จับตาผลลัพธ์ปิด‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ ‘อิ๊งค์’คุย'สี จิ้นผิง'ร่วมมือตัดวงจร!

อาชญากรรมข้ามชาติปัญหาใหญ่ของไทยในตอนนี้ ที่เข้ามาทำลาย หลอกลวงดูดทรัพย์คนไทยมูลค่าความเสียหายไม่สามารถประเมินได้ กำลังเป็นโจทย์ท้าทายรัฐบาลไทยว่าจะปราบปรามสำเร็จหรือไม่

โดยกลุ่มทุนเทา จีนเทา หรือมิจฉาชีพต่างๆ เหล่านี้ตั้งใจเข้ามาใช้ไทยเป็นทั้งทางผ่านและเป็นฐานที่มั่นด้วย ประจวบเหมาะตอนนี้ประเทศไทยกำลังผลักดันยกการพนันมาไว้บนดินในโครงการ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รวมความบันเทิงหลากหลายประเภทไว้ในพื้นที่เดียว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ จึงเสมือนเป็นการดึงดูดและปลุกกลุ่มทุนเทาให้กล้าออกมามากขึ้น

นอกจากนี้ที่หลายปัญหายังแก้ไม่ได้ อาจด้วยเรื่องส่วยต่างๆ ที่เกิดขึ้นมานานและยังแก้ไม่ขาด แม้ปัจจุบันยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไป มีการปราบปรามเอาจริงเอาจังในหลายรัฐบาล รวมถึงรัฐบาล พรรคเพื่อไทยที่ตั้งแต่ยุค นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เคยประกาศลั่นทลายการรับเงินใต้โต๊ะทุกส่วนราชการ จนถึงรัฐบาล นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ที่ดูเหมือนปัญหาดังกล่าวจะเริ่มเลือนรางออกไปจากสังคมไทย แต่ก็ยังไม่หมดไป

จนมาสู่สถานการณ์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ระบาดอย่างหนัก เจาะจงพุ่งเป้าหลอกลวงคนไทย ตั้งแต่ประชาชนทั่วไป ดารา นักแสดง แม้แต่ระดับผู้นำประเทศของไทยอย่าง นายกฯ อิ๊งค์..แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เคยโดนโทร.ลวงให้โอนเงินมาแล้ว แต่ดีที่นายกฯ ไหวตัวได้ทัน

 จากปัญหาที่เกิดขึ้นและเลวร้ายลงทุกวัน จนรัฐบาลเร่งผลักดันเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาระดับชาติและปัญหาระดับอาเซียนที่ต้องร่วมกันแก้ไข นำมาสู่การกดปุ่มตัดไฟที่ชายแดนเมียนมา หลังจากที่ผ่านมากระบวนการล่าช้าไปมาก เพราะแต่ละหน่วยงานโยนความรับผิดชอบกันไปมา

กระทั่งต้องถึงมือ นายกฯ อิ๊งค์ สั่ง นายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เรียกถกสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก่อนอนุมัติตัดไฟฟ้าได้สำเร็จ

และหลังการตัดไฟฟ้าแล้ว นายภูมิธรรม ยังได้ลงพื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ติดตามผลลัพธ์ของมาตรการตัดไฟฟ้าใน 5 จุดเพื่อแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ตรงข้ามพื้นที่อำเภอแม่สอด ภายหลังมีมาตรการตัดไฟชายแดนเมียนมาและห้ามมีการขนส่งน้ำมันข้ามแดน โดยเฉพาะเรื่องการตัดระบบอินเทอร์เน็ต ที่ฝั่งเมียนมาใช้สัญญาณจากฝั่งไทย

รวมถึงดำเนินการควบคู่ในการเจรจาพูดคุยกับ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อร่วมหารือกันแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา

ล่าสุด นายกฯ อิ๊งค์ อยู่ระหว่างการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ที่กรุงปักกิ่ง และการเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ณ นครฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 5-8 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเป็นที่น่าจับตาในการหารือกับ สี จิ้นผิงประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน

โดย ..แพทองธาร ได้หยิบยกวาระสำคัญด้านความร่วมมือปราบอาชญากรรมออนไลน์อย่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหารือกับจีนด้วย ซึ่งนายกฯ มองว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาทั้งไทยและจีนที่ต้องการความร่วมมือซึ่งกันและกัน และแก้ไขปัญหาเหล่านี้ร่วมกันกับอาเซียน และอาจจะมีการแนะนำเทคโนโลยีซึ่งกันและกัน ในการจัดการกับปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งผลการหารือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมร่วมมือไทยในการปราบภัยออนไลน์

ขณะที่ นายสี จิ้นผิง ระบุว่า จีนสนับสนุนอย่างเข้มแข็งในการปราบปรามขบวนการหลอกลวง การลักพาตัว การค้ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนผลประโยชน์ของประชาชนจีน เป้าหมายหลักของทั้ง 2 ประเทศ คือการปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาจีนได้ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและท้องถิ่นสามารถปราบปรามยาเสพติดจนประสบความสำเร็จ โดยอาชญากรรมข้ามชาติถือเป็นความท้าทาย มีความเสี่ยงสูง

นายสี จิ้นผิง ยังชื่นชมรัฐบาลไทยที่พยายามอย่างเต็มที่และเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการตัดน้ำ ไฟ อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน ที่จะสามารถตัดวงจรกิจกรรมที่เป็นอาชญากรรมต่างๆ ได้ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามจะดูแลความปลอดภัยและผลประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ด้วยการยกระดับการบังคับใช้กฎหมายทั้งในระดับทวิภาคีและอนุภูมิภาค 

จากมาตรการทำงานเชิงรุกของรัฐบาล ทั้งการตัดไฟ ห้ามการขนส่งน้ำมันข้ามแดน และตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ฝั่งเมียนมาใช้สัญญาณจากไทย รวมถึงการหารือระดับผู้นำของนายกฯ ไทยกับประธานาธิบดีของจีนเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว แต่ในทุกมาตรการยังเพิ่งเริ่มต้น

ที่สำคัญปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรข้ามชาติเติบโตได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐ เป็น ลมใต้ปีก รับส่วยสินบน และบางส่วนถึงขั้นสมคบคิดร่วมมือกัน รัฐไทยจึงเต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชัน แตกต่างกับประเทศจีน ที่ ปธน. สี จิ้นผิง ปราบปรามอย่างจริงจังจนประสบความสำเร็จ จีนเทาถึงกับหนีออกนอกประเทศ

จึงต้องรอผลลัพธ์ต่อไป ว่าเผือกร้อนในมือรัฐบาลชุดนี้จะแก้ปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน?.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ขี่กระแสชาตินิยม รวมบ้านใหญ่สู่รัฐบาล 4 ปี

“ประเทศไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเอง”, “รัฐบาลสนับสนุนการทำหน้าที่ของกองทัพอย่างเต็มที่”, “นี่เป็นเรื่องของสองประเทศ ไม่ใช่เรื่องของคนนอก” และ “การหยุดยิงจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อกัมพูชาแสดงความจริงใจ และต้องแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรม”

ศึกชิง ‘เมืองกล้วยไข่’ ‘กล้าธรรม’ ปะทะ ‘รัตนากร’

1 ในพื้นที่เป้าหมายสำคัญของ ‘พรรคกล้าธรรม’ ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรค คือ จ.กำแพงเพชร

เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล

การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า

ภูมิใจไทยพลัส-เปิดเกมใหญ่ ชูรัฐมนตรีคนนอก ลุยเลือกตั้ง

บรรยากาศการเมืองปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 เดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมเปิดรับสมัคร สส.ปลายเดือนธันวาคม ก่อนจะหย่อนบัตรในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พรรคการเมืองต่างเร่งเปิดตัวผู้สมัคร นโยบายหาเสียง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในช่วงโค้งสุดท้าย

‘บิ๊กป้อม’ ถอย ดัน ‘ตรีนุช’ เลือกตั้งสุดท้ายของ ‘พปชร.’

‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้งที่อีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดในวันที่ 27-28 ธันวาคมนี้