ทักษิณนับหนึ่งใหม่ เกมกฎหมายชี้ชะตาอิสรภาพ

ในที่สุดคนไทยก็จะได้เห็นวันที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีใส่เครื่องแบบนักโทษอย่างเป็นทางการ หลังจากเมื่อ วันที่ 9 ก.ย. 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาสะเทือนวงการ สั่งให้นายทักษิณต้องกลับเข้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อรับโทษจำคุก 1 ปีเต็ม หลังศาลชี้ว่าการที่เขาพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก “ไม่ป่วยฉุกเฉิน” และกระบวนการส่งตัวไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 คำสั่งนี้ทำให้โทษจำคุก 1 ปี ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษจากโทษรวม 8 ปี และทำให้ทักษิณจะต้อง นับหนึ่งใหม่

สำหรับทักษิณ การกลับเข้าคุกครั้งนี้ไม่ใช่แค่การรับโทษ แต่เป็นเหมือน “เกมกฎหมาย” ที่เขาจะต้องใช้ทุกช่องทางเพื่อออกจากคุกให้เร็วที่สุด มาเจาะลึกกันว่านายทักษิณสามารถใช้ สิทธิประโยชน์จากกรมราชทัณฑ์ ตามกฎหมายได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้ออกจากเรือนจำก่อนครบกำหนด 1 ปี 

ทักษิณ เป็น “นักโทษเด็ดขาด” ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 หมายถึงผู้ที่ถูกพิพากษาคดีถึงที่สุดและต้องรับโทษจำคุก (ในที่นี้ 1 ปี) สิ่งแรกที่กำหนดโอกาสออกจากคุกคือ “ชั้นประพฤติ” ซึ่งแบ่งนักโทษออกเป็น 6 ชั้น ตามมาตรา 52 (5) ตั้งแต่ชั้น 1 (ประพฤติแย่ ทำผิดวินัย) ไปจนถึงชั้น 6 (ประพฤติดีเยี่ยม) การเลื่อนชั้นเกิดทุก 2-3 ครั้งต่อปี หากนักโทษไม่ทำผิดวินัย เช่น ไม่ทะเลาะ ไม่หนี ไม่ครอบครองสิ่งต้องห้าม และสะสมคะแนนจากพฤติกรรม เช่น ทำงานในเรือนจำ ฝึกอาชีพ หรือช่วยเหลือผู้อื่น

ทักษิณเริ่มต้นชั้นไหน โดยนักโทษใหม่ทั่วไปเริ่มที่ชั้น 3 (ประพฤติปานกลาง) แต่ด้วยโปรไฟล์ของทักษิณ ซึ่งไม่มีประวัติทำผิดวินัยรุนแรงในเรือนจำมาก่อน (และเคยได้รับพระราชทานอภัยโทษ) มีโอกาสที่เจ้าพนักงานเรือนจำจะประเมินให้เริ่มที่ชั้น 4 (ประพฤติดี) หากเขาแสดงพฤติกรรมดีตั้งแต่ต้น การอยู่ในชั้นสูง (4-6) เป็นกุญแจสำคัญ เพราะมีผลต่อการลดโทษและพักโทษ ซึ่งเป็น 2 ช่องทางหลักในการออกจากคุกเร็ว ซึ่งทำไมชั้นประพฤติจึงสำคัญ เพราะมันกำหนดจำนวนวันที่ลดโทษได้ และเป็นเงื่อนไขสำหรับการพักโทษ ถ้าทักษิณเลื่อนสู่ชั้น 5-6 อย่างรวดเร็ว เขาจะมีโอกาสลดวันโทษสะสมหรือยื่นขอพักโทษได้เร็ว

หนึ่งในช่องทางสำคัญที่นายทักษิณสามารถใช้ได้คือ “การลดวันต้องโทษ” ตามมาตรา 52 (6) ของ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ และกฎกระทรวงกำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด พ.ศ.2560 สิทธินี้ให้โอกาสนักโทษที่ประพฤติดีได้รับการลดวันต้องโทษทุกเดือน โดยคำนวณจากชั้นประพฤติและผลงาน เช่น การทำงานในเรือนจำ (เช่น ทำความสะอาด ช่วยครัว) ฝึกอบรม หรือทำงานสาธารณะนอกเรือนจำ (ถ้าได้รับอนุญาต) คณะกรรมการเรือนจำ (นำโดยผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ) จะประเมินและเสนอให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์อนุมัติ

สำหรับอัตราการลดโทษต่อเดือน ประกอบด้วยชั้น 6 (เยี่ยม) ลด 5 วัน ชั้น 5 (ดีมาก) ลด 4 วัน ชั้น 4 (ดี) ลด 3 วัน ชั้น 3 (ปานกลาง) ลด 2 วัน ชั้น 1-2 (แย่) ไม่ลด หรือลดน้อยมาก

ส่วนการพักโทษ ตามมาตรา 52 (7) เป็นช่องทางที่ทักษิณมีโอกาสสูงมาก เพราะเกี่ยวข้องกับอายุและสุขภาพของเขา การพักโทษคือการปล่อยตัวชั่วคราวก่อนครบโทษ โดยต้องอยู่ภายใต้การคุมประพฤติ เช่น รายงานตัวที่สถานีตำรวจหรือสำนักงานคุมประพฤติทุกเดือน คณะอนุกรรมการพักการลงโทษ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน) จะพิจารณาเป็นรายกรณี

รับโทษ 1/3: ต้องรับโทษอย่างน้อย 1 ใน 3 ของ 1 ปี (คือ 4 เดือน) หรือจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งต้องดูว่าข้อไหนมีเวลาในการต้องโทษมากกว่ากัน ในเคสของทักษิณข้อ 2 (6 เดือน) จะมีจำนวนมากกว่า และต้องอยู่ในชั้น 4 ขึ้นไป (ประพฤติดี) โดยกรณีผู้สูงอายุ หรือป่วย "ทักษิณ" อายุ 76 ปี (เกิด 26 ก.ค.2492)  

และต้องอยู่ในชั้น 4 ขึ้นไป (ประพฤติดี) โดยกรณีผู้สูงอายุ หรือป่วย ทักษิณ อายุ 76 ปี (เกิด 24 ก.ค.2492) เกินเกณฑ์ 70 ปี ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการพักโทษ พ.ศ.2560 หากมีโรคเรื้อรัง (เช่น โรคหัวใจหรือกระเพาะที่เคยอ้าง) และแพทย์เรือนจำรับรองว่า “การรักษาในคุกเสี่ยงต่อชีวิต” เขาจะยื่นขอพักโทษได้ โดยมีข้อแม้ว่าไม่มีประวัติร้ายแรง คดีทุจริตของทักษิณไม่ใช่คดีรุนแรง (เช่น ฆาตกรรม ค้ายา) จึงเข้าเกณฑ์ ส่วนที่อยู่และผู้อุปการะ ครอบครัวชินวัตรมีบ้านพักในกรุงเทพฯ และฐานะมั่นคง ตรงตามเงื่อนไข

โดยขั้นตอนการยื่นในขั้นนี้ ประกอบด้วย 1.ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เสนอรายงานพฤติกรรมและสุขภาพ 2.อธิบดีกรมราชทัณฑ์ส่งต่อคณะอนุกรรมการพักโทษ 3.รัฐมนตรียุติธรรมอนุมัติ ถ้าผ่าน ทักษิณจะออกจากคุก แต่ต้องสวมกำไล EM (ถ้าคณะกรรมการกำหนด) รายงานตัวทุกเดือน และอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด (เช่น กรุงเทพฯ) หากทำผิด เช่น หนีหรือก่อคดีใหม่ จะถูกเรียกกลับคุกทันที ดังนั้นโอกาสของทักษิณในขั้นตอนนี้จะสูงมาก เพราะอายุเกิน 70 ปี และมีประวัติสุขภาพที่อาจใช้เป็นเหตุผล (แต่ต้องมีหลักฐานแพทย์ชัดเจน ไม่ซ้ำกรณีชั้น 14 ที่ศาลว่า “ไม่ฉุกเฉิน”)

ในส่วนของระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 (กฎหมายคุมขังนอกเรือนจำ) แม้จะมีประกาศแล้ว แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถปฏิบัติได้จริง เนื่องจากจะต้องมีการสำรวจกลุ่มผู้ต้องขังภายในเรือนจำทัณฑสถานแต่ละแห่งทั่วประเทศ เพื่อคัดกรองผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติตรงตามเนื้อหาภายในระเบียบที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการเริ่มนำร่องกับผู้ต้องขังเรือนจำใด เนื่องด้วยติดเงื่อนไขว่าราชทัณฑ์ต้องมีกำไล EM ซึ่งทราบว่าอยู่ระหว่างการจัดซื้อ อย่างไรก็ดี ระเบียบดังกล่าว ผบ.เรือนจำทั่วประเทศจะต้องมีการทำความเข้าใจเนื้อหารอไว้อยู่แล้ว และต้องพร้อมที่จะดำเนินการ เพราะถือเป็นส่วนของนโยบายของกรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องราชทัณฑ์ที่เข้าเกณฑ์

ทั้งนี้ ทางเรือนจำได้มีการกวาดดูรายชื่อและคัดกรองคุณสมบัติของผู้ต้องขังเตรียมรอไว้ แต่อย่างไรแล้วต้องดูละเอียดอย่างมาก ทั้งสถานที่คุมขังที่ผู้ต้องขังจะไปอยู่เป็นอย่างไรบ้าง สภาพแวดล้อมโดยรวม เจ้าของสถานที่คุมขังเป็นใคร มีเสถียรภาพดูแลหรือไม่ ซึ่งแต่ละคนมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ หากระดับเรือนจำหรือทัณฑสถานมีการคัดกรองรายชื่อคุณสมบัติผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์ระเบียบคุมขังในเรือนจำแล้วก็จะต้องส่งให้ระดับกรมราชทัณฑ์พิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง โดยในขณะนี้ยังไม่มีเรือนจำใดเสนอมาให้กรมราชทัณฑ์ได้พิจารณา 

ดังนั้นโอกาสที่ ทักษิณ จะใช้ในการออกจากเรือนจำอย่างเร็วที่สุด ในขณะนี้คือการ “พักโทษ” เพราะการจะใช้กฎหมายคุมขังนอกเรือนจำยังไม่ชัดเจนในขณะนี้ รวมถึงได้มีการเปลี่ยนรัฐบาลไปเป็นอีกขั้วหนึ่งของพรรคเพื่อไทย จึงเป็นโอกาสยากที่ทักษิณจะกลับไปต้องโทษที่อื่นที่ไม่ใช่เรือนจำ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม

"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์

เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'

จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569