ทางหลวงชนบทผุดทางเชื่อมเมืองสุรินทร์ลัดไปสนามบินบุรีรัมย์

‘กรมทางหลวงชนบท’ ทุ่ม 149 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาสายทางในโครงข่ายเพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมให้สมบูรณ์เตรียมเข้าพื้นที่ก่อสร้างถนนเชื่อมเมืองสุรินทร์ คาดแล้วเสร็จปี 67 รองรับการขนส่งและการเดินทางจากการขยายตัวของเมืองในอนาคต

2 เม.ย.2565-นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท(ทช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯอยู่ระหว่างพัฒนาเส้นทางในโครงข่ายสนับสนุนการคมนาคมภายในจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดใกล้เคียงให้มีความต่อเนื่อง พร้อมรองรับปริมาณการขนส่งและการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต เตรียมเข้าพื้นที่ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2378 – เมืองสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ รวมระยะทาง 17.954 กิโลเมตร(กม.) โดยใช้งบประมาณค่าก่อสร้างจำนวน 149.445 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จต้นปี 2567
สำหรับจังหวัดสุรินทร์มีการพัฒนาและขยายตัวของชุมชนเมืองอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นเมืองหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับภาคการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นการปลูกข้าวหอมมะลิ การเพาะปลูกพืชไร่ชนิดต่าง ๆ เช่น มันสำปะหลัง อ้อย และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมไปถึงการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การขนส่งสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรไปจำหน่ายในตัวอำเภอเมืองหรือจังหวัดใกล้เคียง จึงต้องอาศัยเส้นทางเข้าสู่ตัวเมืองสุรินทร์เป็นหลัก

อย่างไรก็ตามดังนั้น เพื่อเป็นการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมให้สอดคล้องกับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นทั้งช่วงเวลาปกติและช่วงเทศกาล ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมระหว่างจังหวัดสู่ภูมิภาคให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทช.จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2378 – เมืองสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ช่วง

โดยเริ่มต้นโครงการช่วงที่ 1 บนทางหลวงชนบทสาย สร.4026 ตั้งแต่ กม.ที่ 8+000 บริเวณข้างโรงเรียนเพี้ยราม ตำบลเพี้ยราม วางแนวตามเส้นทางเดิมไปจนถึง กม.ที่ 22+697 และเริ่มต้นช่วงที่ 2 บริเวณวัดป่านิมิตมงคล ตำบลท่าสว่าง กม.ที่ 28+473 ไปสิ้นสุดโครงการที่ถนนทุ่งโพธิ์ ช่วง กม.ที่ 31+730 ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ รวมระยะทาง 17.954 กิโลเมตร

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะดำเนินการยกระดับชั้นทางและขยายความกว้างของถนน จากเดิมผิวจราจรกว้าง 6 เมตร ไหล่ทางข้างละ 1 เมตร ขยายเป็นผิวจราจรกว้าง 7 เมตร ไหล่ทางข้างละ 2.5 เมตร พร้อมเสริมผิวจราจรแบบแอสฟัลท์ติกคอนกรีตบริเวณแนวเส้นทางที่ตัดผ่านหมู่บ้าน และขยายความกว้างของสะพาน จำนวน 5 แห่ง ก่อสร้างระบบระบายน้ำ ติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยตลอดทั้งสายทาง

อย่างไรก็ตามปัจจุบัน โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างเตรียมเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการก่อสร้าง เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางให้ประชาชนสามารถเดินทางจากชุมชนและตำบลต่าง ๆ เข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ลดต้นทุนด้านการขนส่งสินค้าและผลผลิตทางการเกษตร และสนับสนุนการท่องเที่ยวสู่หมู่บ้านทอผ้าไหมบ้านท่าสว่าง อีกทั้งยังเป็นเส้นทางลัดที่สามารถเดินทางต่อไปยังอำเภอสตึก ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานบุรีรัมย์อีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชาวภูเก็ตเดือดร้อน เอกชนปิดทางลงหาดแหลมหงา รวมตัวทวงคืนพื้นที่สาธารณะ

ชาวภูเก็ตและชาวบ้านตำบลรัษฎา รวมตัวกัน กว่า 300 คน บริเวณประตูทางเข้าของเอกชนที่ปิดกั้นถนนหลวง ของ บริษัท แหลมหงา ดิเวลล็อบเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นถนนที่กรมทางหลวงชนบทได้เป็นผู้สร้างเอาไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537

ชาวมหาสารคาม-ร้อยเอ็ด เฮ! ทช.เปิดใช้ 2 ถนน บรรเทาจราจรติดขัด - สัญจรสะดวกปลอดภัย

กรมทางหลวงชนบท เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมให้สมบูรณ์อย่างยั่งยืน เปิดใช้ถนนตักสิลาวิถี และถนนจำปาบุรี ผังเมืองรวมเมืองมหาสารคาม บรรเทาการจราจรติดขัด ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัย

ทช.นำร่องถนนราชพฤกษ์ ประเดิมใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม.ต่อชม.

“กรมทางหลวงชนบท” ประเดิมใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม.ต่อชม. ถนนราชพฤกษ์ 7.250 กม. เร่งติตตั้งแบริเออร์คอนกรีต 2 สายทาง “ราชพฤกษ์-นครอินทร์” ให้แล้วเสร็จ เพิ่มระยะทางให้ใช้ได้ครบ 30 กม. เดือน ม.ค.66 เพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัย

งดงาม! ไฟประดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 28 ก.ค. เปิดให้ชมถึงเที่ยงคืน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพและข้อความบนทวิตเตอร์ ttraisuree ระบุว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 70 พรรษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 กรมทางหลวงชนบทร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเฉลิมพระเกียรติ