ตื่นตัว Net Zero เร่งพัฒนาแพลตฟอร์มบริหาร Carbon Footprint

ไทยเดินหน้าสู่ Net Zero: ศึกษาวิจัยพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Carbon Footprint

21 เม.ย. 2567 – นายนิพนธ์ นาชิน ที่ปรึกษากรรมาธิการวิสามัญด้านปัญญาประดิษฐ์ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ นางเพลินพิศ ศรีภพ นายกเทศมนตรีเมืองตาคลี และคณะผู้อบรมหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล รุ่นที่ 7 จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ได้เดินทางไปยังจังหวัดนครสวรรค์เพื่อหารือกับนายสิทธิพงษ์ โกวพัฒนกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด การศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Carbon Footprint

การประชุมครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่การศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมทั้งสำรวจวิธีการบูรณาการและการทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่ความเจริญก้าวหน้าและยั่งยืน คณะผู้เข้าร่วมประชุมได้ร่วมกันศึกษาและเก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการพัฒนาแพลตฟอร์มที่จะรองรับการรวบรวมข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Emissions) ในวงกว้าง ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ กำหนดนโยบาย และวางแนวทางสำหรับประเทศในการตอบสนองต่อข้อผูกพันและเป้าหมายที่ได้ให้คำมั่นสัญญาในระดับสากล

สำหรับ  Carbon Footprint หมายถึง ผลรวมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล การผลิตสินค้า การขนส่ง การเกษตร การป่าไม้ ฯลฯ การวัด Carbon Footprint ช่วยให้เราสามารถเข้าใจถึงผลกระทบของกิจกรรมต่างๆ ต่อสิ่งแวดล้อม และหาทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทั้งนี้ประเทศไทยได้ประกาศเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 หมายความว่า ประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เป้าหมายนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของนานาชาติที่ตกลงกันในข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) เพื่อจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มเกิน 1.5 องศาเซลเซียส การพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Carbon Footprint เป็นก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ของประเทศไทย

แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถรวบรวมข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุแหล่งที่มาของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และกำหนดนโยบายและมาตรการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ แพลตฟอร์มนี้ยังจะช่วยให้ภาคธุรกิจและประชาชนสามารถติดตามและลด Carbon Footprint ของตนเองได้

การบรรลุเป้าหมาย Net Zero จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาสังคม และประชาชนทั่วไป ต่างมีบทบาทสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Carbon Footprint เป็นเพียงจุดเริ่มต้น  ประเทศไทยจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่ Net Zero และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับลูกหลานของเรา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อัลฟ่าเซค' จับมือ 'ส.อ.ท.' ทำระบบมาตรฐานความปลอดภัยสารสนเทศของงาน Made in Thailand

อัลฟ่าเซค ร่วมมอบ “ใบรับรองระบบมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO27001:2022” ให้กับ ส.อ.ท. ในฐานะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ MiT และเตรียมรับมือกับ ภูมิทัศน์ไซเบอร์ในปี 2567

depa ดัน จ.อุดรธานี เป็นเมืองอัจฉริยะ รับงานพืชสวนโลก

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) โดย นายพรชัย หอมชื่น ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ (กลุ่มงานกิจการสาขา) พร้อมด้วย นายประดิษฐ์ คงภูงา ผู้จัดการสาขาภาคอีสานตอนกลาง และ นายพิชชากร วัชรานุรักษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมแพลตฟอร์มและบริการดิจิทัล

ไทยขาดแคลนบุคลากรความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์หนัก ม.ขอนแก่น เปิดหลักสูตรใหม่รองรับ

นายนิพนธ์ นาชิน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า ในปัจจุบันช่องทางการติดต่อสื่อสารที่ถูกใช้งานมากที่สุดในโลกคือ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต จากข้อมูลผลสำรวจ พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2565 โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.)

'SME' กังวลกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สมาคมเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPOA) ผนึก PECB และ IAPP เร่งพัฒนาทักษะบุคลากรด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และไซเบอร์ไทยรองรับความต้องการในตลาดแรงงาน