'สุริยะ' เร่งเครื่องสั่ง ขร.สรุปโปรเจกต์สายสีแดง

‘สุริยะ’ มอบ ‘กรมราง’ สรุปโปรเจกต์รถไฟฟ้าสายสีแดง ‘ศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา’ วงเงิน 1.5 หมื่นล้าน คาดเสนอ สลค. สัปดาห์หน้า เข้า ครม. เคาะ เม.ย.นี้ ชี้หากไฟเขียวเริ่มก่อสร้าง ม.ค.ปีหน้า เปิดบริการปี ม.ค.72

12 มี.ค. 2568 – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ได้ส่งความคิดเห็นโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กลับมายังกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยเห็นชอบให้เสนอโครงการฯ ไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อพิจารณาได้ ซึ่งขณะนี้ถือว่ากระทรวงคมนาคมได้รับความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯ ครบทั้ง 3 หน่วยงานแล้ว ได้แก่ สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และกระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ ได้มอบให้กรมการขนส่งทางราง(ขร.) จัดทำสรุปโครงการฯ เพื่อเตรียมเสนอ ครม. พิจารณา เบื้องต้นคาดว่า ขร. จะเสนอกลับมากระทรวงคมนาคมภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นคาดว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถเสนอเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) เพื่อบรรจุวาระเข้าพิจารณาในการประชุม ครม. อย่างไรก็ตามตามขั้นตอนปกติในการเสนอเรื่องเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม. ทาง สลค. ต้องส่งโครงการฯ เพื่อสอบถามความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่เพียงแต่สำนักงบประมาณ สศช. และกระทรวงการคลังเท่านั้น แต่ยังมีหน่วยงานอื่นๆ อาทิ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาใด และจะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.2568 ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม. ในเดือน เม.ย.2568

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า ทั้ง 3 หน่วยงานไม่ได้ขัดข้อง แต่มีข้อเสนอแนะไปในทางเดียวกันว่า ควรจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงด้วย เพื่อไม่ให้การก่อสร้างเกิดความล่าช้าเหมือนการก่อสร้างช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่ใช้เวลาประมาณ 10 ปี สำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา มีระยะทาง 20.5 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 15,176.21 ล้านบาท โครงการนี้มาจากการมัดรวม 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา และช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช เข้าด้วยกัน ตามมติคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. เพื่อจัดซื้อจัดจ้างเป็นสัญญาเดียว และไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนที่สถานีตลิ่งชัน ตลอดจนงานระบบต่างๆ

ทั้งนี้ การมัดรวม 2 ช่วงทำให้ลดวงเงินโครงการได้ 110.06 ล้านบาท เนื่องจากการรวมเป็นสัญญาเดียวช่วยลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เหลือเพียงรายการเดียวได้ อาทิ ค่าที่ปรึกษาควบคุมงาน ค่าก่อสร้างที่พัก และสำนักงานก่อสร้าง นอกจากนี้ยังช่วยให้การบริหารจัดการโครงการง่ายกว่าการแยกเป็น 2 โครงการ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จึงต้องเสนอ ครม. พิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเบื้องต้น รