‘คีรี’ ย้ำไม่ขัดข้องเปิดสัญญาเดินรถไฟฟ้าสีเขียว

 ‘คีรี’ การันตีพร้อม หากกทม.เปิดสัญญาเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยันไม่เคยเสนอแลกสัมปทานแลกหนี้ พร้อมทวงหนี้กว่า 4 หมื่นล้านบาท จับตาประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มรอบ 2 ผู้ชนะจะเสนอราคาเท่าไหร่

2 ก.ค. 2565 – นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS) เปิดเผยถึงกรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เตรียมเปิดรายละเอียดในสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น บีทีเอสยืนยันว่าไม่เคยมีขัดข้องต่อการเปิดเผยสัญญา แต่แนะนำให้ กทม.เปิดเผยรายละเอียดของทุกสัญญาต่อประชาชนด้วย โดยเฉพาะสัญญาโครงการที่เกี่ยวข้องกับบริการประชาชน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด 

“สัญญาเขียนไว้ทุกสัญญาอยู่แล้ว มีข้อกำหนดในทุกสัญญาระหว่างรัฐและเอกชนว่าจะต้องเคารพซึ่งกันและกัน จะเปิดเผยก็ได้ เพราะภาครัฐก็เป็นเสมือนผู้ถือหุ้นของสัญญานั้น แต่ส่วนตัวผมมองว่ารัฐบาลก็น่าจะเปิดเผยทุกสัญญา ดีที่สุดคือการเปิดเผยในทุกสัญญาที่เกี่ยวข้องกับภาคประชาชน”นายคีรี กล่าว

ทั้งนี้ บีทีเอสยืนยันว่าสัญญาที่ทำร่วมกับกรุงเทพธนาคมนั้น เป็นสัญญาที่ลงนามร่วมกันมาเป็นระยะเวลากว่า 10  ปีแล้ว และ กทม.ก็ถือหุ้นในกรุงเทพธนาคม 99.99% ส่วนตัวจึงเชื่อว่าการลงนามสัญญาฉบับใดของกรุงเทพธนาคม ทาง กทม.ก็ต้องทราบในรายละเอียดอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่อนุมัติให้กรุงเทพธนาคมมาลงนามสัญญากับเอกชน 

“วันนี้บีทีเอสยืนยันว่าไม่เคยมีข้อเสนอในการต่อรองขอสัมปทานรถไฟฟ้าเพื่อแลกกับหนี้สินที่มีอยู่กับกรุงเทพธนาคม บีทีเอสไม่ใช่จำเลยแต่เป็นเจ้าหนี้ ซึ่งวันนี้คงต้องให้เวลาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และทีมงานที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ อาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบรายละเอียด โดยตนยืนยันว่าทุกสัญญาเปิดเผยได้ โปร่งใสและไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ทาง กทม.ได้เชิญบีทีเอสไปหารือมาแล้ว หากพบว่ามีข้อผิดปกติในสัญญาก็คงติดต่อมาที่ตนเพื่อชี้แจงรายละเอียด แต่ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมา”นายคีรี กล่าว

สำหรับหนี้สินที่กรุงเทพธนาคมมีต่อบีทีเอส ปัจจุบันมูลหนี้เกินกว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยแยกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย มูลหนี้ 2 หมื่นล้านบาทที่เกิดจากการติดตั้งระบบรถไฟฟ้า โดยกรุงเทพธนาคมได้ว่าจ้างบีทีเอสให้ดำเนินการ ซึ่งทางบีทีเอสเสนอดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนจึงค่อยชำระค่าใช้จ่าย แต่ปรากฎว่าในขณะนี้ติดตั้งระบบและให้บริการมา 2-3 ปี ทางกรุงเทพธนาคมก็ยังไม่ได้ชำระค่าใช้จ่ายดังกล่าว

ส่วนมูลหนี้ที่เหลืออีกราว 2 หมื่นล้านบาท เกิดจากสัญญาจ้างให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) ซึ่งเป็นสัญญาที่ลงนามร่วมกันมาเกือบ 10 ปี เป็นสัญญาที่คล้ายกับการจ้าง O&M ทั่วไปในตลาดและราคาของบีทีเอสก็ถูกกว่าตลาด ซึ่งยืนยันว่าสัญญาส่วนนี้ไม่ได้มีสิ่งผิดปกติอะไร แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่เจรจากันมา 3 ปีแล้ว โดยบีทีเอสยืนยันอีกครั้งว่าไม่เคยเสนอแลกหนี้กับสัมปทาน เพียงแต่ต้องการให้รัฐบาลจ่ายหนี้คืนเท่านั้น 

“สิ่งที่ผมอยากเห็น คือไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจบีทีเอสผิด เราไม่ใช่จำเลย เราไม่ใช่คนแบบนั้น ดูประวัติการทำงานย้อนหลังที่ผ่านมาได้เลยว่าเราไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ และเรายืนยันว่าแม้ว่าจะมีปัญกาอะไรเกิดขึ้น บีทีเอสจะไม่หยุดให้บริการ ไม่หยุดเดินรถ เพราะจะกระทบต่อประชาชน”

