'ชาติศิริ' ชี้ต้องสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน

‘ชาติศิริ’ ชี้ต้องสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน นโยบายรัฐดึงนักลงทุนนอก-ในเข้าไทย หนุนเศรษฐกิจโตระยะยาว

25 ต.ค. 2566 นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อาจจะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนบ้าง แต่ สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไรให้เศรษฐกิจโตในระยะข้างหน้าให้ได้ และให้ครัวเรือนมีรายได้มากขึ้น และมีเงินกระจายเข้าสู่หลายพื้นที่ 

ขณะเดียวกัน ด้านนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลได้วางไว้ก็มีเส้นทางที่ดี ในอนาคตจะทำให้เศรษฐกิจแข็งแรงขึ้น และมีพัฒนาการต่างๆ รวมถึงจะมีการสร้างงาน เช่น มีการดำเนินนโยบายที่เปิดให้มีการลงทุน โดยดึงนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาในไทย สามารถขยายให้เศรษฐกิจโตจากกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นจากความร่วมมือด้านต่างๆ

“ ปัญหาหนี้ครัวเรือน เมื่อเศรษฐกิจขยายตัวเรื่อยๆ ในที่สุดเม็ดเงินจะกระจายไปสู่ส่วนต่างๆ ของเศรษฐกิจ ดังนั้น จะช่วยให้ปัญหาต่างๆ พัฒนาก้าวต่อไปให้ได้ สำหรับสัดส่วนหนี้ครัวเรือนจะลดลงได้ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง แต่ควรจะแก้ปัญหาให้เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้อย่างมั่นคง และมีการลงทุนที่เหมาะสม รวมถึงมีการจ้างงานมากขึ้น เหล่านี้จะช่วยให้ปัญหาหลายๆ อย่างคลี่คลายลงได้ “ นายชาติศิริ กล่าว 

ส่วนกรณีที่ รายงานกำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3/2566 โดยการตั้งสำรองของธนาคารพาณิชย์มีมากขึ้น จากปัจจัยความเสี่ยงระยะข้างหน้า ส่วนของธนาคารจะดูไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวัง และการตั้งสำรองที่อยู่ในระดับสูงจะพิจารณาทบทวนเป็นระยะๆ ตามสภาพของเศรษฐกิจ และการตั้งสำรองในปัจจุบันก็เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจ ซึ่งแนวโน้มการตั้งสำรองในระยะข้างหน้ามีความเป็นได้จะลดลง ซึ่งสอดคล้องหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ไม่ได้มีปัญหา และอยู่ในระดับที่มีทั้งขึ้นและลง แต่อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ รวมถึงจะบริหารหนี้เสียโดยธนาคารจะดำเนินการเอง

ขณะที่ภาพรวมสินเชื่อของธนาคารยังคงเป้าหมายเติบโตปี 66 ไว้ที่ 4-6% ซึ่งยังคงมาจากสินเชื่อรายใหญ่ และสินเชื่อในต่างประเทศ ด้านสัดส่วนหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารมีแนวโน้มลดลงในไตรมาส 4/66 หลังคุณภาพของลูกหนี้ดีขึ้น เพราะเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีจากลูกค้าของธนาคารที่กลับมาชำระคืนหนี้ได้ตามปกติในจำนวนที่เพิ่มขึ้น โดยในไตรมาส 3/66 สัดส่วนหนี้ NPL ของธนาคารอยู่ที่ 3% ทำให้ธนาคารตั้งสำรองฯลดลงตามไปด้วย โดย Coverage ratio ของธนาคารยังคงในระดับสูงกว่า 280%

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กุนซือนายกฯ' กระทุ้งอีก! 'ธปท.' ต้องเร่งลดดอกเบี้ย

'พิชัย' ห่วงเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำ หลังเงินเฟ้อติดลบ 5 เดือนซ้อนสวนทางโลก จี้ ธปท. หั่นดอกเบี้ยนโยบาย ลดช่วงห่างเงินกู้เงินฝาก ตามสภาพัฒน์ฯ แนะนำ