ไม่กี่วันก่อน นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวว่าคณะอนุกรรมการไต่สวนที่มี นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน ได้มีมติชี้มูลคนระดับรัฐมนตรีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ป่วยทิพย์ ชั้น 14 แต่มีไอ้โม่งที่หวังเป็นใหญ่ใน ป.ป.ช. แจ้งให้เปลี่ยนเรื่องเป็นยุติสอบสวน ว่า ปัจจุบันคดีดังกล่าวยังอยู่ในชั้นตรวจสอบเบื้องต้น
ล่าสุด นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รักษาการประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่เข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ แต่คาดว่าจะเข้าเร็วๆ นี้ เพียงแต่ไม่ใช่สัปดาห์หน้า เพราะมีกรรมการ ป.ป.ช.คนหนึ่งเดินทางไปต่างประเทศ จึงจะเป็นสัปดาห์ถัดไป
นอกจากนี้ นายวิทยายังยืนยันด้วยว่า ไม่มีการสกัดวาระตามที่มีกระแสข่าว
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านั้น นายไพศาล พืชมงคล ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า มีการชี้มูลในคดีดังกล่าว
รวมถึง นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ออกมาปูดว่า คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ได้ลงมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด พร้อมส่ง ป.ป.ช.ชุดใหญ่ในวันที่ 3 ธ.ค. เพื่อบรรจุวาระเข้าประชุมวินิจฉัยฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งนักการเมืองดำเนินคดีกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว เพราะเป็นเรื่องที่สังคมกำลังจับจ้องมองตาไม่กะพริบ
อย่างไรก็ดี แม้จะมีการชี้แจงและมีการปฏิเสธออกมาจากทาง ป.ป.ช. แต่ถือว่ามีเค้าลางพอสมควรว่าคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าจริงๆ
โดยเฉพาะการที่ นายวิทยา ระบุว่า อาจจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่เร็วๆ นี้
ส่วนเรื่องความพยายามจะสกัดนั้น ตรงนี้น่าสนใจเช่นกัน เพราะคดีนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ในทางการเมือง การชี้มูล-ไม่ชี้มูล มีผลเป็นอย่างมาก
เนื่องจากเรื่องนี้เป็นความท้าทายของกระบวนการยุติธรรม กรณีของ นายทักษิณ พักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้ติดคุกสักวันเดียว เป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากถึงการได้รับอภิสิทธิ์ ขณะเดียวกันหลายฝ่ายต่างอยากรู้ความจริงว่า นายทักษิณ พักอยู่จริงหรือไม่
สังคมต้องการพิสูจน์ในเรื่องนี้ ฉะนั้นการชี้มูล-ไม่ชี้มูลในคดีนี้ยังจะเป็นการตอบคำถามสังคมในเบื้องต้น ในฐานะที่ ป.ป.ช.เป็นหน่วยงานตรวจสอบหลักลำดับต้นๆ ของประเทศ
ในมิติทางการเมืองถือว่ามีผลมาก หาก ป.ป.ช.ยกคำร้อง เรื่องจะยุติ เท่ากับว่าการตรวจสอบเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจเป็นอันจบด้วย
นายทักษิณ จะตัวเบาขึ้นเยอะ ไม่ต้องมากังวลว่าจะถูกตลบหลัง หรือ แบล็กเมล์ ตามที่แนวต้านพยายามจะขุดคุ้ยเรื่องนี้กลับมาให้ได้
อดีตนายกฯ รายนี้จะเหลือเพียงคดีมาตรา 112 เพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ยังเป็นชนัก
แต่หาก ป.ป.ช.ชี้มูลขึ้นมา จะถือเป็นการเขย่าทางการเมืองทีเดียว เพราะในคำร้องมีทั้งคนระดับรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้อง ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น
และมันจะลามไปถึง นายทักษิณ ด้วย เพราะหากการพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจเป็นไปโดยมิชอบ คำถามคือ แล้วจะทำอย่างไรต่อไป
นายทักษิณ ต้องกลับไปติดคุกใหม่หรือไม่?!?
ไม่เพียงเท่านั้น จะถูกลากไปถึงเรื่อง ‘ดีลลับ’ ในการกลับประเทศว่า เหตุใดเรื่องจึงตาลปัตรมาเป็นแบบนี้ มีการ ‘หัก’ กันเกิดขึ้นหรือไม่?
เพราะช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวลือออกมาเหมือนกันว่า อดีตบิ๊กการเมืองหลายคนเริ่มไม่พอใจกับบทบาทของ นายทักษิณ ในระยะหลังที่เหาะเกินลงกา เล่นแรง โดยเฉพาะกับปฏิบัติการถล่ม เจ้าของบ้านป่าฯ ต่อเนื่อง
ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว หาก ป.ป.ช.มีการชี้มูล ขั้นตอนต่อไป ป.ป.ช.จะต้องส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด เพื่อส่งต่อศาลเอาผิด โดยยังเหลืออีกหลายชั้นให้ต่อสู้กัน จะกลายเป็นหนังยาวที่สามารถเอาไว้ใช้ต่อรองกันได้
ตรงกันข้าม หาก ป.ป.ช.ยกคำร้อง นั่นเท่ากับการ ‘ตัดจบ’ เลย ฉะนั้นจึงไม่แปลกหากจะมีการปล่อยข่าวลือเรื่อง ‘การสกัดวาระ’ กันเกิดขึ้น
อีกจุดที่น่าสนใจคือ ดุลอำนาจใน ป.ป.ช.ขณะนี้ กำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านจากเจ้าป่าไปสู่ผู้นำจิตวิญญาณค่าย สีน้ำเงิน
กรรมการ ป.ป.ช.ชุดเดิมที่เคยถูกมองว่า เป็นสายเจ้าของบ้านป่าฯ หมดวาระลงไปแล้วหลายคน ขณะที่คนใหม่ๆ ที่จะเข้ามาจะต้องผ่านด่านวุฒิสภา ซึ่งในทางการเมืองรู้ว่า พรรคไหนเป็นคนกุมอำนาจชั้นกลั่นกรองบุคคลที่จะเข้าไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระนี้อยู่
การพิจารณาในครั้งนี้ยังจะมองในทางรัฐศาสตร์ได้เหมือนกันว่า วันนี้เจ้าป่ายังมีขุมกำลังหลงเหลืออยู่ในนั้นหรือไม่ หรือไม่ได้กุมสภาพตรงนั้นแล้ว
เป็นเรื่องที่ต้องติดตามว่า จะออกมาหน้าไหน ระหว่าง ‘ตัดจบ’ หรือ ‘สู้กันต่อ’.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง
หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี
แนวรบสุดท้ายสู้สแกมเมอร์ ปัจจัยที่ต้องปิดจ๊อบชายแดน
แม้สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดน "ไทย-กัมพูชา" ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ฝ่ายไทยจะสามารถยึดเป้าหมายในหลายพื้นที่ และ มีแนวโน้มที่ดีใน 13 แนวรบ แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่า "กัมพูชา"
ได้ทุกขั้ว-เสบียงกรัง-อำนาจ เมินกระแส สส.แห่ซบ‘กล้าธรรม’
นอกจาก ‘พรรคภูมิใจไทย’ ที่มี ‘แม่เหล็ก’ ดึงดูดอดีต สส.และนักการเมือง ในการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ‘พรรคกล้าธรรม’ อาณาจักรของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่ปรึกษาพรรค เป็นอีกค่ายหนึ่งที่มีผู้คนพาเหรดเข้ามาเป็นองคาพยพ
โจทย์หิน3แคนดิเดตนายกฯพท. ลูกเจ๊แดงโปรไฟล์ดีแต่มีข้อกังขา!
หลังพรรคเพื่อไทยเปิดตัว ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ลูกชายเจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ ชินวัตร และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หมายเลข 1 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา
เพื่อไทย ชูเครือญาติ 'ชินวัตร' นั่งแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1
"เพื่อไทย ชู "ยศชนัน" นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ชี้ไม่เป็นปัญหาถูกมองหนีไม่พ้นตระกูลชินวัตร ลั่นเป็นโอกาส-จุดเด่น รับเป็นหน้าใหม่การเมือง เชื่อเวลา 2 เดือน ชนะใจปชช.ได้ พร้อมยัน ไม่ถูกครอบงำจาก “เยาวภา” ด้าน “สุริยะ” ยังมั่นใจ ถึงเป้า 200 ที่นั่ง ขณะที่ “จุลพันธ์” ประกาศพร้อมฝ่าด่านอำนาจรัฐ กระสุน กระแสชาตินิยม สู่ชัยชนะด้วยนโยบาย
พรรค‘ปชน.’ขอโทษจากใจ วอน‘ประชาชน’ไปต่อด้วยกัน
ภาพที่หัวหน้าพรรคสีส้มทุกยุคสมัยมาปรากฏตัวพร้อมหน้าบนเวทีเดียวกันไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยนัก เอาเข้าจริงอาจจะยิ่งกว่าเวทีปราศรัยใหญ่ก่อนเลือกตั้งทุกครั้งด้วยซ้ำ เพราะในกิจกรรม

