
เริ่มมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นสำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา ที่ห่างหายมาอย่างยาวนานจากวงการหย่อนบัตร
โดยครั้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง 2 รูปแบบนี้ เริ่มจากเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ครั้งล่าสุดคือ 3 มี.ค.2556 ส่วนเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาย้อนกลับไปเมื่อ 17 มิ.ย.2555
จะเห็นได้ว่าการเลือกตั้งทั้ง 2 แห่งล้วนเกิดก่อนที่จะเกิดการรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังจากนั้นได้มีการเว้นว่างจากการเลือกตั้ง แต่ตัวผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ และนายกเมืองพัทยายังสับเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ อันเนื่องมาจากการแต่งตั้งจาก คสช.
ความเป็นไปได้ที่คนกรุงและคนพัทยาจะได้ออกมาใช้สิทธิ์ในเร็ววันนี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้นัดหารือกับกระทรวงมหาดไทยเมื่อ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ถึงความพร้อมการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและนายกเมืองพัทยา
หลังจากหารือกันเสร็จสิ้นจะมีการเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 23 ก.พ. และเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ จากนั้น กกต.จะประชุมเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และนายกเมืองพัทยาต่อไป
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 กำหนดให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน ซึ่งหลังรัฐบาลแสดงท่าทีชัดเจนว่าจะให้มีการเลือกตั้งกรุงเทพฯ และเมืองพัทยาในช่วงเดือน พ.ค.2565 ระดับคณะทำงาน 2 หน่วยงานได้มีการหารือกันก่อนหน้านี้ และมีการจัดทำแผนการทำงาน โดยคาดว่าวันที่ 8 มี.ค. กระทรวงมหาดไทยจะนำเรื่องเสนอต่อ ครม.เพื่อเห็นชอบให้มีการเลือกตั้งทั้ง 2 รูปแบบ
ต่อมาช่วงวันที่ 9-11 มี.ค. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งมติคณะรัฐมนตรีให้ กกต.ทราบ และช่วงวันที่ 21-31 มี.ค. กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้ง กทม.และเมืองพัทยา โดยภายใน 5 วันหลังจาก กกต.ประกาศก็จะเริ่มรับสมัคร
ส่วนวันเลือกตั้ง ได้มีการยืนยันจากนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าการเลือกตั้งทั้ง 2 แห่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงเดือน พ.ค. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนจะเป็นวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. หรือวันอาทิตย์ที่ 29 พ.ค. ขอให้รอดูเมื่อกระทรวงมหาดไทยเสนอเข้าที่ประชุม ครม.เพื่อดูวันและเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง
ปัจจุบันสำนักงาน กกต.ประจำกรุงเทพมหานคร และสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดชลบุรีอยู่ระหว่างการรวบรวมความคิดเห็นต่อการแบ่งเขตเลือกตั้ง ก่อนที่จะเสนอ กกต.วินิจฉัยและออกประกาศเพื่อให้มีผลใช้บังคับ
ซึ่งเชื่อว่าจะทันกับการจัดการเลือกตั้งที่มีขึ้น โดยในส่วนของกรุงเทพฯ จะใช้เขตกรุงเทพฯ เป็นเขตเลือกตั้ง มีผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ 1 คน ส่วนสมาชิกสภากรุงเทพฯ ใช้เกณฑ์พิจารณาตามจำนวนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค.2564
และตามกฎหมาย ตลอดจนระเบียบที่เกี่ยวข้องเห็นว่าไม่มีเขตปกครองใดในจำนวน 50 แห่ง ที่มีจำนวนราษฎรอยู่ที่จะต้องแบ่งเขตเลือกตั้ง ดังนั้นจึงมี 50 คนตามจำนวนเขตปกครองทั้ง 50 เขตที่เป็นเขตเลือกตั้ง
ขณะที่เมืองพัทยา ทางสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดชลบุรีมีการเสนอรูปแบบการแบ่งเขต 3 รูปแบบ ซึ่งทุกรูปแบบจะมีเขตการเลือกตั้งจำนวน 4 แห่ง จำนวนสมาชิกเขตเลือกตั้งละ 6 คน ให้ กกต.พิจารณา โดยจะมีการเลือกนายกเมืองพัทยา 1คน และสมาชิกสภาเมืองพัทยารวม 24 คน
มาดูทางฝั่งการเมืองถือว่าโหมโรงมานานพอสมควร โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือแม้จะเป็น วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่แม้จะเปิดตัวไม่นาน แต่ก็มีความต้องการที่ให้การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด กลับกันทางซีกรัฐบาลก่อนหน้านี้ก็ยื้อมาอย่างยาวนาน
โดยมีกระแสว่ายังเลือกผู้สมัครไม่ลงตัวว่าจะส่งใครลงชิงชัย เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าเป็นการลองเสียงอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งซ่อมพังยับเยิน อย่างไรก็ตาม การส่งสัญญาณความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นเพราะรัฐบาลพร้อมส่งผู้สมัครที่ตอบโจทย์คนเมืองแล้ว
ดังนั้นการเลือกตั้งมีกระแสชัดเจนแล้วว่าเกิดในช่วงเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในอนาคต เชื่อว่าคนกรุงและคนพัทยาไม่น้อย กำลังตั้งตารอคอยที่จะได้ออกไปใช้สิทธิ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในพื้นที่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน
รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม
วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก
ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต
ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)


