มอเตอร์เวย์เชื่อมอู่ตะเภาส่อเลื่อนหลังงบปี 67 สะดุด เข้าสภาไม่ทัน

“กรมทางหลวง” ขยับไทม์ไลน์ตอกเสาเข็ม มอเตอร์เวย์เชื่อม “สนามบินอู่ตะเภา” หลังร่างงบประมาณปี67สะดุดเสนอเข้าสภาฯไม่ทัน เล็งชง ครม.ใหม่เคาะ ตั้งเป้าสร้างแล้วเสร็จ 2ปีครึ่ง รับเมืองการบินหนุนเดินทางเชื่อมอีอีซี

19 มิ.ย. 2566 – รายงานข่าวจากกรมทางหลวง(ทล.)เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเข้าสนามบินอู่ตะเภา วงเงิน 4,508 ล้านบาท ระยะทางรวม 1.92 กิโลเมตร(กม.) แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง ค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน และเงินเผื่อเหลือเผื่อขาดรวม 4,400 ล้านบาท ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามแผนบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2565 และเงินกู้ตามแผนบริหารหนี้สาธารณะแก้ไขปรับปรุงปีงบประมาณ 2566 ค่าจัดสรรงบประมาณสำหรับค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ในกรอบวงเงิน 108 ล้านบาท ใช้พื้นที่รวม 75 ไร่ 3 งาน 48.4 ตร.วา ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณระยะเวลาก่อสร้างระหว่างปี 2567-2569 ซึ่งจะต้องเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดใหม่พิจารณา

ทั้งนี้จากเดิมในส่วนของงบประมาณสมทบ 20% ได้เสนอจัดตั้งในร่างงบประมาณปี 2567 เนื่องจากก่อนหน้านี้คาดว่าจะมีการเสนอไปยังสภาฯวาระแรกในเดือนพฤษภาคมนี้ แต่เนื่องจากมีการยุบสภาทำให้ต้องรอรัฐบาลใหม่มาพิจารณา โดยข้อมูลของโครงการทางสำนักแผนงานของกรมทางหลวงได้ส่งให้สำนักงบประมาณแล้ว คาดว่าหลังจากเดือนส.ค. นี้ หากมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เสร็จแล้ว ทางสำนักงบฯก็จะเสนอให้ ครม.ชุดใหม่พิจารณาอีกครั้ง คาดว่าจะเริ่มดำเนินการประกาศประกวดราคาและกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ปลายต.ค.นี้ คาดว่าลงนามสัญญาร่วมกับเอกชนและเริ่มก่อสร้างได้ภายในเดือนไตรมาส3ปี2567

“ปัจจุบันเมื่อร่างงบประมาณปี2567 ยังไม่ได้รับการพิจารณา จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เนื่องจากเป็นงบประมาณผูกพัน 3 ปี ซึ่งรัฐบาลรักษาการก็ไม่มีอำนาจในการอนุมัติเรื่องงบประมาณผูกพันข้ามปี จากเดิมจะแบ่งตอนในการก่อสร้าง และงานก่อสร้างใช้เวลาประมาณ 3 ปี แต่หลังเกิดจากความล่าช้าเรื่องงบประมาณ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ได้ให้นโยบายได้เร่งในส่วนของงานก่อสร้างต้องใช้เวลา 30 เดือน หรือ 2ปีครึ่ง ซึ่งจะแล้วเสร็จสอดคล้องกับการเปิดให้บริการกับสนามบินอู่ตะเภา”แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับโครงการส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการจราจรที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตบริเวณสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งสนามบินอู่ตะเภาจะเปิดให้บริการเป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลักแห่งที่ 3 ในปี 2569 โดยจะเป็นการก่อสร้างทางยกระดับเชื่อมต่อจากทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด ถัดจากด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอู่ตะเภาเข้าสู่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ของสนามบินอู่ตะเภาโดยตรง ซึ่งจะช่วยลดระยะทางสู่สนามบินอู่ตะเภาจากเดิม 5 กิโลเมตร เหลือ 1.92 กิโลเมตร โดยไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางเพิ่ม รวมถึงทางเลี้ยวและทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัดกับถนนสุขุมวิท คาดว่าเมื่อเปิดให้บริการ จะมีปริมาณจราจร ประมาณ 21,000 คันต่อวัน และเพิ่มเป็นประมาณ 39,500 คันต่อวัน ในปีที่ 30 หลังจากเปิดให้บริการ

ส่วนรูปแบบการก่อสร้างของโครงการฯ เป็นการก่อสร้างทางยกระดับแนวใหม่ขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อมต่อทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ระยะทาง 1.920 กิโลเมตร (กม.) และมีทางบริการระดับพื้นเพื่อรองรับการสัญจรบริเวณใต้ทางยกระดับโดยก่อสร้างช่องทางเลี้ยวและทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัดกับ ทล. 3 และปรับปรุง ทล. 3 ขยายจาก 4 ช่องจราจร เป็น 8 ช่องจราจร ซึ่งโครงการฯจะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง เนื่องจากส่วนต่อขยายฯ อยู่นอกบริเวณด่านอู่ตะเภา และไม่มีการสร้างด่านเก็บค่าผ่านทางเพิ่มเติม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดิจิทัลวอลเล็ตส่อขัดรธน.! อดีตรมว.คลังแนะกฤษฎีกาตีความ รัฐบาลล้วงงบฯจากปี67ด้วย

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์

พระราม 2 ไม่แผ่ว! สั่งสอบด่วน บันไดเหล็ก 14 เมตร พังล้มทับถนน

'อธิบดีทางหลวง' สั่งสอบด่วน เหตุบันไดเหล็กเสาตอม่อมอเตอร์เวย์ ล้มบนถนนพระราม 2 ยันทุกโปรเจกต์หยุดก่อสร้าง คืนผิวจราจรให้ประชาชนสัญจรช่วงสงกรานต์

'วุฒิสภา' ไฟเขียวร่างพรบ.งบปี 67 เสียงโหวต 178 ต่อ 0

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมวุฒิสภา พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงินงบประมาณ 3.48 ล้านล้านบาท มีการปรับลดกว่า 9 พันล้านบาท ตามที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว

ผบ.ทร. แจงกมธ.งบฯ 67 ขออุทธรณ์จัดซื้อเรือฟริเกต วอนขอใช้ของดีๆ เรายินดีที่จะกินมาม่า

พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เรื่อง ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาของ คณะอนุกรรมาธิการด้านมั่นคงฯ ที่มีมติให้ปรับลดงบประมาณ