รมว.ท่องเที่ยวนำเอกชนไทยบุกตลาดอินเดียหวังโกยรายได้ 80,000 ล้านในปี 67

รมว.ท่องเที่ยวนำผู้ประกอบการเอกชนไทยร่วมงาน SATTE 2024 เร่งบูสต์ตลาดอินเดีย พร้อมตั้งเป้ารายได้ตลาดอินเดียกว่า 80,000 ล้านบาทในปี 2567

22 ก.พ. 2567 – นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำทัพผู้ประกอบการไทยบุกตลาดอินเดีย โดยร่วมพบปะกับผู้แทนบริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ในอินเดีย (Executive Luncheon) พร้อมร่วมกิจกรรม Thailand Media Briefing ซึ่งจัดขึ้น ณ The Leela Palace ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ก่อนงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในสาธารณรัฐอินเดีย South Asia Travel and Tourism Exchange (SATTE) 2024 ในวันที่ 22 – 24 กุมภาพันธ์ 2567 ณ India Expo Mart กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สาธารณรัฐอินเดียและประเทศไทยมีความสัมพันธ์อันดีและใกล้ชิดกันมายาวนานในหลากหลายมิติ ทั้งมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ซึ่งได้ขยายมายังมิติทางการท่องเที่ยวในปัจจุบัน ตลาดอินเดียถือเป็นหนึ่งในตลาดเป้าหมายหลักที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย โดยในปี 2566 นักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางเข้าประเทศไทยมากที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง ทางรัฐบาลไทยจึงได้ดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอินเดียในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย รวมถึงยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ ‘Act East’ ของอินเดีย ที่จะร่วมส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่าง 2 ประเทศให้เกิดการเดินทางระหว่างกันมากยิ่งขึ้น โดยประเทศไทยพร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยวอินเดียผ่าน Soft Power พร้อมยกระดับการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ตลาดอินเดียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่ ททท. ให้ความสำคัญ โดยเป็นตลาดนักท่องเที่ยวศักยภาพขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตดี ในปี 2567 นี้ ททท. จะมุ่งขยายตลาดเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ ได้แก่ กลุ่มสตรี ผู้สูงวัย Gen Z LGBTQIA+ รวมถึงกลุ่มความสนใจเฉพาะ อาทิ กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ กีฬาดำน้ำ ควบคู่ไปกับกลุ่มตลาดหลักของนักท่องเที่ยวอินเดียในปัจจุบัน ได้แก่ กลุ่มครอบครัว คู่แต่งงานและฮันนีมูน กลุ่ม Millennial กลุ่ม Luxury กีฬากอล์ฟ และกลุ่ม Incentive โดย ททท. ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งสายการบินและผู้แทนบริษัทนำเที่ยวในการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญในตลาดอินเดีย ทั้งงาน Outbound Travel Mart (OTM) ซึ่งจัดขึ้นที่นครมุมไบ เมื่อวันที่ 8 – 10 กุมภาพันธ์ 2567 และในครั้งนี้ งาน SATTE 2024 ที่จัดขึ้นในวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์ 2567 ณ กรุงนิวเดลี ททท. นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเข้าร่วม 59 ราย เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการการท่องเที่ยวไทย และมุ่งกระตุ้นให้เกิดการเดินทางครั้งแรกของกลุ่มนักท่องเที่ยว First Visitor นักท่องเที่ยวอินเดีย

งาน SATTE 2024 กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์ 2567 ณ India Expo Mart, Greater Noida, กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 35,000 คน และมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าทางการท่องเที่ยวกว่า 1,200 คูหา โดย ททท. ได้เชิญพันธมิตรผู้ประกอบการไทยและสายการบินพันธมิตร เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 59 ราย ได้แก่ ผู้ประกอบการโรงแรมและรีสอร์ต 26 ราย บริษัทนำเที่ยว 20 ราย และอื่น ๆ อาทิ ธุรกิจประเภทสวนน้ำ สวนสนุก กอล์ฟคลับ รวม 10 ราย รวมถึงพันธมิตร Thailand Privilege Card สายการบินไทยและสายการบินแอร์เอเชีย เข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อในตลาดอินเดีย พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่มีความหลากหลายและสอดคล้องกับพฤติกรรมของตลาดเป้าหมาย

สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวอินเดีย ถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพและมีนัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปี 2566 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากอินเดียทั้งสิ้น 1,628,542 คน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 1,425,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวรูปแบบ FIT กว่าร้อยละ 75.77 และมีสัดส่วนของเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งแรก (First Visit) ถึงร้อยละ 62.17

ทั้งนี้ จากปัจจัยสนับสนุนของมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) ของนักท่องเที่ยวอินเดียระหว่างวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 – 10 พฤษภาคม 2567 และการดำเนินการส่งเสริมตลาดของททท.อย่างต่อเนื่องตลอดปี 2567 จะส่งเสริมผลักดันให้นักท่องเที่ยวอินเดียเติบโตสู่ 1,746,000 คน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 80,870 ล้านบาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เทศกาลสร้างสรรค์'3 ศิลป์ 3 ศาสน์ ย่านกะดีจีน'

งานเฟสติวัลในย่านเก่าเป็นอีกกิจกรรมสร้างสรรค์ สร้างแรงกระเพื่อมให้มหานครมีมิติร่วมสมัยควบคู่ไปกับการดูแลรักษาศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิม สีสันความสนุกที่เคลือบด้วยสาระและคุณค่าของย่านกะดีจีนจะเกิดขึ้นในงานเทศกาล ” 3 ศิลป์ 3 ศาสน์ ย่านกะดีจีน”

บอร์ดซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติกำชับใช้งบฯให้คุ้มค่า

รมว.สุดาวรรณ ร่วมการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2567 รับมอบนโยบาย 3 ข้อ ให้คณะกรรมการฯ เน้นย้ำการใช้งบประมาณให้คุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด

สุดาวรรณ ร่วมฉลองครบรอบ 30 ปี สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 1

รมว.สุดาวรรณ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมมหกรรมดนตรีริมฝั่งโขง เฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย - เวียงจันทน์)

'สุดาวรรณ' สงวนท่าทีจัดงานสงกรานต์เข้าตา รั้งเก้าอี้ รมว.ท่องเที่ยว

น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี พิจารณาว่าใครเหมาะสม ซึ่งส่วนตัวไม่ได้รับสัญญาณใดๆจากนายกฯ เมื่อถามว่า การจัดกิจกรรมสงกรานต์เป็นไปตามเป้าที่วางไว้

สงกรานต์'รางน้ำ' พิกัดใหม่เล่นน้ำสุดฉ่ำ

สงกรานต์กรุงเทพฯ จุดเล่นน้ำสงกรานต์ยอดฮิตที่มีคนไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวอย่างคับคั่งเป็นประจำทุกปี คนจะนึกถึงถนนข้าวสาร เขตพระนคร หนึ่งในย่านท่องเที่ยวและจัดงานเล่นน้ำสงกรานต์ยอดนิยมเสมอมาของกรุงเทพฯ  รองลงมาสงกรานต์สีลมซึ่งปิดถนนให้เล่นน้ำสงกรานต์กันตลอดเส้นสีลม ยังมีพื้นที่ของคนกลุ่มความหลากหลายทางเพศ LGBTQ ที่จัดประกวดเทพีสงกรานต์ เดินขบวนพาเหรด การแสดงศิลป