รองโฆษกรัฐบาลแจงความคืบหน้าท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะ3 คาดเปิดใช้ท่าเรือก๊าซปี 2570
08 ก.พ.2566 - น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 เพื่อรองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและวัตถุดิบเหลวสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ว่ามีมูลค่าการลงทุนทั้งโครงการ 6.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนของภาคเอกชน 5.2 หมื่นล้านบาท และภาครัฐ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยมีแนวทางการดำเนินการแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่1 เป็นการร่วมทุนระหว่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กับเอกชนเพื่อขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นพื้นที่ถมทะเล 1,000 ไร่ (พื้นที่หลังท่าและหน้าท่าพร้อมใช้งาน 550 ไร่ และพื้นที่กักเก็บตะกอนดิน 450 ไร่) และช่วงที่2 เพื่อก่อสร้างท่าเรือสินค้าเหลว (แปลง A) และพื้นที่คลังสินค้าธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (แปลงC)
โดยในช่วงที่1 ข้อมูล ณ วันที่ 12 มกราคม 2566 ได้มีการดำเนินการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานและงานออกแบบรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว ส่วนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน แบ่งเป็น การถมทะเลคืบหน้า 35.88% เร็วกว่าแผน 2.91% ขณะที่การดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกันทราย (Revetment) ก่อสร้างได้ระยะทาง 5,410 เมตร มีการใช้หินสะสม 1.17 ล้าน ลบ.ม. และได้เริ่มงานลงหิน Toe Rock & Rock Underlayer ก่อสร้างได้ระยะทาง 240/5,410 เมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดดำเนินการท่าเรือก๊าซได้ในปี 2570
สำหรับความคืบหน้าของช่วงที่ 2 อยู่ระหว่างกระบวนการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโดย กนอ. เพื่อก่อสร้างท่าเรือสินค้าเหลว (แปลง A) และพื้นที่คลังสินค้าธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (แปลงC) เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ คลังเก็บสินค้า ที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม หรือปิโตรเคมิคอล ธุรกิจคลังเก็บสารเคมีเหลว ธุรกิจโรงไฟฟ้า เป็นต้น
น.ส.รัชดา กล่าวว่า โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ( Eastern Economic Corridor : EEC) มีเป้าหมายเพิ่มขีดความสามารถและความจุในการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติ และสินค้าเหลวสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เพื่อรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน และนำความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดำเนินงาน ทั้งนี้ เมื่อโครงการฯแล้วเสร็จ จะสามารถรองรับการขนส่งก๊าซธรรมชาติได้ 31 ล้านตันต่อปี และก่อให้เกิดการกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แนะเช็กเว็บ https://www.dot.go.th ก่อนซื้อทัวร์ท่องเที่ยว
รองโฆษกรัฐบาลแนะวิธีตรวจสอบบริษัททัวร์นำเที่ยวผ่านเว็บไซต์กรมการท่องเที่ยว https://www.dot.go.th ก่อนตัดสินใจซื้อทัวร์ ย้ำรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งแก้ไขปัญหาทัวร์เถื่อน ไกด์เถื่อน
'ทิพานัน' อวดผลงาน 'ลุงตู่' ปราบอาชญากรรมออนไลน์
'ทิพานัน' ชูผลงาน 'พล.อ.ประยุทธ์' แก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หลังสถิติแจ้งความออนไลน์ลดลงสัปดาห์ละ 700 ราย ย้ำโทษสูงซิมผี-บัญชีม้าคุก 5 ปี ปรับ 5 แสนบาท
นายกฯ วอนผู้ประกอบร้านอาหาร-โรงแรมอย่าขูดรีดนักท่องเที่ยวเกินเหตุ
นายกฯ รับทราบปัญหาราคาโรงแรม ร้านอาหาร พุ่งเท่าตัวหลังท่องเที่ยวฟื้นเร็ว มอบหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแล วอนผู้ประกอบการกำหนดค่าบริการเป็นธรรมไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบนักท่องเที่ยวจนเกินไป
'บิ๊กตู่' สั่งฟันไกด์เถื่อนแย่งอาชีพคนไทย
รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจปัญหาไกด์ต่างชาติแย่งงานคนไทย บิ๊กตู่กำชับทุกหน่วยงานเร่งกวดขัน บังคับใช้กฎหมายเข้มงวด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสเจ้าหน้าที่
ครม.ไม่ยื่นอุทธรณ์คัดค้าน! ศาลปกครอง สั่งระงับโครงการพัฒนาริมแม่น้ำเจ้าพระยา
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ในการดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา