ซูฮกพรรคเพื่อไทย!!! โยนโจทย์ให้แต่ละพรรคร่วมรัฐบาลเคาะชื่อกันเอง และมีคำสั่งพิเศษไม่เอา “วงษ์สุวรรณ” ร่วมรัฐบาล เล่นเอาพรรคการเมืองอื่นวุ่นวาย โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์โดนหางเลขไปกับเขาด้วย ที่เห็นเป็นเอกภาพสุด คือพรรคภูมิใจไทยไร้รอยต่อเป็นหนึ่งเดียวกัน
ตั้งแต่ “แพทองธาร ชินวัตร” ลูกรัก “ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากผู้เป็นพ่อแล้ว บรรดาไพร่พลเพื่อไทยก็ประคบประหงม “หญิงอิ๊งค์” เป็นพิเศษ
ตั้งปณิธานปิดช่องอย่างไรก็ได้ไม่ให้นายกฯหญิงคนที่สองของประเทศโดนคดี เราจึงได้เห็นการตั้งเป้าสแกนประวัติคนเป็นรัฐมนตรีอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันไม่ให้ซ้ำรอย “เศรษฐา ทวีสิน”
คราวนี้ร้อนถึงรัฐมนตรีหลายคนที่เป็นสายล่อฟ้า เช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการรมว.เกษตรฯ สันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการรมช.สาธารณสุข เป็นต้น รวมถึง “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” รักษาการรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แม้นายกฯอิ๊งค์ จะไม่มีปัญหากับ “วงษ์สุวรรณ” แต่ “ทักษิณ” ผู้จัดการรัฐบาลคาใจ
ดูจากคำให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ก็พอหยั่งท่าทีได้อะไรเป็นอะไร “โทนี่” ตอบคำถามช่วงหนึ่งว่าระหว่างฝ่าย “วงษ์สุวรรณ” กับ “ร.อ.ธรรมนัส” นั้น ฝ่ายที่น่าทำงานด้วยต้องเป็นฝ่ายที่ทุ่มเทให้กับรัฐบาลมาตลอด
เอาแค่งานในสภาฯก็เห็นๆอยู่แล้ว “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และพี่ชายของ “พล.ต.อ.พัชรวาท” ในฐานะเป็นผู้แทนราษฎร เคยมาทำงานหรือเคยมายกมือโหวตนายกฯให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่??
ผิดกับ “ร.อ.ธรรมนัส” และพวกพ้องที่อยู่สภาฯตลอด ไม่เคยปล่อยให้พร่อง นัดสำคัญก็ไม่เคยละเลย แต่ประวัติที่โชกโชนก็ทำให้ “แพทองธาร” ไม่ต้องการร่วมทำงานกับผู้กอง
นอกจากนี้ “โทนี่” ยังหักหน้า “พล.อ.ประวิตร” ยืนยันว่าไม่เคยได้ยินเสียงพล.อ.ประวิตร ได้ยินแต่เสียงที่ลอดมาจากโทรศัพท์หัวหน้าพรรคอื่น ฉะนั้น จึงทำให้เกิดรอยร้าวขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส ประกาศอิสรภาพเลิกรับใช้ “ลุงป้อม” รวบรวมสส.ของพรรคพลังประชารัฐเป็นอิสระต่อ“บ้านป่าฯ”
เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด “พรรคประชาธิปัตย์” ถูกมองเป็น “ตาอยู่” ในเกมการจัดตั้งรัฐบาล “อิ๊งค์1” อีกทั้ง “ประชาธิปัตย์” เองไม่เคยปฏิเสธหรือปิดประตูตายในการร่วมรัฐบาล ทำให้ “ประชาธิปัตย์” กลายเป็นตำบลกระสุนตกและถูกด้อยค่าโดยอัตโนมัติ
