9 ก.ย.2568 คือวันที่องค์คณะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดฟังคำสั่งการบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าเป็นไปตามคำพิพากษาหรือไม่ ในกรณีของ "ทักษิณ ชินวัตร" หรือที่เรียกกัน การไต่สวนคำร้องคดีป่วยทิพย์ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยศาลฎีกาฯ ออกหมายเรียกผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครคนปัจจุบันที่ก็คือ นายมานพ ชมชื่น และทักษิณ ชินวัตร จำเลย มาฟังคำสั่งในวันที่ 9 ก.ย.นี้ด้วย
วันที่ 9 ก.ย. ก็จะทำให้คนไทยทั้งประเทศที่มีปัญหาคาใจและตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ "กระบวนการยุติธรรม-การบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรม" ว่ามีการ "ช่วยเหลือ-เลือกปฏิบัติ" กับ "นักโทษเทวดาทักษิณ" จนทำให้ทักษิณไม่ต้องรับโทษในเรือนจำหรือในคุกแม้แต่คืนเดียว หลังเข้าไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง เมื่อ 22 ส.ค.2566 แล้วก็ถูกพาตัวส่ง รพ.ตำรวจ ชั้น 14 โดยอยู่ยาวร่วม 180 วัน จนเข้าเกณฑ์การพักโทษและออกมาจาก รพ.ตำรวจ สุดท้ายแล้ว ข้อเท็จจริง-ข้อกฎหมายในการบังคับโทษกับนายทักษิณ หลังองค์คณะฯ มีการเปิดห้องพิจารณาคดีของศาลฎีกาฯ มาร่วม 2 เดือน มีการเรียกไต่สวนพยานบุคคลมาเบิกความร่วม 30 คน เปิดห้องไต่สวนกันหลายชั่วโมง ในช่วงการไต่สวน 7 นัด ในเดือน มิ.ย.ถึงเดือน ก.ค. รวมถึงเรียกพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องจากหลายหน่วยงานส่งมาให้ศาลฎีกาฯ ที่มีหลายพันหน้า สุดท้ายทางองค์คณะฯ ทั้ง 5 คน หลังใช้เวลาในการพิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นเวลาร่วม 40 วัน นับจากไต่สวนนัดสุดท้าย 30 ก.ค.เสร็จ จะมีคำสั่งออกมาอย่างไร จะได้รู้กัน 9 ก.ย.นี้กับคดีประวัติศาสตร์ ที่ศาลฎีกาฯ ทำการไต่สวนการบังคับโทษตามคำพิพากษาของอดีตนายกรัฐมนตรี
ที่ต้องบอกว่า การที่ศาลฎีกาฯ เรียกทักษิณให้มาฟังผลการพิจารณาด้วย จากที่ศาลฎีกาฯ เปิดห้องพิจารณาคดีไต่สวนกันมา 7 นัด ไม่เคยเรียกทักษิณมาฟังหรือมาเบิกความเลย แต่กลับเรียกในวันที่ศาลนัดฟังคำสั่ง หลายกระแสเสียงมองว่า เป็นข่าวไม่สู้ดีของทักษิณ จนอาจทำให้บ้านจันทร์ส่องหล้าสะเทือน และทักษิณคงนอนเครียดไปหลายคืน ก่อนจะถึงวันที่ 9 ก.ย. หรืออาจต้องตัดสินใจอะไรบางอย่างก่อน 9 ก.ย. ถ้าไม่ยอมเสี่ยงกับอิสรภาพของตัวเองในบั้นปลายชีวิตวัย 76 ปี เพราะหลังจากการไต่สวน 6 นัดที่ผ่านมา ก่อนถึงนัดสุดท้ายเมื่อ 30 ก.ค. ซึ่ง "วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" เข้าเบิกความ ก็จะพบว่าการไต่สวน 6 นัดก่อนหน้านี้ ที่ศาลฎีกาฯ เรียกพยานบุคคลมาเบิกความ เช่น ผู้บริหาร-เจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร รวมถึงแพทย์ พยาบาลของ รพ.ราชทัณฑ์-รพ.ตำรวจ-ตัวแทนแพทยสภา ผลการเบิกความและตอบข้อซักถามที่องค์คณะฯ มีการไต่สวนสอบถามพยานบุคคล ข่าวสารที่ปรากฏออกมา "ไม่ค่อยเป็นคุณ-ไม่เป็นบวก" ในเชิงรูปคดีกับทักษิณอย่างเห็นได้ชัด
อย่างเช่นคำเบิกความในการไต่สวนเมื่อ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งศาลฎีกาฯ เรียกตัวแทนแพทยสภาที่ทำการสอบสวนและมีมติลงโทษแพทย์ 3 คนที่ส่งตัวและรักษานายทักษิณ และยังเป็นแพทย์ระดับอาจารย์หมอที่เป็นแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งมีชื่อเสียงมาไต่สวนรวม 3 ปากคือ ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา และอดีตคณบดีแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล-ศ.นพ.ไชยรัตน์ เพิ่มพิกุล ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย-ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช ประธานราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ ซึ่งปรากฏว่าคำเบิกความของแพทย์ใหญ่ทั้ง 3 คนที่องค์คณะฯ มีการให้ดูเอกสารทางการแพทย์ในการรักษานายทักษิณและขอความเห็นแพทย์ทั้ง 3 คน
สื่อรายงานว่าคำเบิกความของแพทย์ทั้ง 3 คน สรุปสาระสำคัญได้ว่า สอดรับกับที่แพทยสภาเคยแถลงตอนลงโทษแพทย์ 3 คน คือ ทักษิณ ผู้ป่วยชั้น 14 ไม่ได้ป่วยวิกฤตรุนแรง จนมีภาวะเสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิต และหากแพทย์เฉพาะทางมีการรักษาอาการอย่างใกล้ชิดติดตามตลอดก็สามารถออกจาก รพ.ตำรวจได้
อันนี้ยังไม่นับกับคำเบิกความของพยานอีกหลายคน ที่เบิกความตอบข้อซักถามระหว่างการไต่สวน ที่ดูจะไม่เป็นผลดีต่อรูปคดีชั้น 14
แล้วยิ่งศาลฎีกาฯ ออกหมายเรียกให้ทักษิณไปฟังคำสั่ง-ผลการพิจารณาการไต่สวนของศาลฎีกาฯ วันที่ 9 ก.ย.นี้ด้วย บอกเลยว่า "ทักษิณ" นับจากนี้ไปจนถึงวันที่ 9 ก.ย. มีระทึก ใจสั่น ขวัญผวาแน่
โดยเฉพาะเมื่อใกล้ถึงวันที่ 9 ก.ย. ก็เชื่อว่ากระแสข่าว-ข่าวลือทำนอง "ทักษิณอาจไม่อยู่-อาจหนี" ไปต่างประเทศ จะถูกโหมแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 9 ก.ย.
