"ไชยา"จ่อเก้าอี้แทน"พิเชษฐ์" ซื้อใจซุ้มอีสาน“ขาดรัฐมนตรี”

เรื่องตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กลับมาวุ่นวายอีกครั้งเมื่อ “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” อดีต สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย โดนศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 ฟันให้พ้นสมาชิกภาพ สส.เชียงราย ทำให้โดนหลุดออกจากตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ไปโดยโดยปริยาย

จากกรณีใช้อำนาจรองประธานแปรญัตติโยกงบประมาณลงพื้นที่ตัวเองโดยมิชอบ ใน 3 โครงการ เข้าข่ายกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 วรรค 2 ที่ห้าม สส. สว. หรือกรรมาธิการ เสนอ แปรญัตติ หรือทำการใดๆ ที่จะมีผลให้ สส. สว. กรรมาธิการ มีส่วนในการใช้งบประมาณไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม

แถมยังโดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี กว่าจะลงสมัคร สส.ได้อีก ก็อายุ 72 ปีพอดี ถือว่าปิดประตูการเมืองไปโดยปริยาย ที่จะกลับมาโลดเล่นในวงการเมืองใหม่อีกรอบ

แต่ดูเหมือนว่าตำแหน่งนี้จะมีอาถรรพ์ เพราะตั้งแต่ปี 66 “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีต สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ก็ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจากคดียุบพรรคก้าวไกล

เรื่องจึงร้อนไปถึง “พรรคเพื่อไทย” ที่ต้องเฟ้นหารองประธานสภาฯ คนที่ 1 ใหม่ หลายสำนักจึงเต็งว่าคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้มี 2 คน คือ “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” สส.บัญชีรายชื่อ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ที่ประสบการณ์โชกโชน พ่วงตำแหน่งอดีตรองประธานสภาฯ คนที่ 2 แถมแชมป์ สส.พะเยา 5 สมัย

อีกคนคือ “หมอชลน่าน” ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย คนนี้ดีกรีก็ไม่ธรรมดา ประสบการณ์อัดแน่นทั้งงานระดับรัฐมนตรี เป็น สส.หลายสมัยเช่นเดียวกัน แถม 2 คนนี้ มีอะไรเหมือนกันหลายอย่าง ทั้งนิสัยพุ่งชน จริงจัง กล้าได้กล้าเสีย

แต่งานนี้ฉีกทุกโพล เพราะล่าสุดที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย “ธีระชัย แสนแก้ว” สส.อุดรธานี เสนอชื่อ “ไชยา พรหมา” สส.หนองบัวลำพู แข่งกับ “หมอทศพร เสรีรักษ์” สส.แพร่ ที่เสนอตัวเอง ไร้ชื่อตัวเต็งทั้ง 2

ซึ่งวิธีการโหวตคือให้ สส.ลงคะแนนในทางลับ เขียนชื่อใส่บัตรและหย่อนลงกล่อง ผลคะแนนเป็นเอกฉันท์ 80 กว่าเสียง ส่ง “ไชยา” เป็นผู้ถูกเสนอชื่อเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

ด้วยโปร์ไฟล์ของ “ไชยา” ที่เป็นถึง สส.หนองบัวลำพูหลายสมัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถมยังเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” จึงทำให้มองว่าเหมาะสมกับตำแหน่งนี้

แต่ปฏิเสธเรื่องโควตาเก้าอี้ภาคเหนือไม่ได้ เพราะ “พิเชษฐ์” ก็เป็นโควตานี้ แต่เหมือนเป็นตำแหน่งปลอบใจ สส.อีสาน ที่ก่อนหน้านี้ออกอาการน้อยใจ เพราะสัดส่วนอีสานเยอะที่สุดในพรรค แต่กลับได้รัฐมนตรีเพียงไม่กี่คน

มิหนำซ้ำ ก่อนหน้านี้ที่เลือกตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 แทน “ลูกแบด” ภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ที่ลาออกไป ชื่อของ “ไชยา” ก็ลอยมา แต่หวยไปตกที่ “ฉลาด ขามช่วง” สส.ร้อยเอ็ด ในวินาทีสุดท้าย

ทำให้ตำแหน่งประธานวิปรัฐบาลยังคงเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง เพราะดูแล้วถ้า “วิสุทธิ์” ไปนั่งตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 จริง รัฐบาลจะแย่ ไม่มีใครคุมเสียงได้ดีกว่านี้อีกแล้ว

เพราะปัญหาหลักของรัฐบาลตอนนี้คือ เสียงปริ่มน้ำ กระท่อนกระแท่น จะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ สส.ต้องแบ่งเวรกันเข้าประชุม ไม่เป็นอันทำอย่างอื่นนอกจากนั่งเฝ้าห้องประชุม ถ้าฝ่ายค้านเล่นเกมนับองค์ประชุมเมื่อไหร่ ความบรรลัยมาเยือนทันที

ความเก๋าเกมของ “วิสุทธิ์” จึงกลายเป็นไม้ตายที่พรรคเพื่อไทยต้องถือไว้ ถ้าจะให้คนอื่นขึ้นมาทำตำแหน่งนี้แทน สภาฯ มีเละ ไปคนละทิศคนละทางแน่

ประกอบกับถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ขั้นตอนการเลือกนายกฯ คนใหม่ ก็สำคัญไม่แพ้กัน ฉะนั้น เรื่องคุมเสียงในสภาฯ ถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่ต้องมีคนอย่าง “วิสุทธิ์” นั่งตำแหน่งนี้ต่อ

ส่วนความสัมพันธ์ “พรรคร่วมรัฐบาล” อย่าง “พรรคกล้าธรรม” ที่ออกตัวทุกครั้ง ร้องขอตำแหน่งรองประธานสภาฯ ดูเหมือนจะดื้อ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ถึงแม้จะยอมแพ้ ไม่ส่งคนแข่ง แต่สร้างรอยร้าวเล็กๆ ไว้รอเวลาแตก

ถึงขนาดคุยกับ “พรรคกล้าธรรม” ได้ พรรคอื่นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 จาก “เพื่อไทย” ก็คงลอยลำ

ต้องรอดูว่า ในวันที่ 7 ส.ค. ที่มีการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 “พรรคเพื่อไทย” จะสมหวังดั่งใจหรือไม่ หรือจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ต้องรอชม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง

ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ

ท็อปไฟว์5ข่าวดังการเมืองไทย68 ยุบสภาฯไคลแมกซ์ปิดท้ายปี

นับถอยหลังเหลือเวลาอีกแค่สัปดาห์เศษก็จะสิ้นปี 2568 เข้าสู่ปีใหม่ 2569 ที่เป็นปีมะเมีย ซึ่งตำราโหราศาสตร์บางสำนักบอกว่า จะเป็นปีม้าธาตุไฟ โดยการเมืองไทยปี 2569 เรื่องสำคัญที่สุดก็คือ การเลือกตั้ง สส.ในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ที่จะนำมาสู่การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง

หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี

แนวรบสุดท้ายสู้สแกมเมอร์ ปัจจัยที่ต้องปิดจ๊อบชายแดน

แม้สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดน "ไทย-กัมพูชา" ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ฝ่ายไทยจะสามารถยึดเป้าหมายในหลายพื้นที่ และ มีแนวโน้มที่ดีใน 13 แนวรบ แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่า "กัมพูชา"

ได้ทุกขั้ว-เสบียงกรัง-อำนาจ เมินกระแส สส.แห่ซบ‘กล้าธรรม’

นอกจาก ‘พรรคภูมิใจไทย’ ที่มี ‘แม่เหล็ก’ ดึงดูดอดีต สส.และนักการเมือง ในการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ‘พรรคกล้าธรรม’ อาณาจักรของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่ปรึกษาพรรค เป็นอีกค่ายหนึ่งที่มีผู้คนพาเหรดเข้ามาเป็นองคาพยพ

โจทย์หิน3แคนดิเดตนายกฯพท. ลูกเจ๊แดงโปรไฟล์ดีแต่มีข้อกังขา!

หลังพรรคเพื่อไทยเปิดตัว ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ลูกชายเจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ ชินวัตร และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หมายเลข 1 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา