เริ่มไต่สวนแล้ววันนี้ 21 สิงหาคม เวลา 10.30 น. ในคดีคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่นายกฯ อิ๊งค์ถูกกล่าวหาว่า “ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตและฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง” หรือไม่ ตามที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยื่นคำร้องผ่านประธานวุฒิสภาเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งการพิจาณาคดี กำหนดนัดไต่สวนพยานบุคคลจำนวน 2 ปาก คือ ผู้ถูกร้อง ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่ง นายฉัตรชัย ยืนยันเดินทางมาตามนัดไต่สวนดังกล่าว
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ยังไม่ได้ยืนยันจากปากว่ามาตามนัดไต่สวนหรือไม่ แต่คนใกล้ชิดยืนยันว่าเจ้าตัวมาเอง และ น.ส.แพทองธาร ได้ซุ่มเตรียมความพร้อม เตรียมตัวเก็งข้อสอบเป็นอย่างดีเพื่อชี้แจงต่อศาลแล้ว
ทั้งนี้ ทุกคนต่างจับตาความเคลื่อนไหวของ นายกฯ อิ๊งค์ ในการขึ้นศาลไต่สวนครั้งแรกในตำแหน่งนายกฯ คนที่ 31 ซึ่งการขึ้นศาลครั้งนี้ได้มีการวิเคราะห์กันหลากหลายแง่มุม มีการชั่งน้ำหนักถึงผลดีและผลเสียที่ผู้ถูกร้องมาชี้แจงศาลด้วยตัวเองกลับไม่มาแจงศาลเอง ซึ่งมองกันว่าหากนายกฯ อิ๊งค์มาแจงเองจะเป็นประโยชน์ ได้มีโอกาสชี้แจงและแก้ต่างในทุกคำถามด้วยตัวเองตามที่ศาลไต่สวน และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
แต่ก็มีการมองอีกมุมด้วยความกังวลว่า หาก นายกฯ อิ๊งค์ ขึ้นศาลตอบเองแล้วเกิดเก็งข้อสอบไม่ดี ตอบคำถามไม่ได้ หรือหลุดคำที่อาจเป็นผลลบจนเกิดข้อผิดพลาดก็อาจส่งผลต่อคดีได้
ส่วนด้านผลเสีย เกิดขึ้นแน่นอนหากเลือกไม่มาตามนัด ศาลจะถือว่าไม่ติดใจ ก็จะตัดสินและยึดตามที่ศาลพิจารณา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในภาพรวม การเดินทางไปแจงศาลไต่สวนด้วยตัวเองของ นายกฯ อิ๊งค์ น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า สอดคล้องกับการวิเคราะห์ที่น่าสนใจของ “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ที่ระบุช่วงหนึ่งว่า
“เวทีนี้ไม่มีไอแพด การไต่สวนคุณแพทองธารโดยศาลรัฐธรรมนูญที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 21 สิงหาคม 2568 นี้ หากมีการไปขึ้นศาล จะเป็นการพิสูจน์ความสามารถของตัวคุณแพทองธาร ว่าเป็นทองหรือเป็นธาร ในห้องไต่สวน ตุลาการศาล 9 ท่านนั่งบนบัลลังก์ ผู้ถูกไต่สวนยืนในคอก สาบานตนต่อพระแก้วมรกตว่าหากพูดความจริง ชีวิตจะเจริญรุ่งเรือง หากกล่าวเท็จ ความพินาศวายวอดจะเกิดแก่ตัวเองและครอบครัว
ตุลาการ 9 ท่าน มีภูมิหลังแตกต่างกัน บางท่านเป็นอดีตผู้พิพากษา บางท่านเป็นอดีตข้าราชการระดับสูง บางท่านเคยเป็นทูต บางท่านเป็นอดีตอาจารย์ คำถามการไต่สวนจึงพรั่งพรูจากทุกทิศทาง ยากต่อการเก็งข้อสอบ ยากต่อการมีข้อสอบรั่ว
การไม่ไปชี้แจงของนายกฯ แพทองธารนั้นเป็นสิทธิของผู้ถูกร้อง แต่การไปชี้แจงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถูกร้องยิ่งกว่า ยกเว้นว่าทุกครั้งที่ท่านเข้าสอบจะมีตัวช่วย แต่คราวนี้ไม่มีทั้งผู้ช่วย ไม่มีทั้งไอแพด ต้องใช้สมองและความจริงใจล้วนๆ”
อย่างไรก็ตาม ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ยังคงเก็บตัวเงียบต่อเนื่อง เจอหน้านักข่าวล่าสุดในการเดินทางไปให้กำลังใจ สส.พรรคเพื่อไทย ในการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 และวาระ 3 เมื่อวันที่ 13-15 สิงหาคมที่ผ่านมา
แต่เจ้าตัวงดจ้อสื่อมวลชนเช่นเดิม โดยไม่ให้สัมภาษณ์มาแล้วรวมกว่า 3 สัปดาห์ ครั้งสุดท้ายที่ให้สัมภาษณ์คือวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ชี้แจงกรณีที่โดนเล่นงานคดีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ที่กระทรวงวัฒนธรรม และหลังจากนั้นจนถึงปัจจุบัน น.ส.แพทองธาร ไม่เปิดปากให้สัมภาษณ์ในทุกประเด็นอีกเลย มีเพียงแค่ส่งยิ้มหรือพยักหน้ารับ หลังฟังคำถามของสื่อมวลชนเท่านั้น
รวมถึงไม่รับงานปาฐกถา การเปิดงานต่างๆ ในห้วงเวลานี้ แม้แต่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำสัปดาห์ น.ส.แพทองธาร ได้ยื่นใบลาประชุม 2 ครั้งต่อเนื่อง โดยแจ้งว่าลากิจ รวมถึงการประชุมพรรคเพื่อไทย “หัวหน้าอิ๊งค์” ก็ไม่ได้เข้าร่วม ทำเอาบรรดา สส.และแฟนคลับที่หอบเค้กและดอกไม้มาเบิร์ธเดย์วันเกิด 21 สิงหาคม กันล่วงหน้าต้องรอเก้อ
แต่กลับปรากฏภาพ “พ่อแม้ว” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาที่พรรคเพื่อไทยแทน
ส่วนภารกิจวันที่ 20 สิงหาคม ก่อนวันขึ้นศาลไต่สวน ช่วงเช้า น.ส.แพทองธาร มีภารกิจส่วนตัว และช่วงบ่ายเดิมทีจะเข้ากระทรวงวัฒนธรรม แต่สุดท้ายได้ยกเลิกภารกิจ ไม่ปรากฏตัวตลอดทั้งวัน แต่อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ น.ส.แพทองธารยังมีกำลังใจดีและสัญญาณทุกอย่างยังดีอยู่
และในวันนี้ที่มีการไต่สวน ซึ่งประจวบตรงกับวันเกิดของนายกฯ พอดี ต้องจับตาภาพประวัติศาสตร์การขึ้นศาลของ “แพทองธาร” นายกฯ คนที่ 31 ของประเทศไทย จะเก็งข้อสอบแจงศาลได้ผ่านฉลุยหรือไม่ เพราะนั่นจะส่งผลถึงบทสรุปของคดีที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 นี้ ที่ศาลนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติเวลา 09.30 น. และฟังคำวินิจฉัยในเวลา 15.00 น. ซึ่งจะรอดหรือไม่ การแจงศาลของผู้ถูกร้องวันนี้ ถือเป็นอีกส่วนสำคัญของคดี!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง
‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน
รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม
วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก


