ปมประเด็นที่ “ฮุน เซน” ควันออกหูจนต้องปล่อยคลิปหลุดประจานนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ผู้ติดหนี้บุญคุณกัมพูชา เพราะบิดาและอาปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยหนีการรัฐประหารไปอยู่ที่นั่น คนที่รู้ต้นสายปลายเหตุดีที่สุดก็น่าจะเป็น “ทักษิณ ชินวัตร”
จากไทม์ไลน์และเส้นเรื่องที่เริ่มเห็นเค้าลางของการตัดสินใจปล่อยคลิปต้นเรื่อง มีแนวโน้มว่าเกิดจากการที่ไทย “ย้อนศร” แผนของกัมพูชาในการสร้างกระแสชาตินิยมด้วยสงครามเขตแดน โดยกองทัพ ปิดสวิตช์ บ่อนกาสิโนเขมร และศูนย์บัญชาการสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ในปอยเปต โดยรัฐบาลไฟเขียวให้ดำเนินการ หลังจากที่ “ตีมึน” เกียร์ว่างมาตลอด
ตั้งแต่ช่วงกวาดล้างที่ “ชเวก๊กโก่” ฝั่งตะวันตก “ทักษิณ” เคยพูดเองว่าฐานบัญชาการใหญ่คอลเซ็นเตอร์อยู่ในตึก 8 ที่ปอยเปตฝั่งตะวันออก ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงเคยรายงานเรื่องเส้นทางการนำเงินไปซื้ออาวุธของกองทัพกัมพูชา ที่มาจากท่อน้ำเลี้ยงในพื้นที่สีเทาฝั่งตรงข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และ อ.ช่องจอม จ.สุรินทร์ ไปที่รัฐบาลถึง 2 ครั้ง แต่ทุกอย่างก็ถูกแขวนไว้ ไม่ได้มีมาตรการจัดการใดๆ
ไม่ต้องไปพูดไกลถึงยุทธศาสตร์สงครามตัวแทนในพื้นที่ สแกมเมอร์ ตั้งแต่ชเวก๊กโก ที่จีนลงมาจัดการเอง หยุดการแหย่ขาของสหรัฐ แต่ฝั่งกัมพูชาที่เป็นฐานหลอกลวงคนไทยมากกว่า กลับมีมาตรการแบบ “ลูบหน้าปะจมูก” ตัดอินเทอร์เน็ตกันตามกระแสในช่วงนั้น ทั้งที่มีการรายงานสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง
สิ่งบอกเหตุที่ชัดเจนของการขยับตัวของสหรัฐ จากการที่เพจดังอย่าง CSI LA ปูดข่าวว่าสหรัฐเพิ่งประกาศแบล็กลิสต์ Huione Group บริษัทของ Hun To หลานชายฮุน เซน ฐานเป็นเครือข่ายฟอกเงินระดับโลก มูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ที่ให้บริการกับแก๊งหลอกลวงออนไลน์, เว็บพนัน และแม้แต่แฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือ
พร้อมระบุว่า แทนที่จะตั้งกรรมการสอบ ปราบโกง ฟอกประเทศ กลับเลือกปลุกกระแสชาตินิยมปลอมๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนในประเทศ เพราะเขารู้ว่าเศรษฐกิจพัง การท่องเที่ยวไม่มี ทุนจีนสีเทาคุมเมือง สิ่งเดียวที่ยัง “สร้างรายได้” คือโลกมืดของ Scammer
วันที่ 12 มิ.ย.2568 จากความตึงเครียดในการเสริมกำลังทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และจากเสียงปืนนัดแรกที่แนวต้นพญาสัตบรรณ พื้นที่ช่องบก รัฐบาลกลับมอบอำนาจให้กองทัพออกมาตรการควบคุมด่าน ตามมาด้วยปฏิบัติการสับสวิตช์ กาสิโน กระเป๋าเงินตระกูลฮุน จน "ฮุน เซน” เลือดขึ้นหน้า ตำหนิรัฐบาลคุมกองทัพไม่ได้ ทำให้ “อุ๊งอิ๊ง” ต้องบอกให้แม่ทัพภาคที่ 2 พิจารณาเปิด-ปิดด่านให้ตรงกัน
แต่ปรากฏว่ากองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 1 ได้ยกระดับมาตรการการควบคุมด่าน ห้ามคนไทยข้ามไปทำงานยังกาสิโน ให้มีความเข้มข้นอย่างยิ่งยวด
จากนั้นวันที่ 16 มิ.ย.2568 รัฐบาลออกมาเปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้ปรับระดับคำแนะนำการเดินทาง (Travel Advisory) ฉบับล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 โดยจัดประเทศไทยให้อยู่ในระดับ 1-Exercise Normal Precautions ซึ่งเป็นระดับปลอดภัยสูงสุด หมายความว่านักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาไทยได้อย่างมั่นใจเรื่องความปลอดภัย เทียบเท่าประเทศชั้นนำอย่าง ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา และสิงคโปร์
วันที่ 19 มิ.ย.2568 ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นั่งแถลงที่พรรคเพื่อไทย ร่ายยาวถึงความคืบหน้าสถิติทางอาชญากรรมออนไลน์ลดลง จากมาตรการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา
“จากที่ทุกท่านคงทราบดีแล้ว และสิ่งที่เป็นข่าวที่กัมพูชากำลังถูกจับตาในฐานะศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเบื้องหลังของวงจรต้มตุ๋นออนไลน์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่อาศัยแรงงานจากการค้ามนุษย์นี้ ปรากฏแน่ชัดว่าได้รับการเอื้อประโยชน์อย่างเป็นระบบจากโครงสร้างรัฐและชนชั้นปกครองระดับสูง” นายประเสริฐระบุ
พร้อมอ้างอิงรายงานของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ได้กล่าวอย่างละเอียดถึงกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ อาชญากรรมทางไซเบอร์ และการฉ้อโกงทางออนไลน์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงมีแผนที่ที่ระบุฐานปฏิบัติการของมิจฉาชีพหลายแห่งอย่างชัดเจนตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย โดยเฉพาะเมืองปอยเปต ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายแดนกัมพูชา เป็นพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์สำหรับเครือข่ายอาชญากร Scam Centres ที่เป็นแหล่งรายได้หลักของกัมพูชา หรือคิดเป็นร้อยละ 80% ที่เป็นรายได้หลักของประเทศกัมพูชา
วันเดียวกัน กองบัญชาการกองทัพไทยได้ส่งข่าวของ Strait Times ผ่านไลน์สื่อมวลชน ในหัวข้อ UN ว่ากัมพูชาเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความรุนแรงและขอบเขตของปัญหาที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว กลุ่มอาชญากรเหล่านี้มักใช้กัมพูชาเป็นฐานปฏิบัติการในการหลอกลวงเหยื่อจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลงทุน, การหลอกลวงความรัก, การหลอกลวงด้านการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย ไปจนถึงการบังคับใช้แรงงานคนในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า "การค้ามนุษย์เพื่อการหลอกลวงทางไซเบอร์"
ภายใต้ความกดดันที่พุ่งตรงไปที่นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ที่ถูกจับเป็นตัวประกันในสถานการณ์ สงครามตัวแทน และ สงครามสี ของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ด้วยปัจจัยที่ตัวเองไร้ซึ่งความสามารถ ขาดความน่าเชื่อถือจากสังคมอย่างถึงขีดสุด จนกลายเป็นกระแสกดดันเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี และยุบสภา
สถานการณ์ที่ตกเป็นเบี้ยล่างทางการเมือง เพราะพลาดจากการถูกอัดคลิป จึงทำให้พรรคร่วมฯ ได้เปรียบในการต่อรองเรื่องตำแหน่งมากขึ้น ดีลต่างๆ จึงต้องถึงมือ “ทักษิณ" ในการเจรจา และจัดคนใน ครม.ใหม่ ทั้งแลกเปลี่ยน ตอบแทน ให้รางวัล ต่อรองไปพร้อมๆ กัน
โฟกัสสำคัญนอกจากตำแหน่งในโควตาของภูมิใจไทยแล้ว ยังมีตำแหน่ง รมว.กลาโหม ที่มีข่าวว่าอาจจะโยก “ภูมิธรรม เวชยชัย" ไปนั่ง รมว.พาณิชย์ ทำให้เก้าอี้ รมว.กลาโหมว่างลง โดยมีชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ซึ่งเป็นโควตากลาง ขึ้นมาเป็น รมว.กลาโหมแทน
ในกรณีถ้าโควตากลางซึ่งอาจหมายถึงโควตา สทร. ถูกไปผสมรวมกับโควตาพรรคเพื่อไทย ก็มีตัวเลือกทหารคนอื่นที่เป็นสายพรรคอาจถูกส่งเข้ามานั่งตำแหน่งนี้
โดยล่าสุดมีชื่อของ พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ อดีต ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ซึ่งทำงานกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และไปปรากฏตัวเมื่อวันที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ไปปาฐกถาที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับ พล.อ.สุนัย จบ ตท.21 รุ่นเดียวกับ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีต ผบ.ทหารสูงสุด ก็มีชื่อในโผนี้เช่นกัน เคยเป็น ทส.ของ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตผู้บัญชาการทหารบก
แต่ในสถานการณ์ขณะนี้ คาดว่าปัจจัยการจัดสรรลงตำแหน่งในมือของ “ทักษิณ” โดยเฉพาะตำแหน่ง รมว.กลาโหม อาจต้องฟังหลายทาง และฟังเสียงสะท้อนจากกองทัพพอสมควร เพราะในสถานการณ์ที่รัฐบาลตกที่นั่งลำบากจากเหตุการณ์คลิปนรก กองทัพเลือกที่จะเดินตามเส้นของหลักการและกฎหมาย ไม่ได้ไหลไปตามกระแส
ชื่อของ พล.อ.ณัฐพล ยังอาจจำเป็นในขณะนี้ เพราะสามารถประสานกับกองทัพได้ ในส่วนของกองทัพบกก็มีน้องรักสายยุทธการอย่าง พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ.ทบ. และที่กองบัญชาการกองทัพไทย มี พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ รอง ผบ.สส. ที่จ่อขึ้นเป็น ผบ.สส. ที่สามารถ “สายตรง” ถึงกันได้
หากมองเลยไปที่การจัด โผทหาร ของกองทัพบก ซึ่งมี ตั๋ว เข้ามาหลายทาง เสียงของผู้นำเหล่าทัพ โดยเฉพาะ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ก็จะมีน้ำหนักในการป้องกันการ “ล้วง” จากฝ่ายการเมืองมากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ต้องมาแทน “แม่ทัพกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ ควรต้องเป็นคนที่ “ผบ.ทบ.” เป็นคนเลือก โดยไม่มีปัจจัยแทรกซ้อนเข้ามา
จึงมีข่าวว่าชื่อของ “รองเติ่ง” พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งดูสายงานยุทธการและการข่าว เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 26 ของ ผบ.ทบ.และ “แม่ทัพกุ้ง” ถูกวางตัวเข้ามารับไม้ต่อในช่วงไฟลต์บังคับที่ต้องเปลี่ยน ม้ากลางศึก ซึ่งปัจจุบัน “รองเติ่ง" เป็นกลไกสำคัญในการประสานข้อมูลชายแดนด้านที่เกิดปัญหากับแม่ทัพและกองทัพบก
โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าในส่วนกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า ที่ตั้งขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ที่แนวต้นพญาสัตบรรณ 2 วัน ประจำการที่ค่ายวีรวัฒน์โยธิน มทบ.25 จ.สุรินทร์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกำลังที่เผชิญหน้ากันอยู่ตลอดแนว และที่ผ่านมายังเดินทางไปกับ พล.อ.ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก ไปประชุมเจบีซีที่กรุงพนมเปญด้วย
สำหรับ “รองเติ่ง” จะเป็นสาย ร.16 ที่เติบโตมาทางชายแดนด้านอีสานใต้โดยตรง เช่นเดียวกับรุ่นน้องอย่าง “รองณัฏฐ์” พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ ที่เกษียณอายุราชการในปี 2570 พร้อมกัน ทำให้รู้ข้อมูลในพื้นที่ดี ส่วน “แม่ทัพกุ้ง” เติบโตมาทางอีสานเหนือ เป็นสาย พล.ร.3 ที่เพิ่งได้ขึ้นคุมกองทัพภาคที่ 2 ได้ไม่นาน เพราะ “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ อดีต ผบ.ทบ. ดัน พล.ท.สวราชย์ แสงผล เพื่อน ตท.23 ซึ่งเป็นสาย พล.ร.3 ขึ้นมาเป็นแม่ทัพในช่วงที่ตนเองเป็น ผบ.ทบ.ได้ก่อน
แต่ในการโยกย้ายปี 2566 ก็ต้องหมุนกลับไปอยู่สาย พล.ร.6 โดย พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพ 1 ปี ด้วยพลัง “บุรีรัมย์คอนเนกชัน” จากนั้น “แม่ทัพกุ้ง” ค่อยมาต่อคิวเป็นในปี 2567 ตามจังหวะของการรับราชการ ไม่ได้มีการผูกโยงกับการเมือง และกลุ่มก้อนเครือข่ายผลประโยชน์ชายแดนอีสานใต้
จากดีกรีที่เป็นลูกน้องเก่าของอดีตแม่ทัพอย่าง พล.อ.เรวัต บุญทับ กับ พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง เป็นต้น ไม่ได้เป็น “สายแข็ง” ที่เป็นเด็กของ “บิ๊กเยิ้ม" พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร หรือ “บิ๊กอี๊ด” พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร แต่เป็นเพื่อนที่ “ผบ.ปู” ไว้ใจในความตรงไปตรงมา จึงรับฟังและตอบสนองต่อข้อเสนอของแม่ทัพจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
สถานการณ์สงครามตัวแทน โดยไทยถูกดึงเข้าไปเป็นตัวเล่นด้วย รวมถึงการเมืองภายในของไทยที่กำลังอยู่ในภาวะเขย่าสมการอำนาจกันอยู่นั้น กองทัพและกลาโหมจึงเป็นสรรพกำลังที่สำคัญของรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คงต้องติดตามต่อไปว่า การต่อรองที่ออกมาจะตอบโจทย์ปัญหาจริงที่เกิดขึ้นได้แค่ไหน หรือทุกตำแหน่งยังเป็นแค่การแบ่งเก้าอี้และโควตา รมต.แบบเดิมๆ!!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.เสรี ฟาด! คนชั่วนำ คนโง่ตาม บ้านเมืองพังเพราะยังยกย่องพวกนี้
ดร.เสรี วงษ์ มณฑา จวกคนทำผิดซ้ำซากแต่ไม่เคยยอมรับ ทั้งที่ศาลชี้ผิดชัด ยังมีคนเชิดชูจนประเทศวิกฤต เตือนถ้าปล่อยให้นำต่อ “เรือหายแน่”
อายัดทรัพย์เครือข่าย 'ก๊ก อาน' 1.1 พันล้าน ออกหมายแดงล่าตัวคนสนิทฮุนเซน
ผนึกกำลังประชาคมโลกปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์ อายัดทรัพย์เครือข่าย "ก๊ก อาน" 1.1 พันล้าน เตรียมออกหมายแดงล่าตัว
ฮุนซวย! ตร.เตรียมส่งสำนวนคลิปเสียงให้อัยการสูงสุด เอาผิดคดีความมั่นคง
ตำรวจไซเบอร์สรุปสำนวนคดี “ฮุนเซน” ปมคลิปเสียงสนทนา “แพทองธาร” เตรียมส่งอัยการสูงสุด 14 ก.ค. ฐานความผิดตาม ม.116 กระทบความมั่นคง-พ.ร.บ.คอมฯ
แฉธาตุแท้ 'ทักษิณ' 8 ข้อ ล้าสมัย-ชอบโทษคนอื่น
อดีตผู้สมัคร สส.ประชาธิปัตย์ เดือดหลังฟังทักษิณพูด สรุปธาตุแท้ 8 ข้อ ล้าสมัย อวดเก่ง
อาการหนัก! เปิด 10 โรคทักษิณ นอนชั้น 14 ก็ไม่หาย
แกนนำ คปท. แขวะ “ทักษิณ” ป่วย 10 โรค ทั้งบ้าอำนาจ เพ้อเจ้อ โลกหมุนรอบตัว ลืมว่าเคยโกหก จิกแรงนอนชั้น 14
'จตุพร' จับพิรุธ 'ทักษิณ' เคลียร์ 3 ปมวันเดียวไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
“จตุพร” จับพิรุธ “ทักษิณ” ถอนกาสิโน–โชว์ซอฟพาวเวอร์–ซัดฮุนเซนแตกหัก 30 ปี วันเดียวไม่ใช่เรื่องบังเอิญ