กฟผ. รับมือภัยแล้งน้อย ปรับแผนการกักเก็บและระบายน้ำ

กฟผ. ร่วมพันธมิตร บริหารจัดการน้ำและโรงไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เฝ้าระวังเขื่อนที่เสี่ยงน้ำน้อย ปรับแผนการกักเก็บและระบายน้ำ พร้อมเตรียมปริมาณสำรองเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค รับสภาวะเอลนีโญ

3 ก.ค. 2566 – นายจรัญ คำเงิน รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงความจำเป็นในการบริหารจัดการน้ำและโรงไฟฟ้าในภาวะที่มีปริมาณฝนน้อยกว่าปกติ เนื่องจากสภาพอากาศประเทศไทยได้เข้าสู่สภาวะเอลนีโญส่งผลให้ฝนตกน้อยกว่าปกติ ปริมาณฝนสะสมน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา สภาวะเอลนีโญจะอยู่ต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2567 และทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงจำเป็นต้องวางแผนบริหารจัดการน้ำในระยะ 2 ปี และเตรียมแผนการจัดการน้ำระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว รองรับสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำในอนาคต

ทั้งนี้สถานการณ์น้ำของเขื่อน กฟผ. ณ วันที่ 1 ก.ค. 2566 มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง 12 แห่ง รวม 29,720 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 48% ของความจุ เป็นปริมาณใช้งานได้ 8,027 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 21% ของความจุใช้งาน ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน 3,006 ล้านลูกบาศก์เมตร แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนมาแล้วกว่า 1 เดือน แต่ยังคงมีปริมาณน้ำเติมลงอ่างเก็บน้ำเพียงเล็กน้อย คาดว่าอิทธิพลเอลนีโญจะส่งผลกระทบให้น้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำปริมาณน้อย โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลอง จากการประเมินสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่าในระบบ ONE MAP พบว่ามีโอกาสที่ปริมาณน้ำจะน้อยกว่าค่าเฉลี่ย การบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนจึงจำเป็นต้องปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)

อย่างไรก็ตาม กฟผ. ได้จัดเตรียมแผนปฎิบัติการรองรับสถานการณ์น้ำช่วงฤดูฝน ประกอบด้วย 1. ทบทวน ปรับปรุงเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะเขื่อนที่เสี่ยงต่อการมีปริมาณน้ำน้อย เช่น เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี เขื่อนจุฬาภรณ์ และ เขื่อนห้วยกุ่ม จ.ชัยภูมิ 2.เตรียมความพร้อม ซ่อมแซมปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ ระบบระบายน้ำโทรมาตรให้พร้อมใช้งาน 3.ตรวจความมั่นคงปลอดภัยคัน ทำนบ พนังกั้นน้ำ 4.เร่งกักเก็บน้ำในอ่างเก็บน้ำช่วงปลายฤดูฝน

และ 5.สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์แก่ประชาชน 6. ติดตามและประเมินผลโดยยึดแนวทางการบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดตามวัตถุประสงค์หลักในการใช้น้ำสำหรับการอุปโภค บริโภค รักษาระบบนิเวศ เกษตร อุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่น ๆ ตามลำดับ โดยมีการผลิตไฟฟ้าเป็นผลพลอยได้จากการระบายน้ำตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว

นอกจากนี้ กฟผ. ยังได้เตรียมแผนและปรับมาตรการการใช้น้ำของโรงไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับสภาวะเอลนีโญ เช่น การเพิ่มระบบน้ำสำรองจากน้ำบาดาล การจัดหาปั๊มสำหรับสูบถ่ายน้ำ การซ่อมแซมคลองส่ง-รับน้ำ วางแผนการผลิตไฟฟ้าให้สอดรับกับน้ำต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในกระบวนการผลิตไฟฟ้า ควบคุมปริมาณการใช้น้ำดิบให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นำน้ำที่ใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการบำบัดน้ำเสียและนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ตลอดจนรณรงค์ประหยัดการใช้น้ำในโรงไฟฟ้าและสำนักงาน ทั้งนี้เพื่อให้การผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าทุกประเภท สามารถผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้าให้กับประชาชนอย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตราดแล้งหนัก พื้นที่ปลูกทุเรียน-มังคุด อ.เขาสมิง ขาดน้ำช่วงใกล้เก็บผลผลิต

สถานการณ์การขาดแคลนน้ำทั้งในคลองสาธารณะและอ่างน้ำส่วนตัวของเกษตรกรชาวสวนผลไม้ในอำเภอเขาสมิง จ.ตราด กำลังได้รับความเสียหายแล้ว เกษตรกรตื่นตัวหาน้ำสำรอง

อ่างเก็บน้ำโคราช 27 แห่ง เหลือน้ำเพียง 42% 'ผู้ว่าฯชัยวัฒน์' วอนงดทำนาปรัง

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำกินน้ำใช้ในพื้นที่เขตเมืองนั้นมีระบบประปาอยู่2ระบบคู่กัน ระบบที่ 1 ของเทศบาลนครนครราชสีมามีโรง

ผู้ว่าฯโคราชป้ายแดง ลุยดูอ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง หวั่นหน้าแล้งมีน้ำดิบไม่พอทำประปา

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายวิจิต กิจวิรัตน์ รองผู้ว่า และนายอำเภอโชคชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลด่านเกวียน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด