
กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เร่งดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำการปลอมแปลงเอกสารหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) ของ คต. รวมทั้งประสานศุลกากรประเทศปลายทางอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อภาพรวมทางการค้าระหว่างประเทศของไทย
11 พ.ค. 2566 – นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2565 คต. ได้รับการประสานจากหน่วยงานศุลกากรต่างประเทศ เพื่อขอความร่วมมือกรมฯ ตรวจสอบย้อนหลังหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าที่ได้แสดงต่อศุลกากรต่างประเทศในการนำเข้าสินค้าจากไทยจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,055 ฉบับ แบ่งเป็น (1) หนังสือรับรองที่ใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (Form FTA) ได้แก่ Form D / Form E / Form AK และ Form AI จำนวนรวม 788 ฉบับ และ 2) หนังสือรับรองที่ไม่ใช้สิทธิพิเศษทางภาษี (Form CO ทั่วไป) จำนวนรวม 267 ฉบับ ซึ่งจากการดำเนินการตรวจสอบพบว่า เป็นหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าปลอมซึ่งไม่ได้ออกโดยกรมฯ จำนวนรวมทั้งสิ้น 604 ฉบับ แบ่งเป็น 1) Form FTA จำนวน 382 ฉบับ และ 2) Form CO ทั่วไป จำนวน 222 ฉบับ ทั้งนี้ คต. อยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อเร่งดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่กระทำการปลอมแปลงเอกสารดังกล่าว และประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูลกับศุลกากรประเทศผู้นำเข้าปลายทาง เพื่อร่วมกันป้องกันปัญหาการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าอย่างต่อเนื่อง
จากการตรวจสอบข้อมูลหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าปลอม จำนวน 604 ฉบับ พบว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารโดยการสวมเลขที่ Form ของผู้ส่งออกรายอื่น หรือมีการกำหนดเลขที่ Form ขึ้นเอง ทั้งนี้มีการใช้หนังสือรับรองฯ กับสินค้า 2 รายการ ได้แก่ 1) สินค้าทุเรียน ซึ่งเป็นหนังสือรับรองฯ ภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (Form E) สำหรับการส่งออกไปประเทศจีน และ 2) สินค้าล้ออัลลอย (Alloy Wheel) ซึ่งเป็นหนังสือรับรองฯ Form CO ทั่วไป สำหรับการส่งออกไปสหพันธรัฐรัสเซีย อย่างไรก็ดีจากทั้งสองกรณีดังกล่าว คต. ได้แจ้งตอบให้ศุลกากรปลายทางทั้งสองประเทศทราบแล้ว ว่าเป็นหนังสือรับรองฯ ที่ไม่ได้ออกโดยกรมฯ และขอข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการกับผู้ปลอมแปลงหนังสือรับรองฯ ต่อไป
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการนำเอกสารหนังสือรับรองฯ ปลอมไปใช้ในการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทย ซึ่งจะทำให้ศุลกากรปลายทางขาดความเชื่อมั่น และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพรวมทางการค้าระหว่างประเทศของไทย คต. จึงกำหนดมาตรการเชิงรุก โดยการจัดทำระบบการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หรือ SMART CO ซึ่งระบบดังกล่าวสามารถตรวจสอบข้อมูลผ่าน QR Code และมีการลงลายน้ำ เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการปลอมแปลงข้อมูล รวมทั้งจัดทำแผนการพบปะหารือหน่วยงานศุลกากรจีน รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ของจีนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางป้องกันและเอาผิดกับผู้ดำเนินการปลอมแปลงเอกสารตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อินเดียจ่อห้ามส่งออกน้ำตาล คาดทำให้ราคาฯพุ่ง
รัฐบาลอินเดียเตรียมประกาศห้ามส่งออกน้ำตาลฤดูกาลหน้า เพื่อสงวนใช้ในประเทศให้เพียงพอ ปัจจุบัน ราคาน้ำตาลโลกถูกกำหนดโดย 3 ยักษ์ใหญ่ผู้ส่งออก คือ บราซิล ไทย และอินเดีย หากอินเดียดำเนินมาตรการข้างต้นจะส่งผลกระทบให้ราคาน้ำตาลโลกเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
รัฐบาลผลักดันผู้กระกอบการไทยใช้ FTA เต็มศักยภาพ ห้าเดือนแรกใช้สิทธิ 77%
รัฐบาลผลักดันผู้กระกอบการไทยใช้ FTA เต็มศักยภาพ ห้าเดือนแรกใช้สิทธิ 77% มูลค่ารวม 3.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
รัฐบาลปลื้ม 4 เดือนแรกยอดใช้สิทธิ FTA ทะลุ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์
รัฐบาลสนับสนุนการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA เพิ่มโอกาสการส่งออกไทย ยอดใช้สิทธิ 4 เดือนแรกกว่า 25,831 ล้านดอลลาร์ รัฐบาลเชื่อมั่นตัวเลขน่าพอใจ ทำให้การค้าการลงทุนขยายตัว
ทุเรียนไทย แห่ใช้สิทธิ FTA ส่งออกจีน เพิ่มจากเดิม 85%
กรมการค้าต่างประเทศเผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง FTA ในเดือนมกราคม-เมษายนของปี 2566 มีมูลค่ารวม 25,831.09 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าขึ้นแท่นอันดับ 1 คือทุเรียนสด โดยใช้สิทธิฯ ส่งออกไปจีนเพิ่มสูง 85.31% สำหรับอาเซียนยังครองแชมป์ตลาดที่มีการใช้สิทธิฯ ส่งออกมากที่สุด ตามติดมาด้วยอาเซียน-จีน ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-ออสเตรเลีย อาเซียน-อินเดีย และภายใต้กรอบ RCEP มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวม 421.99 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รัฐบาลเร่งผลักดันใช้ RCEP หลังมีผลบังคับใช้ใน 15 ชาติสมาชิก
โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ผลักดันการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง RCEP เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด และศักยภาพทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทย
พาณิชย์เข้ม ประกาศคุมการส่งออกทรายธรรมชาติทุกชนิด มีผลบังคับใช้ พ.ย.นี้
กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ทบทวนประกาศควบคุมการส่งออกทรายโดยห้ามส่งออกสินค้าทรายธรรมชาติทุกชนิด ขอให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมก่อนประกาศใหม่จะมีผล ใช้บังคับ 11 พฤศจิกายน 2566