เพราะก่อนถึงวันที่ 9 ก.ย. พบว่าวันที่ 22 ส.ค. ศาลอาญาได้นัดฟังคำพิพากษาคดี 112 ที่ทักษิณโดนฟ้องเป็นจำเลย กรณีให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศพาดพิงสถาบันฯ
หากวันดังกล่าว "ทักษิณชนะคดี ศาลอาญายกฟ้อง" ก็จะทำให้ทักษิณได้รับการปลดล็อกในการเดินทางไปต่างประเทศ เพราะไม่มีสถานะเป็นจำเลยในชั้นศาลอาญา ทำให้สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้เหมือนประชาชนทั่วไป ไม่ต้องยื่นเรื่องขออนุญาตออกนอกประเทศต่อศาลอาญาเหมือนช่วงที่ผ่านมา ซึ่งก็มีหลายครั้งที่ทักษิณเคยร้องขอไปต่างประเทศ เช่น ไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่ศาลอาญาไม่อนุญาต แต่หลัง 22 ส.ค. หากทักษิณชนะคดี ก็ไม่ต้องยื่นเรื่องขอต่อศาลอาญา จะไปไหน ไปเมื่อไหร่ก็ได้ หรือต่อให้วันที่ 22 ส.ค. หากทักษิณไม่ชนะคดี คือศาลอาญาตัดสินลงโทษ แต่ให้ รอลงอาญา ตัวทักษิณก็ยังเดินทางออกนอกประเทศได้เช่นกัน จากนั้นก็ต้องรอดูว่า ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ที่เคยเป็นทีมงานหน้าห้องชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยสมัยเป็นอัยการสูงสุด ซึ่งนายไพรัชไม่ใช่อัยการสูงสุดที่ยื่นฟ้องทักษิณในคดี 112 สุดท้ายจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลอุทธรณ์หรือไม่ โดยมีกรอบเวลา 30 วัน ซึ่งก็เลยช่วง 9 ก.ย.ไปแล้วเช่นกัน
ทำให้การขยับของทักษิณหลัง 22 ส.ค. โดยเฉพาะหากพบว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศ คงถูกจับตามองและถูกวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะจากฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองทำนองว่า "ไปแล้วจะกลับมาหรือไม่ วันที่ 9 ก.ย. จะไปปรากฏตัวที่ศาลฎีกาฯหรือไม่" หรือเหตุการณ์จะซ้ำรอยเดิมที่ทักษิณเคยขอศาลฎีกาฯ ไปงานโอลิมปิกที่ประเทศจีนเมื่อปี 2551 แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย จนเวลาผ่านไป 17 ปี ถึงกลับมาเมื่อ 22 ส.ค.2566 อีกรอบหรือไม่
พบว่าก่อนหน้านี้ทักษิณได้ประกาศไว้แล้วว่า หลัง 22 ส.ค. จะเดินทางไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทันทีเพื่อไปพบเพื่อนนักธุรกิจที่ดูไบ เพื่อชวนให้มาลงทุนที่ประเทศไทย ที่ก็คาดว่าคงจะมีการนัดเจอกับยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ดูไบเช่นกัน หลังไม่ได้เจอกันมาสองปี ที่ก็แสดงให้เห็นว่า ทักษิณมั่นใจมากว่าจะชนะคดี 112 ศาลอาญาจะยกฟ้อง
แต่เมื่อวันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป เกิดสถานการณ์แทรกซ้อน ศาลฎีกาฯ เรียกให้ทักษิณมาฟังผลการไต่สวนและคำสั่งของศาลฎีกาฯ ในคดีชั้น 14 ในวันที่ 9 ก.ย. มันก็อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทักษิณอาจต้องเปลี่ยนแผนบางอย่างก็ได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569