จน “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” หัวหน้าพรรค ต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของประชาธิปัตย์ เขาบอกว่า “ไม่ใช่ว่าเราอยากเป็นรัฐบาลแล้วโยนมา คนเรายังมีศักดิ์ศรีเลยในแต่ละคน แล้วพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมือง ก็ต้องมีจุดยืนมีศักดิ์ศรีของเรา บางทีมีการไปพูดกันเหมือนเราไม่มีค่า อย่างนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง ย้ำในสมัยที่ผมเป็นหัวหน้าพรรคทุกอย่างต้องมีการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะเรารักสถาบันของเรา และรักประเทศชาติ”
แต่ดูเหมือนสถานการณ์ยังจะซ้ำเติมให้ “ประชาธิปัตย์” ดูแย่ในสายตาใครหลายคน ตลอดของเมื่อวานนี้(21ส.ค.)พรรคพลังประชารัฐปล่อยข่าว “ธรรมนัส” แอบดอดคุย “เฉลิมชัย” ดีลร่วมรัฐบาล หวังผลเล่นสงครามจิตวิทยากับฝ่ายบ้านป่ารอยต่อฯ
ต่อเนื่องด้วยการปล่อยข่าว “ประชาธิปัตย์” ส่งชื่อให้ทางพรรคเพื่อไทยแล้ว เวลาเดียวกันก็มีการให้ข่าวว่า “กลุ่มธรรมนัส” เสนอชื่อว่าที่รัฐมนตรี 3 คน ประกอบด้วย ร.อ.ธรรมนัส, สันติ และอรรถกร ศิริลัทธยากร โดดเดียวคนของตระกูล “วงษ์สุวรรณ”
กระทั่งช่วงบ่าย พลังประชารัฐออกแถลงการณ์พรรค บอกว่า พล.อ.ประวิตรส่งรายชื่อรัฐมนตรี 4 คน ตามเดิม โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งและบุคคลใดๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะได้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติตามกระบวนการต่อไป
เป็นอันว่า “พลังประชารัฐ”แลกมัดกัน “ประชาธิปัตย์”เจ็บตัวฟรี ยังคงเป็นฝ่ายค้านเหมือนเดิม และความจริงไม่มีอะไรในกอไผ่ “ธรรมนัส” ไม่ได้ไปดีลกับ “เฉลิมชัย” ที่บ้านพัก มีแต่สส.สามจังหวัดชายแดนใต้ในก๊วนผู้กองฯไปนั่งพูดคุย
ที่สำคัญ แม้ “ประชาธิปัตย์” อยากไปเต็มแก่ แต่ในฐานะเป็นผู้ถูกเลือก ไม่ใช่ผู้เลือก ก็ “ยัง” ไม่มีการเทียบเชิญใดๆให้เข้าร่วมรัฐบาล และทราบมาว่าทางประชาธิปัตย์ต้องการให้รัฐบาล “เทียบเชิญ” เป็นกิจจะลักษณะ เพื่อศักดิ์ศรีของพรรคด้วย
การปล่อยข่าวว่า “ประชาธิปัตย์”ส่งชื่อไปยังพรรคเพื่อไทยยิ่งประหลาด ด้วยความเป็นพรรคแห่งความพิธีรีตอง อย่างไรเสียการจะส่งชื่อใครไปเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลอิ๊งค์1 ก็ต้องผ่านที่ประชุมสส. และคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)อยู่ดี แม้จะล็อคชื่อมาก่อนหน้านี้แล้วก็ตามที
แต่จนถึงเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ก็ยังไม่มีนัดประชุมใดๆของพรรค เหนือสิ่งอื่นใด เกมนี้เพิ่งเริ่มต้น “พรรคเพื่อไทย” เจ้าของเกมนี้ บอกว่าพรรคร่วมฯทั้งหลายส่งชื่อมาแล้ว ต้องรอตรวจสอบประวัติก่อน!!! บางทีในภายภาคหน้าความใฝ่ฝันของ “ประชาธิปัตย์” อาจกลายเป็นเรื่องจริง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน
รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม
วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก
‘ลุงป้อม’ไปต่อ! พปชร.ปรับทัพ ตรีนุชนั่งเลขาฯ
พปชร.ปรับทัพใหม่สู้เลือกตั้ง ดัน “ตรีนุช” นั่งเลขาธิการพรรค เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ 3


