต่อเพื่อไทยในการเลือกตั้ง

ทั้งหมดมันก็ไม่ใช่เรื่องยากต่อการตัดสินใจของทักษิณที่จะเปลี่ยนตัวนายกฯ กลางเทอม ตามสูตร

 นายกฯ คนละครึ่ง

เศรษฐาครึ่งเทอม-อุ๊งอิ๊งครึ่งเทอมนั่นเอง

กระแสข่าวอุ๊งอิ๊งเตรียมขึ้นเป็นนายกฯ ก่อนการเลือกตั้ง ที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงนี้ จึงทำให้ออร่าทางการเมืองของอุ๊งอิ๊งที่ปกติก็ถูกจับตามองอยู่แล้ว ก็ยิ่งเปล่งประกายมากขึ้นเรื่อยๆ 

แม้แต่ขนาดตัว เศรษฐา ทวีสิน ก็ยังต้องแสดงท่าทีแบบอยู่เป็นทางการเมือง ด้วยการชื่นชมอุ๊งอิ๊งหลังได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า สามารถเป็นนายกฯ ได้สบายๆ และยังแสดงออกถึงการยอมรับในตัว อุ๊งอิ๊ง ด้วยการโค้งก้มหัวและบรรจงประคองมือของอุ๊งอิ๊ง และก้มหัวแสดงท่าทีจูบไปที่ฝ่ามือของอุ๊งอิ๊ง แต่เศรษฐาได้เอามือไปรองไว้ ทั้งที่เศรษฐาอายุมากกว่าแพทองธารยี่สิบกว่าปี และที่สำคัญ มีตำแหน่งเป็นถึง ผู้นำประเทศ จนถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม ถึงขนาดโซเชียลมีเดียนำภาพของเศรษฐาที่มีต่ออุ๊งอิ๊งดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับภาพ จากภาพยนตร์ The Godfather หนึ่งในหนังคลาสสิกของโลกภาพยนตร์ ที่ออกฉายในปี ค.ศ.1972 ที่ลูกน้องของดอน คอร์ลีโอเน Godfather มาเฟียชาวอิตาลี ก้มหัวและจูบฝ่ามือด้านบนของ ดอน คอร์ลีโอเน เพื่อแสดงถึงการเคารพและสยบยอมเป็นลูกน้องในสังกัด

มันก็ยิ่งทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองตามมาอย่างหนักว่า ประเทศไทยมีนายกฯ คนเดียวคือ เศรษฐา หรือนายกฯ 2 คน คือ เศรษฐาและอุ๊งอิ๊ง ที่ถูกกำกับโดย ทักษิณ ชินวัตร กันแน่

จนทำให้เศรษฐาต้องออกมายืนกรานว่า ประเทศไทยมีนายกฯ คนเดียว คือตนเอง

อย่างไรก็ตาม การที่ทักษิณ-เพื่อไทยจะเปลี่ยนตัวนายกฯ จากเศรษฐาเป็นอุ๊งอิ๊ง ถ้าจะทำจริงก็ต้องอยู่ที่เงื่อนไขหลายอย่างด้วย

 เพราะหากเศรษฐาบริหารประเทศได้ดี มีผลงานจับต้องได้ กระแสนิยมค่อนข้างดี และที่สำคัญ ไม่มีปัญหา-ข้อครหาเรื่อง ทุจริตคอร์รัปชัน-ผลประโยชน์ทับซ้อน จนถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจกลางสภาฯ แล้วชี้แจงไม่ได้ ถ้าเศรษฐาไม่มีเรื่องมัวหมองทางการเมือง อีกทั้งเป็นนายกฯ ที่มีผลงาน มันก็ทำให้การที่ทักษิณคิดจะเปลี่ยนตัวนายกฯ กลางเทอม แล้วเอาอุ๊งอิ๊งขึ้นเป็นนายกฯ แทนแบบไม่มีเหตุมีผลก็อาจจะยาก

ของแบบนี้หากทำไปแบบโฉ่งฉ่าง ผลที่ออกมาอาจกลายเป็นลบกับเพื่อไทยในระยะยาว ที่จะถูกฝ่ายพรรคก้าวไกลนำไปสร้างกระแสได้ว่า พรรคเพื่อไทยทำทุกอย่างเพื่อตระกูลชินวัตร ขนาดเศรษฐาไม่มีเรื่องทุจริต-มีผลงาน ยังโดนเปลี่ยนตัวเพื่อเอาลูกสาวทักษิณมาเป็นแทน ทำเหมือนกับประเทศเป็นสมบัติครอบครัวตระกูลชินวัตร                 หากกระแสออกมาโทนนี้ จะไม่เป็นผลดีกับเพื่อไทยอย่างมาก จะยิ่งทำให้เลือกตั้งรอบหน้า กระแสเพื่อไทยจะยิ่งแพ้ก้าวไกล แบบหลุดลุ่ย 

ดูได้จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา แค่เพื่อไทยโดนกระแสเรื่อง ดีลลับ-จับมือพรรคลุง เลือกเพื่อไทย ได้พรรคลุง ที่ตอนแรกเพื่อไทยประมาท คิดว่าเป็นกระแสพูดกันสนุกๆ ทางการเมือง ไม่รีบสร้างความชัดเจนทางการเมือง พอมาเจอ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศเลือกก้าวไกล มีเรา ไม่มีลุง-มีลุง ไม่มีเรา ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งเข้าไปเท่านั้น เพื่อไทยแก้เกมไม่ทัน กระแสก้าวไกลถึงจุดพีก จนสุดท้ายก้าวไกลชนะเลือกตั้งแบบคนในพรรคก้าวไกลยังตั้งตัวไม่ติดกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้วยเหตุนี้ กระแสการเมือง นายกฯ คนละครึ่ง เปลี่ยนม้ากลางศึก เอาเศรษฐาออกไป ดันอุ๊งอิ๊งเสียบแทน

เป็นเรื่องที่ทักษิณ-เพื่อไทยคิดได้ และคาดว่ามีการคิดไว้แน่ แต่การจะทำได้ ก็อยู่ที่เงื่อนไขการเมืองหลายอย่างเช่นกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม

วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก