“เสริมศักดิ์ ตั้งเป้ารายได้ถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย กว่า 7,500 ล้านบาท ปลื้ม White Lotus S3 ชมไทยสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์โลก”
23 มิ.ย. 2567 – นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567 ได้มอบหมายให้นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้การต้อนรับ Mr.Scott Schaeffer Senior Vice President, HBO Production – The White Lotus S3 ซีรีย์กระแสดังระดับโลก และกวาดรางวัล Emmy Award ซึ่งได้เดินทางเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดย Mr.Scott กล่าวว่า “รู้สึกประทับใจความเป็นมืออาชีพของทีมงานไทย ได้รับการอำนวยความสะดวกจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนในพื้นที่ถ่ายทำ ทำให้การถ่ายทำประสบความสำเร็จพร้อมทั้งได้กล่าวว่า สถานที่การถ่ายทำภาพยนตร์ของประเทศไทยมีความสวยงามระดับโลก จากทัศนียภาพบนเกาะสมุย และเกาะภูเก็ต รวมทั้งเกาะต่าง ๆ ในอ่าวไทย การตัดสินใจเข้ามาลงทุนถ่ายทำซีรีย์ในประเทศไทยครั้งนี้เป็นผลจากมาตรการการคืนเงิน (Incentive) เป็นหลัก ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากบริษัท HBO และ Warner Bros. ว่ามาตรการการคืนเงินของไทยยังคงดีที่สุดในเอเชีย ซึ่งเมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวตามรอยสถานที่ถ่ายทำ สร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเกิดการจ้างงาน และการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจซึ่งส่งผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต”
รมว. เสริมศักดิ์ฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยแล้ว ภาพยนตร์ต่างประเทศยังมีส่วนสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวตามรอยสถานที่ต่างๆ ที่เป็นโลเคชั่นของภาพยนตร์ รวมถึงตามรอยนักแสดงชื่อดัง ซึ่งหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ธุรกิจการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปี พ.ศ. 2566 มีรายได้จากกองถ่ายต่างประเทศ จำนวนกว่า 6,753 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดนับแต่มีการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย และในปี พ.ศ.2567 ตั้งแต่มกราคม -พฤษภาคม ในระยะเวลาเพียง 5 เดือน ประเทศไทยมีภาพยนตร์เข้ามาถ่ายทำโดยมีมูลค่าสูงถึง 3,416 ล้านบาท
รัฐบาลเชื่อมั่นว่าด้วยความหลายหลากและสวยงามของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ถ่ายทำที่สวยงาม ศักยภาพทีมงานชาวไทยที่มีประสบการณ์ทำงานกับกองถ่ายระดับโลก การอำนวยความสะดวกของหน่วยงานภาครัฐ และที่สำคัญการมีมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำ (Incentive) ในรูปแบบการคืนเงินร้อยละ 20 จะส่งผลให้กองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศตัดสินใจเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2567 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตั้งเป้ารายได้จากกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ กว่า 7,500 ล้านบาท และหวังว่าจะเกิดกระแสการท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ระดับโลกที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยอย่างมหาศาลต่อไป”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย
รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่
ไทยบนเส้นทาง Data Center Hub: ปลดล็อคศักยภาพ สู่ "Digital Thailand" อย่างยั่งยืน
ปี 2567 นับเป็นปีแห่งจุดเปลี่ยนสำคัญบนแผนที่ Data Center โลก เมื่อยักษ์ใหญ่สายเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น AWS, Microsoft, Google ต่างประกาศลงทุนสร้าง Data Center ในประเทศไทย
ผู้สูงอายุไทยหลังเกษียณงานอายุ 60 ยังมีโอกาสทำงานต่อไปได้อีกกี่ปี?
ในปีพ.ศ. 2567 นี้ ประเทศไทยได้กลายเป็นสังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ประชากรคนไทยทั้งหมด 100 คน จะมีผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 20 คน และผู้สูงอายุเหล่านี้จะมีอายุขัยหรือชีวิตยืนยาวไป อีกประมาณ 21 ปี ช่วงชีวิตที่ยืนยาวต่อไปนี้
'ธี่หยด 2' สร้างประวัติศาสตร์ต่างแดน แฟนคลับ 'กัมพูชา' แห่ตอนรับสุดอบอุ่น
แรงดีไม่มีตกสร้างปรากฏการณ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับ ภาพยนตร์ “ธี่หยด 2” ที่ทุบสถิติในไทยไปแบบถล่มทลาย จากการจับมือกันของ ช่อง3 และ M Studio ล่าสุดกระแสความหลอนออกนอกประเทศ ทำลายสถิติให้ภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉายในหลายประเทศ โดยสด ๆ ร้อน ๆ ที่ประเทศลาว ก็สามารถทำรายได้ทะลุ 49,000 ล้านกีบ ขึ้นเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลที่ฉายใน ลาว ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว