‘แบงก์ชาติ’ ชี้ส่งออกผ่านจุดต่ำสุดแล้ว

“แบงก์ชาติ”ชี้ส่งออกผ่านจุดต่ำสุดแล้ว คาดเศรษฐกิจไตรมาส 1/66 ขยายตัวดีกว่าไตรมาสก่อน เผยนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน มี.ค. เข้าไทยแล้ว 2.2 ล้านคน

28 เม.ย.2566 – นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน มี.ค. 2566ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า จากภาคการผลิตอุตสาหกรรมและการส่งออกสินค้าที่ชะลอตัวลง -0.5% จากการส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูป และเครื่องจักรไปสหรัฐฯ ที่ลดลง ขณะที่การส่งออกบางหมวดปรับเพิ่มขึ้น เช่น หมวดอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอาร์ดดิสก์ไดฟ์ไปสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามรอบการผลิตและส่งมอบสินค้าของผู้ประกอบการ และการส่งออกหมวดสินค้าเกษตร โดยเฉพาะทุเรียนไปจีน ขณะที่เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนทรงตัว หลังจากที่หมวดสินค้าคงทนได้เร่งตัวไปในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ดีภาคบริการปรับดีขึ้นต่อเนื่องตามจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ สำหรับการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางขยายตัวจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน

สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงจากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่ราคาหมวดอาหารสดลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้นด้านตลาดแรงงานโดยรวมฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้นจากดุลการค้าเป็นสำคัญ ส่วนเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนปรับลดลง แต่ความเชื่อมั่นด้านการลงทุนของธุรกิจยังปรับดีขึ้น ขณะที่เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อยังปรับดีขึ้นต่อเนื่อง จากทั้งการจ้างงานและความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ทั้งนี้ ในเดือน มี.ค. 2566 พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 2.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จากนักท่องเที่ยวจีนหลังจากมีการเปิดประเทศ และนักท่องเที่ยวยุโรป (ไม่รวมรัสเซีย) และมาเลเซียเป็นหลัก แม้จะมีนักท่องเที่ยวในบางสัญชาติที่หดตัว โดยเฉพาะตะวันออกกลาง เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลถือศีลอด (รอมฎอน) ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 25 เม.ย. 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้ว 8 ล้านคน ในส่วนนี้ส่งผลดีต่อการผลิตและภาคบริการ

นางสาวชญาวดี กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2566 คาดว่าจะขยายตัวออกมาในระดับที่ใกล้เคียงกับที่ประมาณการณ์ไว้ เมื่อพิจารณาจากเครื่องชี้ต่าง ๆ ยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ โดยในเดือนพ.ค. 2566 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ จะมีการประกาศตัวเลขออกมา ในส่วนของ ธปท. คาดว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 1/2566 จะขยายตัวดีกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และขยายตัวดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ไตรมาส 2/2566 มองว่ามีแนวโน้มที่ยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่เพิ่มขึ้นเป็นแรงส่งสำคัญ ทำให้ภาคบริการและเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้น ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลาง ขณะที่การลงทุนของรัฐวิสาหกิจหดตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 3.88% ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 5.81% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน อยู่ที่ 2.24%ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 3.20%

“การส่งออกผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าซึ่งคาดว่าจะทยอยปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ การส่งออกก็น่าจะขยายตัวตาม โดยจะเริ่มเห็นในเดือนมี.ค. ว่าการส่งออกเริ่มมีสัญญาณชัดเจน” นางสาวชญาวดี กล่าว

อย่างไรก็ดี ในส่วนของตลาดแรงงานโดยรวมยังฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจ้างงานในภาคท่องเที่ยวและภาคการค้ากลับเข้าสู่ระดับก่อนโควิด-19 แล้ว แม้จะเริ่มเห็นการจ้างงานในภาคการผลิตชะลอลงบ้าง โดยเฉพาะการผลิตในสิ้นค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

เพิ่มเพื่อน