‘สุริยะ’เล็งมอบนโนบาย ’วีริศ อัมระปาล’ผู้ว่า รฟท.คนใหม่ปิดจ๊อบสร้าง ‘รถไฟทางคู่ เฟส2- ไทยจีน ช่วง โคราช-หนองคาย’ให้ได้ในไตรมาส 1/68 เร่งถกสภาพัฒน์หาทางออกในการจัดหาขบวนรถไฟใหม่ 184 คัน หวังมาเสริมศักยภาพสร้างรายได้ให้ รฟท.
18 ก.ย.2567-นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติอนุมัติให้นายวีริศ อัมระปาล ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)คนใหม่นั้น ภายในต้นเดือน ต.ค.จะไปมอบนโยบายที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ซึ่งเป้าหมายหลักผู้ว่า รฟท.คนใหม่จะต้องหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้สินสะสมที่ รฟท.มีอยู่กว่า 230,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันเพื่อให้การทำงานสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในระบบราง โดยเฉพาะเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากทางถนนมาเป็นระบบราง ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ดังนั้นจึงมีโยบายที่จะให้ รฟท. เร่งเดินหน้าประกวดราคาหาเอกชนเข้ามาก่อสร้างในโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 6 เส้นทาง มูลค่า 298,060 ล้านบาท
นอกจากนี้ ได้เร่งโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีด) ไทย-จีน ช่วง โคราช-หนองคายระยะทาง 356 กิโลเมตร (กม.)รวมมูลค่าการลงทุน 341,351.42 ล้านบาท ให้ได้ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 68 ขณะเดียวกันให้ รฟท.เดินหน้าจัดหาเอกชนเข้ามารับสัมปทานเดินรถ รูปแบบ PPP ควบคู่สร้างงานโยธา นอกจากนั้นให้ รฟท. เร่งก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วง ตลิ่งชัน-ศิริราช-ศาลยา และ ช่วง รังสิต-ธรรมศาสตร์ และช่วง บางซื่อ-พญาไท-หัวหมาก และช่วง บางซื่อ-หัวลำโพง ขณะเดียวกันจะหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)ในเรื่องของความจำเป็นจัดหาขบวนรถจำนวน 184 คันมาวิ่งให้บริการ เพื่อรองรับการสร้างรถไฟทางคู่ ทั้ง เฟส1 และ เฟส 2
“ในปี 68 ประเทศไทย และประเทศจีน จะมีความสัมพันธ์ครบ 50 ปี ดังนั้น รฟท. จะต้องเร่งสร้างรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ทั้ง 2 ระยะ ให้แล้วเสร็จ เพื่อเชื่อมต่อOne Belt One Road อย่างเป็นรูปธรรม แบ่งเป็น ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-โคราช ระยะทาง250 กิโลเมตร (กม.) จำนวน 14 สัญญา ให้แล้วเสร็จตามแผน ซึ่งคาดว่า จะเปิดให้บริการได้ในช่วงกลางปี 71 ส่วนระยะที่ 2 ช่วงโคราช-หนองคายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเสนอให้ ครม. พิจารณาอนุมัติโครงการ และคาดว่า จะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 71 เช่นกัน”นายสุริยะ กล่าว
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ 2 รวม 6 เส้นทาง มูลค่า 298,060 ล้านบาท ประกอบด้วย ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. วงเงิน 81,143 ล้านบาท ,ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม.วงเงิน 30,422 ล้านบาท ,ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม.วงเงิน 66,270 ล้านบาท,ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม.วงเงิน 68,222 ล้านบาท ,ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 44,103 ล้านบาท ,ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม.วงเงิน 7,900 ล้านบาท
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ส่วนการให้บริการผู้โดยสารนั้น มอบหมายให้ รฟท. ยกระดับขบวนรถไฟ โดยการปรับปรุงขบวนรถไฟชั้น 3 (รถพัดลม) ให้เป็นขบวนรถปรับอากาศ (รถแอร์) เพื่อยกระดับการให้บริการพี่น้องประชาชน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลด้วย ทั้งนี้ จะสามารถทำให้ รฟท. มีรายได้จากการให้บริการขบวนรถไฟพาณิชย์ได้เพิ่มมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า อัตราค่าโดยสารจะไม่กระทบต่อกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้มีรายได้น้อยอย่างแน่นอน