สัปดาห์นี้สภาผู้แทนราษฎรมีคิวพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน นั่นก็คือ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ที่เป็นการพิจารณาวาระแรก ระหว่างวันที่ 19-21มิ.ย.2567
และด้วยจำนวนเสียง สส.ฝ่ายรัฐบาลที่มีท่วมท้น ร่วมๆ 312 เสียง จึงทำให้รัฐบาลไม่หนักใจกับเสียงโหวต และไม่แน่ อาจได้เห็น สส.งูเห่า ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะจากบางพรรค เช่น ไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มาร่วมออกเสียงโหวตเห็นชอบให้ด้วย 1-2 คน หลังแสดงออกชัดเจนว่าต้องการย้ายไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยมาร่วมปี
การพิจารณร่าง พ.ร.บ.งบฯ 68 รอบนี้ สิ่งที่ต้องติดตามกันก็คือ การอภิปรายของ สส.ในสภาฯ โดยเฉพาะ สส.พรรคฝ่ายค้าน ที่จะอภิปรายงบในกระทรวง-หน่วยราชการต่างๆ รวมถึงเม็ดเงินงบประมาณที่จะใช้ในโครงการต่างๆ ที่จะมีการอภิปรายเนื้อหาให้เชื่อมถึงประเด็นการเมือง เพื่อสร้างความน่าสนใจในการอภิปราย ส่วน สส.รัฐบาลก็จะมีการอภิปรายเช่นกัน แต่เนื้อหา-ดีกรี จะไม่หนักหน่วงเท่าฝ่ายค้าน จะเป็นในเชิงเสนอแนะ-ให้ข้อคิดเห็นเสียมากกว่า เผลอๆ จะใช้เวทีนี้เชียร์เศรษฐา-และรัฐบาลกลางสภาฯ เพื่อสร้างซีนการเมืองให้เข้าตาผู้ใหญ่ในพรรคต้นสังกัด
โดยเบื้องต้นการประชุมตลอด 3 วันดังกล่าว จะใช้เวลารวมทั้งสิ้น 40 ชั่วโมง แยกเป็นรัฐบาลกับ สส.รัฐบาล 20 ชั่วโมง และฝ่ายค้านได้เวลา 20 ชั่วโมง โดยนัดลงมติประมาณช่วงเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 21 มิ.ย.
แน่นอนว่า การอภิปรายของ สส.พรรคก้าวไกล จะถูกโฟกัส เฝ้าจับตามองมากที่สุด เพราะด้วยสไตล์การทำการบ้าน-การเตรียมข้อมูลของพรรคก้าวไกล ที่ทำงานเป็นระบบ และ สส.ในพรรคต่างก็ต้องแข่งขันกัน ทำผลงานในสภาฯ ให้สังคมและแกนนำพรรคเห็น จึงทำให้การอภิปรายรอบนี้ หลายคนจึงรอดูกันว่า สส.ก้าวไกล มาตรฐานการอภิปราย-การนำเสนอข้อมูลจะดีขึ้นหรือแย่ลงกว่าที่ผ่านมาหรือไม่
หลังพบว่า เวทีอภิปรายหลัก 3 เวทีที่ผ่านมาในช่วง 1 ปี ทั้งการอภิปรายงบฯ 67-การอภิปรายรัฐบาลทั่วไปแบบไม่ลงมติ-การอภิปรายนโยบายรัฐบาลเศรษฐา สส.ก้าวไกล หลายคน ก็พอแจ้งเกิดได้ แต่ไม่ถึงกับว้าวเหมือนในอดีต แต่หลายคนแม้จะพยายาม แต่ก็แจ้งเกิดไม่สำเร็จ ดังนั้นการอภิปรายงบ 68 รอบนี้ คาดว่า สส.ก้าวไกลหลายคนคงลับดาบ ฝึกซ้อมมาพอสมควร เพื่อหวังขึ้นมาเป็นดาวสภาฯ ก้าวไกลให้ได้
โดยงบที่คาดว่าจะมีการอภิปรายจากฝ่ายค้านค่อนข้างมาก ก็น่าจะมีเช่น งบกลาง วงเงิน 805,745 ล้านบาท โดยเฉพาะงบที่รัฐบาลกันไว้ จะนำมาใช้ทำ โครงการดิจิทัลวอลเล็ตแจกเงินประชาชนคนละหนึ่งหมื่นบาท วงเงิน 152,700 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าก้าวไกลจะมี ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล จะเป็นตัวหลักในการอภิปรายงบดังกล่าว
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายเม็ดเงินในงบกลาง ที่คาดว่าฝ่ายค้านคงให้ความสนใจอภิปรายกันพอสมควร เช่น เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 95,300,000,000 บาท หรืองบที่อยู่ในส่วนของหน่วยราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เช่น งบกรมประชาสัมพันธ์ เช่น งบในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้านข่าวโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง 107,630,000 บาท-งบค่าใช้จ่ายในการเสริมสร้างภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์เชิงรุกในเวทีต่างประเทศ 36,425,000 บาท
และแน่นอนว่า แมตช์นี้ก้าวไกลคงไม่พลาดในการจะอภิปราย งบกองทัพ-งบทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความมั่นคง-การข่าว-งานมวลชน โดยงบที่คาดว่าจะมีการอภิปรายหนักก็เช่น งบของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ที่ก้าวไกลเสนอกฎหมายให้ยุบ กอ.รมน.เข้าสภาฯ มาแล้ว
พบว่า ปี 2568 กอ.รมน.ได้งบฯ 7,224,654,400 บาท โดยมีงบที่น่าสนใจ เช่น การเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ 27,415,500 บาท-งบสนับสนุน และใช้งานด้านเครือข่ายมวลชนเพื่องานด้านความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 351,833,700 บาท-งบกำลังพลและทรงชีพ กอ.รมน.ภาค/ส่วนแยก/จังหวัด 155,000,000 บาท-งบปฏิบัติการข่าวกรองเพื่อความมั่นคง 37,662,500 บาท-งบการข่าวกรองเชิงรุก 253,825,100 บาท
รวมถึง งบกระทรวงกลาโหมและงบกองทัพ ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ก้าวไกล จะให้ สส.ของพรรคอภิปรายแบบรัวๆ ชุดใหญ่ไฟกะพริบ โดยพบว่ากระทรวงกลาโหมรอบนี้ได้งบร่วมๆ 200,923,780,500 บาท โดยมีงบหลายส่วนที่คาดว่าก้าวไกลจะอภิปรายเชื่อมให้เป็นประเด็นการเมืองได้ เช่น งบค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคง 28,000,000 บาท-เงินราชการลับ 32,393,000 บาท
หรือ งบกองทัพบก ที่ปีนี้ได้มาร่วม 96,605,260,400 บาท ก็มีงบหลายตัวที่น่าสนใจ และฝ่ายค้านคงไม่พลาดอภิปราย เช่น ค่าใช้จ่ายในการเรียกเกณฑ์และตรวจเลือกทหารกองประจำการ 125,447,500 บาท-ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ 3,014,053,800 บาท-เงินราชการลับ 290,046,000 บาท-ค่าใช้จ่ายในงานแหล่งข่าวประชาชน 13,003,800 บาท-ค่าใช้จ่ายในงานเสริมสร้างระบบข่าวกรองเพื่อความมั่นคง 16,957,100 บาท
งบค่าใช้จ่ายในการเสริมสร้างกำลังกองทัพ เช่น ค่าใช้จ่ายในการฝึก ศึกษาทางการทหาร 2,653,538,700 บาท-ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุน การส่งกำลังและซ่อมบำรุง และผลิตเพื่อแจกจ่าย 3,903,603,400 บาท-ค่าใช้จ่ายในการจัดหาส่งอุปกรณ์และชิ้นส่วนซ่อมคงคลัง 1,095,000,000 บาท-ค่าใช้จ่ายในการเตรียมกำลังพลสำรองเพื่อป้องกันประเทศ 93,960,000 บาท-งบในโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ 2,699,089,600 บาท-โครงการซ่อมแซมและปรับปรุงยุทโธปกรณ์ 2,902,008,700 บาท-โครงการเพิ่มประสิทธิภาพงานข่าวกรอง เช่น ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 197,347,400 บาท และงบโครงการจัดหายุทโธปกรณ์สนับสนุนหน่วยในการปฏิบัติภารกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 326,077,000 บาท เป็นต้น
