'พาณิชย์' สกัดทุนจีนสวมนอมินี ลุยตรวจเข้มร้านอาหารย่านดัง

“พาณิชย์”เดินหน้าสกัดทุนสีเทา-ต่างชาติเข้ามาหาประโยชน์ เผยการตรวจสอบทุนจีนเทาทำร้านอาหารพื้นที่เยาวราช สัมพันธวงศ์ รัชดาภิเษก ห้วยขวาง ตรวจแล้วรวม 200 ราย พบหลายรายต้องสงสัย สั่งให้ส่งเอกสารหลักฐานชี้แจง

14 ก.พ. 2566 – นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาต่างชาติใช้คนไทยถือหุ้นแทน (นอมินี) เพื่อหลบเลี่ยงทำธุรกิจภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542 โดยไม่ขออนุญาตว่า ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตรวจสอบการจดทะเบียนบริษัท ห้างร้าน อย่างเข้มงวด โดยให้ตรวจสอบข้อมูลการขอจดทะเบียน รวมทั้งสังเกตพฤติกรรมของผู้ยื่นจดทะเบียนด้วยว่ามีความน่าเชื่อถือและสอดคล้องกับเงินทุนที่ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่หรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างทุนสีเทา หรือคนต่างชาติเข้ามาฉวยโอกาสทำธุรกิจของคนไทย และทำให้ธุรกิจคนไทยได้รับผลกระทบ

นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีทุนสีเทาจากจีนเข้ามาทำธุรกิจในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะร้านอาหาร ว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบธุรกิจที่มีคนต่างชาติร่วมถือหุ้น ไม่เฉพาะแค่ชาวจีนถือหุ้นเท่านั้น โดยเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ในย่านเยาวราช สัมพันธวงศ์ รัชดาภิเษก ห้วยขวาง รวมแล้วประมาณ 200 บริษัท โดยพบบางบริษัทมีความเสี่ยงที่จะเป็นนอมินี ซึ่งได้ขอให้ส่งเอกสารหลักฐานมาให้ตรวจสอบเพิ่มเติมภายใน 15 วัน ถ้าพบว่าเข้าข่ายนอมินี จะส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบเชิงลึกต่อไป

สำหรับการตรวจสอบ ได้ตรวจดูว่าประกอบธุรกิจอะไร ถ้าเป็นธุรกิจที่อยู่ในบัญชีแนบท้าย 1 และ 2 ถือเป็นธุรกิจต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าวอยู่แล้ว จะทำธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้ ส่วนบัญชี 3 จะต้องขออนุญาตก่อน ก็จะตรวจว่าได้ขออนุญาตหรือไม่ ถ้าไม่ได้ขอ ถือว่าผิดกฎหมาย รวมถึงดูสัดส่วนการถือหุ้น การมีอำนาจบริหารจัดการ งบการเงิน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัญหานอมินีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะภาคการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้นตัว หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ประกอบกับการเปิดประเทศของจีน ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยจำนวนมากขึ้น กรมฯ จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าตรวจสอบนอมินีต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พาณิชย์มอบของขวัญปีใหม่ ลุยแก้กม.ด่วน 35 ฉบับเพิ่มดูแลประชาชน - ผู้ประกอบการ

“ภูมิธรรม” เตรียมของขวัญปีใหม่ ปรับปรุง กม.พาณิชย์ ด่วน 35 ฉบับ เร่งอำนวยความสะดวกประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันประเทศ

'พาณิชย์' เร่งถกโรงสี เข้ารับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ ชาวนาเจอฝนชุก ทำราคาตก

“พาณิชย์”ถกโรงสี เข้ารับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ หลังฝนตกชุก ทำข้าวมีความชื้นสูง กดราคาตก พร้อมเร่งเปิดตลาดนัดข้าวเปลือกเพิ่มขึ้น จากที่เปิดแล้ว 46 จุด ใน 27 จังหวัด มั่นใจจากนี้ ราคาปรับตัวสูงขึ้น หลังฝนทิ้งช่วง เผยยังมีมาตรการชะลอการขาย เกษตรกรได้ค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท หากเก็บในยุ้งฉางตัวเอง และยังได้เงินสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. ไปใช้จ่ายก่อน

‘ไอซ์ รัชนก’ ซัดนายกฯ ไม่กล้าปฎิรูป ตร.-ทหาร แต่มาวีน ขรก.ปราบส่วย-ทุนจีน

ตัวเองยังไม่กล้าหาญพอจะชนกับฝ่ายไหนเลยด้วยซ้ำ แล้วมาวีนใส่ระดับปฏิบัติการจะให้เค้าทำอะไร จับๆไปบางทีสาวไปเจอผู้บังคับบัญชาตัวเองแล้วให้ไปยังไงต่อ

อีอีซียังเนื้อหอมทุนจีนปักหลักลงทุนในนิคมฯ โรจนะ หนองใหญ่ 1 หมื่นล้านผลิตมอเตอร์ไซค์อีวี

อีอีซียังเนื้อหอม ทุนจีนผลิตรถอีวีเลือกปักหลักลงทุนในนิคมฯโรจนะหนองใหญ่ เทงบ 1 หมื่นล้านบาท ผลิตมอเตอร์ไซด์อีวี 1.5 แสนคันต่อปี เริ่มนำร่องทำตลาด 3 จังหวัดอีอีซี

รัฐบาลมั่นใจช่วย 162 คนไทยในเล้าก์ก่าย กลับบ้านปลอดภัย เหตุสู้รบดุเดือดโกก้าง-ทหารพม่า

นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทยจากเมืองเล้าก์ก่าย (Laukkaing) ของเมียนมา ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังคงติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในเมืองเล้าก์ก่าย(Laukkaing

‘พาณิชย์’ เผยส่งออกเป็นบวก 2 เดือนติด ชี้ ก.ย.มูลค่าพุ่ง 25,476.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน ก.ย.2566 มีมูลค่า 25,476.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.1% เป็นบวกต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อกัน เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 888,666 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 23,383.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 8.3% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 825,310 ล้านบาท ได้ดุลการค้ามูลค่า 2,092.7 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 63,355 ล้านบาท รวมการส่งออก 9 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่า 213,069.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 3.8% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 7,268,400 ล้านบาท นำเข้ามูลค่า 218,902.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 6% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 7,558,144 ล้านบาท ขาดดุลการค้า มูลค่า 5,832.7 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 289,400 ล้านบาท