'บัญชีกลาง' เตือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ข้อมูลหลอกลวงผู้รับบำนาญ

23 ก.ย. 2567 – นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมบัญชีกลางยังคงได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้รับบำนาญและประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง ว่ามีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกรมบัญชีกลาง ชื่อผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่ หลอกลวงว่ามีเงินที่ค้างรับจากกรมบัญชีกลางและให้ดำเนินการตามที่มิจฉาชีพแจ้ง ซึ่งบางรายต้องสูญเสียทรัพย์สิน ดังนั้น จึงขอเตือนผู้รับบำนาญและทายาท รวมทั้งประชาชนทั่วไป ให้ระมัดระวังมิจฉาชีพ โดยติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางการประชาสัมพันธ์ของกรมบัญชีกลางหรือช่องทางที่น่าเชื่อถือจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งรูปแบบและวิธีการที่มิจฉาชีพใช้หลอกลวงผู้รับบำนาญและประชาชน มีหลายรูปแบบที่ทำให้หลงเชื่อ เช่น โทรศัพท์สอบถามและแจ้งข้อมูลส่วนตัว และให้ดำเนินการต่าง ๆ เช่น ปรับปรุงบัญชีธนาคาร แจ้งให้ติดต่อขอรับบำนาญตกค้าง แจ้งให้ติดต่อขอรับเงิน ช.ค.บ. แจ้งให้สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์เพิ่มเพื่อนและอัปเดตข้อมูลผ่านไลน์ ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน โดยใช้ชื่อ Digital Pension สแกนใบหน้า และกดลิงก์ต่าง ๆ เป็นต้น

“กรมบัญชีกลางได้รับการประสานงานจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ว่าได้จับกุม   แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ สภ. ศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยมีสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เข้าร่วมตรวจสอบขยายผลข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพบว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีลักษณะคล้ายกับข้อมูลผู้รับบำเหน็จบำนาญในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่คนร้ายใช้กระทำผิด เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน  โดย สคส. ได้ประสานกรมบัญชีกลางให้ตรวจสอบข้อมูลและได้ร่วมประชุมกัน เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 และอยู่ระหว่างการตรวจสอบกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ดำเนินการตามคำแนะนำของ สคส. โดยการแจ้ง   เหตุละเมิดให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจได้รับผลกระทบทราบเป็นรายบุคคลแล้ว และจากการตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับจาก สคส. จำนวน 23,089 รายการ พบว่าข้อมูลดังกล่าวบางส่วนคล้ายกับข้อมูลที่กรมบัญชีกลางมีไว้ครอบครอง และไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำข้อมูลจากหลายแหล่งมาเชื่อมโยงกันก่อนการทำการหลอกผู้เสียหาย และชุดข้อมูลดังกล่าวไม่ได้รั่วไหลไปจากการเจาะระบบของกรมบัญชีกลางแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เมื่อได้ผลการตรวจสอบแล้ว จะแจ้งให้ทราบต่อไป” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว  อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมบัญชีกลางตระหนักและให้ความสําคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยถือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งได้ยกระดับมาตรการในการดูแลรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยได้ทำการตรวจสอบระบบของกรมบัญชีกลางในปีที่ผ่านมาตามขั้นตอนและกระบวนการความมั่นคงและปลอดภัยตามมาตรฐาน ISO 27001-2022 รวมถึงการกำหนดมาตรฐานควบคุมทั้งทางด้าน Network & Security ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางขอให้ทุกท่านระมัดระวังการแอบอ้างเพื่อขอข้อมูล หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน  เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียต่อทรัพย์สิน และขอเน้นย้ำว่ากรมบัญชีกลางไม่มีนโยบายติดต่อหาข้าราชการผ่านโทรศัพท์ ไลน์ หรือสื่อโซเซียลใดๆ ทั้งนี้ หากเจ้าของข้อมูลที่ถูกละเมิดได้รับการแจ้งเป็นหนังสือจากกรมบัญชีกลางอย่างเป็นทางการแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตือน ‘โจรออนไลน์’ สร้างบัญชีปลอม ‘ธนาคารออมสิน’ เปิดให้สินเชื่อระวังสูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล 

ดีอี เตือน “โจรออนไลน์” สร้างบัญชีปลอม “ธนาคารออมสิน” เปิดให้สินเชื่อ ผ่าน TikTok  หวั่นสูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล

รบ.อวดรัฐบาลปราบอาชญากรรมออนไลน์ลดฮวบ 21%

รบ. เผย ตัวเลขอาชญากรรมออนไลน์ลดฮวบปี 67 ลดลง 21.74%  รัฐสั่งคุมเข้มแพลตฟอร์มดิจิทัล ให้ปลอดภัยขึ้นภายใต้กฎหมาย DPS คาดปีนี้ ต้องลดให้ได้อย่างน้อย 70%

ดีอี เตือนภัย 'โจรออนไลน์' อ้างชื่อธนาคารหลอกลวงเหยื่อ

ดีอี เตือนภัย “โจรออนไลน์” เปิดบัญชีปลอม “ธ.ก.ส. ร่วมกับ กสิกร ปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ลงทะเบียนผ่าน TikTok” เสี่ยงสูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล

ตำรวจตีแผ่ 5 กลลวงมิจฉาชีพ หลอกทำงานชายแดน

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้หน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการป้องกัน