นายคีรี กล่าวถึงกรณีการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ได้มีการเปิดซองที่ 1 ข้อเสนอด้านคุณสมบัติ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า สายสีส้มเป็นสายที่การประมูลเริ่มแล้วมีปัญหาอย่างทุกวันนี้ แม้ว่าศาลจะมีการตัดสิ้นพิพากษาไปแล้วว่าการเปลี่ยน ยกเลิก TOR ที่ให้ประมูลมิชอบด้วยกฎหมาย แต่ทางคณะกรรมการมารตาร 36 และ การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทสไทย(รฟม.) ก็ให้เดินหน้าต่อ 

ทั้งนี้จากการพิจารณาเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) ฉบับใหม่แล้ว ไม่มีโอกาสเลยที่บีทีเอสจะเข้าไปประมูลได้ ไม่ผ่านอย่างแน่นอน เพราะเป็นเงื่อนไขที่มีข้อกำหนดคุณสมบัติแบบเลือกผู้รับเหมา อีกทั้งบริษัทที่เป็นพันธมิตรครั้งที่แล้วได้ยื่นประมูลไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถหาพันธมิตรได้ทัน ส่วนที่อ้างว่าสามารถไปร่วมกับเอกชนรายอื่นได้ เมื่อพิจารณาแล้วไม่น่าจะทำได้ ผู้รับเหมาเตรียมตัวไม่ทัน อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังมีกฎหมาย มีความถูกต้อง มีความยุติธรรมกันอยู่ ควรจะให้กฎหมาย และศาลเป็นผู้ตัดสิน

นายคีรี กล่าวอีกว่า รู้สึกเสียดายว่าโครงการดีๆ เกิดปัญหาล่าช้ามาเป็นปีๆ ผู้ที่เสียประโยชน์มากที่สุดก็คือประชาชน ซึ่งในส่วนของบีทีเอส ที่ต้องต่อสู้ฟ้องศาลก็เพราะต้องการความยุติธรรม อยากให้ประมูลแบบปกติใครให้ผลประโยชน์กับบ้านเมืองมากที่สุดก็เป็นผู้ชนะ ตนต้องการแค่นั้น ขอร้องเถอะประมูลโครงการใหญ่ โครงการดีๆ ต้องเป็นธรรม ให้ผู้ที่ให้ประโยชน์ประเทศชาติมากที่สุด เป็นผู้ชนะ บีทีเอสยื่นซองข้อเสนอประมูลไปแล้วในครั้งแรก และวันนี้ก็ยังไม่ได้เปิด สักวันหนึ่งตนจะเปิดให้ทุกคนทราบว่า ราคาของบีทีเอสคือเท่าใด

“ส่วนกรณีที่มีข้อพิพาทกับ รฟม. หากมีการเปิดประมูลโครงการอีก ทางบีทีเอส จะเข้าร่วมครั้งต่อไปหรือไม่ นายคีรี กล่าวว่า รฟม.เป็นองค์กรของรัฐบาล ของประเทศชาติ บีทีเอสไม่กลัวว่าจะไปเป็นคู่ต่อสู้ หรือจะผิดใจกัน แต่มาได้ก็ไปได้ ท่านก็อยู่ให้ค้ำฟ้าก็แล้วกัน เมื่อสิ่งที่ตนขอมีความถูกต้อง ถ้าคนไทยคิดว่าสิ่งที่บีทีเอสขอ เป็นการถูกต้องในการประมูลเท่าเทียมกัน ก็ขอให้สนับสนุนกันเถอะ มองว่าการประมูลโครงการใหญ่ขนาดนี้ ควรยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ”นายคีรี กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สงกรานต์'รางน้ำ' พิกัดใหม่เล่นน้ำสุดฉ่ำ

สงกรานต์กรุงเทพฯ จุดเล่นน้ำสงกรานต์ยอดฮิตที่มีคนไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวอย่างคับคั่งเป็นประจำทุกปี คนจะนึกถึงถนนข้าวสาร เขตพระนคร หนึ่งในย่านท่องเที่ยวและจัดงานเล่นน้ำสงกรานต์ยอดนิยมเสมอมาของกรุงเทพฯ  รองลงมาสงกรานต์สีลมซึ่งปิดถนนให้เล่นน้ำสงกรานต์กันตลอดเส้นสีลม ยังมีพื้นที่ของคนกลุ่มความหลากหลายทางเพศ LGBTQ ที่จัดประกวดเทพีสงกรานต์ เดินขบวนพาเหรด การแสดงศิลป

กทม.เนรมิตเมือง 15 นาทีเป็นจริง สร้างพื้นที่สีเขียวอิ่มเอมใจทั่วกรุง

กทม.ทวีความรุนแรง เมืองจมฝุ่น การจราจรติดขัด ขาดแหล่งอาหาร สำรวจคนกรุงเผชิญรถติดเฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมง หรือใน 1 ปีชีวิตติดหนึบอยู่บนรถเท่ากับ

ศิลปะกลางแจ้งย่านเก่า หนุนกรุงเทพฯ เมืองที่ดีที่สุด

กรุงเทพฯ ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก หลังนิตยสารท่องเที่ยวชื่อดัง DestinAsian ประกาศให้กรุงเทพฯ คว้าอันดับ 1 เมืองที่ดีที่สุด (Best Cities 2024)  ในประเภทเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว (Destination) ในเอเชียแปซิฟิก

สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม ‘พัก กะ Park’ เปลี่ยนสวนสาธารณะให้เป็นพื้นที่สุขภาวะ

กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.), กลุ่ม we!park และภาคีเครือข่ายพัฒนาเมืองสุขภาวะและชุมชนสุขภาวะ (Healthy Space Alliance)