เอาแน่ 'คมนาคม' ปักธงสร้างส่วนต่อขยายด้านตะวันออกสนามบินสุวรรณภูมิ

‘อนุทิน-ศักดิ์สยาม’นั่งหัวโต๊ะถกแนวทางเพิ่มขีดความสามารถเทอร์มินัลสุวรรณภูมิลุยจ้าง ICAO ศึกษาฯ พร้อมเร่งปรับแบบส่วนต่อขยายด้านตะวันออก คาดแบบแล้วเสร็จภายใน ธ.ค. 65 ก่อนชงบอร์ด ทอท.-ครม. คาดเริ่มสร้างปี 66 เสร็จ ธ.ค. 68 รับผู้โดยสาร 65 ล้านคน

7 ก.ค.2565 – นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ครั้งที่ 2/2565 (ครั้งที่ 4) ว่า สืบเนื่องมาจากนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม เพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งได้มีการประชุมมาแล้ว 3 ครั้ง

ทั้งนี้ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2565 (ครั้งที่ 3) ได้มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการฯ ไว้แล้ว

ขณะเดียวกัน เร่งรัดศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้มีข้อมูลมาประกอบการพิจารณาร่วมกับผลการศึกษาของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ซึ่งศึกษาแล้วเสร็จ เมื่อ ส.ค. 2564

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า การประชุมในวันนี้ ได้มีการติดตามผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2565 ซึ่งได้มอบหมายให้คณะกรรมการฯ พิจารณาข้อร้องเรียนของเอกชนคู่สัญญาโครงการสนามบินอู่ตะเภาฯ โดยตรวจสอบผลกระทบจากทั้ง 2 สนามบิน คือ ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ต่อสนามบินอู่ตะเภาด้วย

​​ทั้งนี้ ในส่วนของความก้าวหน้าการดำเนินงานจ้าง ICAO เพื่อศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานเพื่อจ้าง ICAO ซึ่งขณะนี้ ทอท. อยู่ระหว่างหารือร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาร่างข้อตกลง (Agreement)

อย่างไรก็ตามโดยการหารือนั้น เพื่อพิจารณาร่างข้อตกลงสำหรับการจ้าง ICAO ศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้ได้ข้อสรุปแนวทางการดำเนินงานตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก่อนลงนามในสัญญาจ้าง โดยคาดว่าสำนักงานอัยการสูงสุด จะพิจารณาร่างข้อตกลงแล้วเสร็จภายใน ส.ค. 2565

​สำหรับความก้าวหน้าการดำเนินงานเพื่อก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก ที่ประชุมรับทราบแนวทางการปรับแบบอาคารผู้โดยสารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก เพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางการบินในปัจจุบัน โดยใช้ระยะเวลา 7 เดือน แล้วเสร็จประมาณ ธ.ค. 2565 และจะนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ก่อนนำเสนอ ครม. พิจารณาเห็นชอบตามขั้นตอนต่อไป
ดังนั้น คาดว่าจะดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างและก่อสร้างได้ในปี 2566 ใช้ระยะเวลา 29 เดือน แล้วเสร็จใน ธ.ค. 2568 ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่คาดว่าจะกลับมาในระดับประมาณ 65 ล้านคนต่อปี เท่ากับช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19 ได้ในปี 2568

ส่วนการดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2565 ที่ประชุมมอบหมายให้ ทอท. พิจารณาตรวจสอบข้อสัญญาและเงื่อนไขการร่วมลงทุนโครงการสนามบินอู่ตะเภาฯ ให้ชัดเจนว่า การพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ของ ทอท. มีลักษณะส่งผลกระทบต่อการประกอบการ และ/หรือการดำเนินโครงการฯ

นอกจากนี้ ยังรวมถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการสนามบินอู่ตะเภาฯ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดต่อสัญญาร่วมลงทุนตามข้อใดหรือไม่ อย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อพิพาทและฟ้องร้องต่อรัฐได้ และให้กระทรวงคมนาคมมีหนังสือแจ้งยืนยันผลการพิจารณาไปให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ทราบด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดคำวินิจฉัย ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย ชี้ความเป็นรมต. 'ศักดิ์สยาม' ไม่สิ้นสุดลง

จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 7 ต่อ 1 เสียง ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5)

ภูมิใจไทยรอด! 'นักวิชาการ' ชี้เป็นความผิดส่วนบุคคล ส่วนเงินบริจาคไม่ผิดกฎหมาย

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้ความเห็นต่อโอกาสยุบพรรคภูมิใจไทย จากความผิดของเลขาธิการพรรคว่า

ซ้ำอีกดอก! 'พี่ศรี' จ่อร้อง กกต.กรณี ซุกหุ้น 'ศักดิ์สยาม-ภูมิใจไทย' ต้องถึงยุบพรรคหรือไม่

นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 7 ต่อ 1 ให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รม

อนุกกต.เรียกหจก. บุรีเจริญ แจงบริจาคเงินเข้าภูมิใจไทย

ผู้สี่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อเดือนมี.ค. 66 ก่อนการเลือกตั้ง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นคำร้องต่อกกต.ขอให้ยุบพรรคภูมิใจไทย โดยอ้างเหตุว่า นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ มีพฤติการณ์เป็นนอมินีถือหุ้นในหจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่นแทนนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​คมนาคม และทั้งนายศุภวัฒน์ หจก. บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น บริษัทศิลาชัย บุรีรัมย์ จำกัด ได้มีการบริจาคเงินเข้าพรรคภูมิใจไทยตั้งแต่ปี 2561-2565 รวมจำนวนหลาย 10 ล้านบาท เงินบริจาคดังกล่าว จึงอาจเข้าข่ายขัดมาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 นั้น