'โครงการแลนด์บริดจ์'ส่อสะดุด! 'ก.ก.'ไม่เป็น'ตรายาง'-ชาวบ้านคัดค้าน

การประกาศลาออกจาก กมธ.แลนด์บริดจ์ ของ 4 สส. ในสัดส่วนของ พรรคก้าวไกล และนักวิชาการ ภายหลังการประชุมนัดสุดท้ายของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน สภาผู้แทนราษฎร

ซึ่งประกอบไปด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ, นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ, นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ, นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.บัญชีรายชื่อ และ รศ.ดร.สมพงษ์ ศิริโสภณศิลป์ อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โดยให้เหตุผลว่า ไม่ขอเป็นตรายาง ประทับอนุมัติรายงานฉบับดังกล่าว เนื่องจากรายงานการศึกษาของ กมธ.ยังไม่ครบถ้วน จำเป็นต้องได้รับคำชี้แจงเพิ่มเติมจาก สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ

และประธาน กมธ. (นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย) ก็ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ที่ประชุมถามหน่วยงานที่เข้าชี้แจงจนสิ้นสงสัย แต่กลับเลือกจะ 'ทุบโต๊ะ' เร่งรัดให้มีการลงมติอนุมัติรายงานการศึกษา แม้ว่า สส.ก้าวไกล ที่เป็นเสียงส่วนน้อยใน กมธ.จะพยายามทัดทานแล้วก็ตาม

"ถ้าจุดใหญ่ใจความที่ควรจะได้รับคำตอบให้สิ้นสงสัย ยังเป็นปัญหาอยู่ เพราะไม่รู้จะลงมติอย่างไร จึงเป็นที่มาว่า ลาออกดีกว่า" น.ส.ศิริกัญญากล่าว

อีกทั้งยังติดใจสงสัยในเรื่องสำคัญที่ยังคลุมเครือ อาทิ การประเมินความต้องการของบริษัทเดินเรือในโครงการ รวมถึงความแออัดของช่องแคบมะละกา มีความเกินจริง, การเปลี่ยนแปลงแผนการศึกษาสภาพแวดล้อม ซึ่งอาจจะขัดกับมติ ครม.ที่เคยมีมาก่อนหน้านี้, ความคุ้มค่าของผลการลงทุนที่ สนข.คาดการณ์ว่าผลตอบแทนสูงถึง 17% ก็สวนทางกับรายงานของสถาพัฒน์ จึงเกรงว่านายกรัฐมนตรีจะไปให้ข้อมูลแบบผิดๆ กับต่างประเทศ

การเลือกลาออกในวินาทีสุดท้ายของการประชุมนี้ ทำให้หลายฝ่ายตั้งแง่ว่าเป็นการ 'เล่นการเมือง' หรือ 'ทิ้งงานกลุ่ม' ด้วยเหตุว่าไม่มีความจำเป็นต้องเล่นใหญ่ถึงขั้นลาออก เพราะกลไก กมธ.ก็เปิดโอกาสให้เสียงข้างน้อยทำความเห็นแย้งบันทึกไว้ในรายงานอยู่แล้ว ทั้งยังสามารถอภิปรายโต้แย้งในการพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้อีก

โดยเมื่อผู้สื่อข่าวได้ไปขอความเห็นจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มี สส.หลายคนในสังกัดออกมาสนับสนุนโครงการนี้ตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ก็ให้สัมภาษณ์ว่า "ไม่อยากให้มองทุกเรื่องเป็นการเมืองหมด" พร้อมขอให้เห็นแก่ประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับจากโครงการนี้เป็นหลัก

ซึ่ง น.ส.ศิริกัญญา ก็ออกมาโต้ทันควัน ยืนยันเสียงแข็ง พร้อมย้อนถามว่า ใครกันแน่ที่เล่น เพราะประธาน กมธ.แลนด์บริดจ์เป็นผู้เร่งรัดให้ปิดประชุมและลงมติเอง

ขณะที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มองว่า การลาออกจาก กมธ.ของ สส.ก้าวไกล ก็เป็นสิทธิ์ แต่ประชาชนก็มีสิทธิ์ตั้งคำถามเช่นกัน ว่าทำให้ประเทศเสียประโยชน์หรือไม่ เพราะการยังอยู่ใน กมธ.ก็จะสามารถเสนอแนะและท้วงติงได้

แต่ผู้ที่ดูจะเดือดที่สุด เห็นจะไม่พ้น นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ในฐานะประธาน กมธ.แลนด์บริดจ์ ที่จวกยับว่า ทุกคนใน กมธ.เข้าใจหมด มีแต่พรรคก้าวไกลที่ไม่เข้าใจ พยายามซักลงไปในรายละเอียดถึงขั้นที่ว่า จะมีเรือสัญชาติใดบ้าง มีกี่ลำมาเข้าร่วมในโครงการ เหมือนกับพยายามไม่เข้าใจ

"ไม่อยากทะเลาะกับเด็กให้เป็นดรามา หรือหัดมองโลกให้กว้าง ควรมีเหตุผล ไม่ใช่ไม่พอใจแล้วออกไปโวยวาย อย่าจ้องเล่นแต่การเมือง อย่าใช้อารมณ์ อายุยังน้อย อยากเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต้องใจเย็นๆ" ประธาน กมธ.แลนด์บริดจ์กล่าว

แม้จะถูกบิดจากประเด็นความชัดเจนของโครงการ ไปเป็นเรื่องวิวาทะทางการเมือง แต่ฉากทัศน์ของโปรเจกต์นี้ยังมีให้ติดตามต่อ เพราะรายงานการศึกษาที่ กมธ.ลงมติอนุมัติแล้ว จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ ซึ่งอาจจะมีการก่อหวอดถกเถียงกันอย่างเป็นเนื้อเป็นหนังให้ประชาชนได้รับชมกันถ้วนหน้า ก่อนจะส่งไปยังที่ประชุม ครม.ต่อไป

ประจวบเหมาะพอดีกับกำหนดการคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่ จ.ระนอง ระหว่างวันที่ 22-23 ม.ค.นี้ ซึ่งมีรายงานว่า อาจมีม็อบใหญ่คัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์รอต้อนรับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอยู่

เนื่องจากก่อนหน้านี้ กมธ.แลนด์บริดจ์ เคยมาตั้งโต๊ะรับฟังความเห็นจากชุมชน และมีชาวบ้านเข้ามาแสดงความกังวลในหลายๆ ประเด็น

โดยล่าสุด นายสมโชค จุงจาตุรันต์ คณะทำงานเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ก็เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อหวังเคลียร์ใจในประเด็นนี้ด้วย

ดูท่าว่า ‘อภิมหาโปรเจกต์แลนด์บริดจ์‘ ยังส่อแววได้สะดุดอีกหลายยก กว่าจะข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงฝั่งฝันที่รัฐบาลอยากจะทำให้เป็นจริงได้!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม

วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก

ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต

ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)