โดยพบว่าในส่วนของ งบลับ-เงินราชการลับ พบว่า ทั้งกระทรวงกลาโหม-กองทัพบก-กองทัพเรือ-กองทัพอากาศ ยังคงตั้งงบดังกล่าวไว้เหมือนเช่นทุกปี เช่น เงินราชการลับของกองทัพเรืออยู่ที่ 62,694,000 บาท ส่วนกองทัพอากาศอยู่ที่ 30,000,000 บาท-กองทัพบก 290,046,000 บาท เป็นต้น
รวมถึงอาจมีการอภิปราย งบจัดซื้ออาวุธ ของเหล่าทัพต่างๆ เช่น กองทัพเรือ-กองทัพอากาศ ในการอภิปรายรอบนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ก็คาดว่าจะมีงบอีกหลายหน่วยงาน-หลายโครงการ ที่ สส.ฝ่ายค้านจะอภิปรายกัน เช่น งบประมาณรายจ่ายตามนโยบาย ซอฟต์พาวเวอร์ ที่มีรายงานว่างบส่วนใหญ่จะตั้งกระจายไปอยู่ตามกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ 2 กระทรวงหลัก คือ กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีการตั้งงบในรูปแบบการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ
ที่ก็ต้องดูกันว่า ฝ่ายค้านจะอภิปรายพาดพิงไปถึง อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติหรือไม่ ซึ่งเชื่อได้ว่า หากมีการอภิปรายพาดพิงถึงอุ๊งอิ๊ง สส.เพื่อไทยคงประท้วงกันวุ่นวาย เพราะเป็นที่รู้กันว่า แตะทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ยังไง ก็แตะลูกทักษิณไม่ได้เช่นกัน
สุดท้ายแล้ว ศึกอภิปรายงบฯ 68 ช่วง 19-21 มิ.ย.จะเข้มข้นมากน้อยแค่ไหน รอติดตามชมกันได้สัปดาห์นี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ขี่กระแสชาตินิยม รวมบ้านใหญ่สู่รัฐบาล 4 ปี
“ประเทศไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเอง”, “รัฐบาลสนับสนุนการทำหน้าที่ของกองทัพอย่างเต็มที่”, “นี่เป็นเรื่องของสองประเทศ ไม่ใช่เรื่องของคนนอก” และ “การหยุดยิงจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อกัมพูชาแสดงความจริงใจ และต้องแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรม”
ศึกชิง ‘เมืองกล้วยไข่’ ‘กล้าธรรม’ ปะทะ ‘รัตนากร’
1 ในพื้นที่เป้าหมายสำคัญของ ‘พรรคกล้าธรรม’ ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรค คือ จ.กำแพงเพชร
เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ
ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล
การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า
ภูมิใจไทยพลัส-เปิดเกมใหญ่ ชูรัฐมนตรีคนนอก ลุยเลือกตั้ง
บรรยากาศการเมืองปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 เดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมเปิดรับสมัคร สส.ปลายเดือนธันวาคม ก่อนจะหย่อนบัตรในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พรรคการเมืองต่างเร่งเปิดตัวผู้สมัคร นโยบายหาเสียง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในช่วงโค้งสุดท้าย
‘บิ๊กป้อม’ ถอย ดัน ‘ตรีนุช’ เลือกตั้งสุดท้ายของ ‘พปชร.’
‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้งที่อีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดในวันที่ 27-28 ธันวาคมนี้

