
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) แนะค้าปลีกไทยปรับตัวเจาะตลาดเวียดนาม หลังตลาดมีแนวโน้มเติบโตสูงมากคาดปี 68 ยอดค้าปลีกจะสูงถึง 3.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เผยควรปรับรูปแบบการลงทุนร้านค้าแบบเครือข่าย ซุปเปอร์มาร์เก็ต และใช้ช่องทางออนไลน์เจาะกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาว
15 มิ.ย. 2566 – นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสุภาพร สุขมาก ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ถึงโอกาสในการขยายตลาดการค้าปลีกของไทยเข้าสู่ตลาดเวียดนาม และการใช้ประโยชน์จากช่องทางออนไลน์ในการขยายโอกาสทางการขายเจาะเข้าสู่กลุ่มผู้บริโภคของเวียดนามที่มีแนวโน้มเติบโต
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เวียดนามเป็นตลาดค้าปลีกที่มีศักยภาพสูงและคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 350,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2568 และจะมีสัดส่วนร้อยละ 59 ของยอดขายผลิตภัณฑ์ในประเทศทั้งหมดทำให้บริษัทต่างชาติที่ลงทุนในเวียดนาม ผู้ประกอบการค้าปลีกในประเทศต่างปรับเครือข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศและปรับปรุงเพื่อการส่งออก รวมทั้งมีการลงทุนในอีคอมเมิร์ซเพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาวที่มีกว่าร้อยละ 50 ของประชากรประมาณ 100 ล้านคน
นายภูสิต กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการการค้าปลีกในเวียดนามได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการค้าจากแบบดั้งเดิมไปสู่รูปแบบสมัยใหม่ โดยเฉพาะการลงทุนในร้านค้าแบบเครือข่ายและซุปเปอร์มาร์เก็ต และความร่วมมือเพื่อพัฒนารูปแบบการค้าปลีกใหม่ๆ เช่น ออนไลน์เพื่อสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อผู้ประกอบการค้าปลีก และเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายสินค้า โดยผู้ประกอบการค้าปลีกไทยที่เข้าไปลงทุนในเวียดนามต้องปรับตัวทั้งการปรับรูปแบบการค้า และการมุ่งพัฒนาการผลิตที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมุ่งสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและฉลากเขียวจะทำให้มีโอกาสในการเติบโตในตลาดเวียดนามเพิ่มขึ้น

สำหรับการขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะการค้าออนไลน์เป็นเทรนด์ที่มาแรงในเวียดนามโดยเฉพาะการขายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ได้แก่ Facebook Live และ Tiktok เป็นการเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าเข้าถึงผู้บริโภคเวียดนามได้มากยิ่งขึ้น ช่องทางอีคอมเมิร์ชจึงเป็นช่องทางที่น่าสนใจของผู้ประกอบการที่ต้องการขยายการค้ามายังตลาดเวียดนาม เนื่องจากต้นทุนที่ต่ำกว่าการเปิดหน้าร้านและสามารถเข้าถึงผู้บริโภคเป้าหมายได้ดี แต่รัฐบาลมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าออนไลน์ ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้ามาทำตลาดในรูปแบบออนไลน์ในเวียดนามควรศึกษากฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการค้าออนไลน์ของเวียดนามด้วย
ทั้งนี้ กิจกรรมของกรมที่จะเกิดขึ้นในประเทศเวียดนาม ได้แก่ โครงการส่งเสริมการขายสินค้าไทยร่วมกับห้างค้าปลีกในประเทศเวียดนามร่วมกับห้างสรรพสินค้า Go! และ Tops Market ระหว่างวันที่ 1 – 14 สิงหาคม 2566 และ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ ร่วมบรรยายในหลักสูตร ITP รุ่นที่ 5 Sustainable Growth for Exporter ส่งเสริมส่งออก SMEsไทย เติบโตอย่างยั่งยืน ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ และวิสัยทัศน์ ให้กับ ผู้ประกอบการ SMEs ที่ประกอบธุรกิจส่งออกให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พณ. ต้อนรับเลขาฯพรรคคอมมิวนิสต์จีน กระชับความสัมพันธ์การค้า ความร่วมมือ EEC
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้การต้อนรับและหารือ นายอี้ เลี่ยนหง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์
พาณิชย์ - DITP ขน 8 ผู้ประกอบการภาพยนตร์ไทยบุกตลาดอเมริกา
พาณิชย์ - DITP ขน 8 ผู้ประกอบการภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมงาน AFM 2023 คาดสร้างรายได้กว่า 500 ล้านบาท กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ขานรับนโยบายขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย คัดสรรผลงานเด่นจาก 8 บริษัทไทยเตรียมเข้าร่วมงาน American Film Market 2023 หนึ่งในตลาดซื้อขายภาพยนตร์ และคอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เมืองซานตาโมนิก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเวทีจับคู่เจรจาการค้า ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน 2566 คาดสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
‘พาณิชย์’ เผยส่งออกเป็นบวก 2 เดือนติด ชี้ ก.ย.มูลค่าพุ่ง 25,476.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน ก.ย.2566 มีมูลค่า 25,476.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.1% เป็นบวกต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อกัน เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 888,666 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 23,383.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 8.3% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 825,310 ล้านบาท ได้ดุลการค้ามูลค่า 2,092.7 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 63,355 ล้านบาท รวมการส่งออก 9 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่า 213,069.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 3.8% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 7,268,400 ล้านบาท นำเข้ามูลค่า 218,902.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 6% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 7,558,144 ล้านบาท ขาดดุลการค้า มูลค่า 5,832.7 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 289,400 ล้านบาท
พาณิชย์เผยยอดใช้สิทธิ FTA 7 เดือนมูลค่า 4.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
กรมการค้าต่างประเทศเผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง FTA ในเดือนมกราคม – กรกฎาคม ของปี 2566 มีมูลค่ารวม 46,183.48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับอาเซียนยังครองแชมป์ตลาดที่มีการใช้สิทธิฯ ส่งออกมากที่สุด ตามติดมาด้วยอาเซียน-จีน ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-ออสเตรเลีย อาเซียน-อินเดีย และภายใต้ RCEP มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวม 810.35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศแนะผู้ส่งออกไทยใช้ประโยชน์จาก FTA เป็นเครื่องมือสร้างแต้มต่อทางการค้า
พาณิชย์หารือแพลตฟอร์มขอความร่วมมือให้สิทธิพิเศษแก่ร้านอาหารธงฟ้า
กรมการค้าภายในเตรียมหารือแพลตฟอร์มส่งอาหาร ขอความร่วมมือให้สิทธิพิเศษแก่ร้านอาหารธงฟ้า เพื่อช่วยร้านอาหารมีช่องทางการจำหน่าย และผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคอาหารราคาประหยัด พร้อมเดินหน้าตรวจสอบ ติดตามการปรับลดราคาสินค้าทั้งประเทศ ลดจริงหรือไม่ ล่าสุดตรวจโรงพยาบาล พบ 112 แห่งลดให้จริง รวมถึงศูนย์บริการรถยนต์ ห้าง ที่ปรับลดราคาตามที่ได้แจ้งไว้
สนค. เผยปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามจากภัยแล้ง
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้ง ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566