ชี้ชะตาสอบวินัยร้ายแรง ”บิ๊กโจ๊ก” เอี่ยวเว็บพนัน ดาบหนัก “ปลด-ไล่ออก

ทุกจังหวะก้าวย่างมีช่วงเวลาของมัน  “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. ขึ้นฟีดอีกครั้ง เมื่อคลิปประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ที่ถูกแอบถ่ายระหว่างการสนทนากับประมุของค์กรอิสระ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คนใหม่ ที่บ้านของประธานรัฐสภาย่านนทบุรี ว่อนโซเชียลกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์สังคมถึงความเหมาะสม

ถึงแม้ไม่อยู่ในเฟลม “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กลายเป็นบุคคลที่สาม นายวันมูหะมัดนอร์ ฟาดเป็นคนแอบถ่ายคลิป ทั้งที่อ้างขอเข้าพบอวยพรปีใหม่ คุยเรื่องสมาคมชาวปักษ์ใต้ แต่กลับพา “สุชาติ” มาด้วยซัด “ไร้มารยาท” ไม่วาย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยืนกระต่ายขาเดียวไม่ได้อัดคลิป เป็นถึงนายตำรวจใหญ่ทำคดีสืบสวนสอบสวนโชกโชนแต่ต้องจำนนด้วยหลักฐาน ถึงออกมายอมรับแบบข้างๆคูๆ อ้างผู้ใหญ่ขอมา พาดพิงไปถึงคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดอยู่ในวงสนทนา

ก่อนที่คลิปจะหลุดออกมา เป็นห้วงเดียวกันกับที่มีกระแสข่าว คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ที่พิจารณา “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ถูกกล่าวหาทุจริตโดยหน้าที่และเรียกรับผลประโยชน์จากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ทำท่าว่าจะหลุดหลักฐานไม่ถึงตัว จ่อเสนอกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ชี้มูล แต่ต้องสะดุดหลายเหตุผลภายใน ป.ป.ช. ประกอบกับคณะพนักงานสอบสวนคดีมินนี่ได้หอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เส้นทางการเงินของเว็บพนันออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับ”บิ๊กโจ๊ก” ซึ่งเป็นหลักฐานชุดเดิมที่เคยยื่นไปก่อนหน้านี้แต่ไม่ถูกนำขึ้นมาพิจารณา นำมามอบให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาอีกครั้ง

เช่นเดียวกันกับวันที่ 20 ก.พ.นี้ จะครบกำหนด 270 วัน ที่คณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.สุรเชษษฐ์ กับพวกรวม 5 คน พัวพันเว็บพนันออนไลน์ หลังจากก่อนหน้านั้น “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ในขณะนั้น รักษาราชการแทน ผบ.ตร. มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้นเป็นประธานคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง พร้อมด้วยกรรมการอีก 14 คน  แต่ด้วยระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน พล.ต.อ.สราวุฒิ เกษียณอายุราชการ คณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงจึงค้างเติ่ง กระทั่งมีการส่งไม้ต่อให้ “บิ๊กหวาน” พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เป็นประธานฯ สอบต่อ

ซึ่ง “บิ๊กหวาน” พล.ต.อ.ธัชชัย ออกมาระบุ หลังจากรับช่วงต่อจาก พล.ต.อ.สราวุฒิ ได้มีการเรียก ประชุมคณะกรรมการหลายครั้ง โดยเป็นการทำงานต่อเนื่องกับคณะกรรมการชุดที่แล้ว หากครบกำหนดตามกรอบเวลา 270 วัน ในวันที่ 20 ก.พ.นี้ ถ้ายังไม่ได้ข้อสรุปอาจจะเสนอ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เพื่อขยายกรอบระยะเวลาอีก 30 วัน หรือ 60 วัน แต่จะมีการประชุมนอกรอบเพื่อพิจารณาพยานหลักฐานว่าที่รวบรวมมาเพียงพอจะสรุปผลหรือไม่

ผลการพิจารณาของคณะกรรมการสอบวินัยร้ายรแงของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ พร้อมพวก 5 คน ที่ถูกกล่าวหาเอี่ยวพนันออนไลน์ สามารรถออกได้ 3 แนวทาง 1.หากไม่ผิดวินัย การทำงานของคณะกรรมการสอบฯก็จบ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ พร้อมพวกสามารถกลับเข้ารับราชการได้  2.หากผิดวินัยร้ายแรง จะถูกลงโทษอาทิ กักยาม ภาคทัณณ์ สามารถกลับเข้ารับราชการได้ 3.หากผิดวินัยร้ายแรง โทษถึงปลดออกหรือไล่ออก

ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยอำนาจการลงโทษ ประเภทความผิดวินัยร้ายแรง ประกอบด้วย ประพฤติชั่ว คือทำให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์การเป็นข้าราชการตำรวจ และประพฤติชั่วร้ายแรง คือทำให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์การเป็นข้าราชการตำรวจและต่อหน่วยงานราชการ เช่น สมคบโจร ซึ่งหากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำผิดอาญาต้องโทษตั้งแต่จำคุกขึ้นไป จะถือว่ามีความผิดปรากฏชัดแจ้ง จะทำให้ผู้นั้นถูกลงโทษวินัยทันทีตามกฎ ก.ตร. โดยไม่ต้องตั้งกรรมการวินัยสอบ

โดยวันที่ 20 ก.พ.นี้ หากคณะกรรมการฯ สรุป “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มีความผิดวินัยร้ายแรง เรื่องจะถูกเสนอ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ผบ.ตร.ให้มีคำสั่งตั้ง คณะกรรมการกลั่นกรองโทษซึ่งประกอบด้วย รอง ผบ.ตร.ทั้งหมดพิจารณาโทษว่าจะไล่ออกหรือปลดออก โดยมีกรอบระยะเวลา ในขณะที่ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ สามารถอุทธรณ์คำสั่ง ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้ หาก ก.พ.ค.ตร.ยืนตามคณะกรรมการวินัย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยังสามารถใช้สิทธิ์ฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป ซึ่งหากศาลปกครองสูงสุดยืนตาม ก.พ.ค.ตร. ก็จะทำให้คดีวินัยถึงที่สุดก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการพิจารณาถอดยศตำรวจ

“บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์  กลับมาช่วงนี้ล้วนมีที่มาที่ไป เขย่าองค์กรทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและองค์กรอิสระ ดีลที่อาจมีการพูดคุยกันสามคนระหว่าง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ นายวันมูหะมัดนอร์ และ นายสุชาติ นอกเหนือจากคลิปที่สังคมยังไม่รู้ แต่คงไม่เป็นคุณกับอดีตรอง ผบ.ตร.แน่คลิปถึงได้มีการเผยแพร่ออกมา แต่อย่างน้อยทั้ง 2 องค์กรหลังของประเทศถูกสังคมครหาด้วยความเหมาะสม เมื่อตัว พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ และนายสุชาติ เป็นคู่ขัดแย้งกันมาก่อน แต่ไฉนทั้งคู่จึงเข้าพบนายวันมูหะมัดนอร์ ซึ่งมีข้อสงสัยว่าจะเป็นการเจรจาเพื่อขอยุติที่อดีตรอง ผบ.ตร.ล่ารายชื่อประชาชนยื่นต่อประธานสภาถอดถอนนายสุชาติ ออกจากกรรมการ ป.ป.ช.

วาระนี้ “บิ๊กโจ๊ก” คงต้องร้องเพลงรอไปก่อน นับแต่จะยุ่งไปหน้า เรื่องที่ ป.ป.ช.คงต้องยื้อออกไปอีกเมื่อพนักงานสอบสวนร้องนำหลักฐานเข้าสู่การพิจารณา ขณะที่ยื่นฟ้องศาลปกครองทุเลาคำสั่ง ก.พ.ค.ตร.เห็นชอบให้ออกจากราชการไว้ก่อน ศาลยกคำร้องให้กระบวนการเดินไปตามปกติ ที่ “บิ๊กโจ๊ก”ออกมาเล่นกับประธานรัฐสภาและประธาน ป.ป.ช. ผลกับย้อนเข้าตัว ความน่าเชื่อถือในตัว”บิ๊กโจ๊ก”แทบหมดสิ้น

 ยิ่งถ้าวันที่ 20 ก.พ.นี้ คณะกรรมการสอบวินัยฯชี้ไปในทางลบจบชีวิต”แมวสิบชีวิต” แน่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

3ชนักติดหลัง'ทักษิณ' ชั้น14แพทยสภา-ป.ป.ช.ไต่สวน ขึ้นศาลคดี112ตัดสินปี69

ถึงตอนนี้ การแสดงบทบาททางการเมืองของ ทักษิณ ชินวัตร เห็นได้ชัดว่าต้องการสยายปีกไปถึงการสร้างพื้นที่การเมืองให้กับตัวเองในเวที

'นายกฯอิ๊งค์' ไล่บี้ 'ตร.-DSI' ฟันคดีตึกถล่ม ใกล้ออกหมายจับคนผิด

นายกฯ เรียก ‘ตำรวจ-ดีเอสไอ’ แจงความคืบหน้าเหตุตึก สตง.ถล่ม แย้มใกล้ออกหมายจับคนผิดแล้ว จี้หน่วยงานเร่งส่งหลักฐานให้ ตร. ขอประชาชนมั่นใจรัฐบาลไม่ปล่อยแน่นอน

ผ่ายุทธศาสตร์‘กล้าธรรมนัส’ รักษาที่มั่น-ไม่ทับที่เพื่อไทย

‘พรรคกล้าธรรม’ ภายใต้แบรนด์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรค ซึ่งมี ‘อ.แหม่ม’ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่หัวหน้าพรรค เป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่เริ่มขยับเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง แม้จะยังเหลือระยะเวลาอีกนานกว่าจะถึงปี 70 ในกรณีที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อยู่เต็มเทอม

ถอดรหัส'สามก๊ก' 'แดง-ส้ม-น้ำเงิน'

ในกระดานการเมืองไทยที่ตอนนี้กูรูการเมืองฟันธงตรงกันว่า เหลือแค่ “สามก๊ก” จากสามค่ายสี ส้ม แดง และน้ำเงิน ที่มีอุดมการณ์และแนวทางทำการเมืองที่แตกต่างกัน เพื่อเจาะฐานเสียงให้แก่ตัวเอง

บททดสอบเก้าอี้ ‘นายกฯหญิง’ 7เดือนฝ่าหลาย ‘วิกฤตประเทศ’

อีกบททดสอบผู้นำหญิงของไทย “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ที่เข้ามานำทัพบริหารประเทศกว่า 7 เดือนแล้ว ภายใต้แรงกดดันและความคาดหวังจากประชาชน

จังหวะรุก‘ภูมิใจไทย’ 17ปี‘พรรคสีน้ำเงิน’

ในเวลานี้อาจกล่าวได้ว่า “พรรคภูมิใจไทย” พลังและอำนาจทางการเมือง สามารถขึ้นมาเบียดและถ่วงดุลกับแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทยได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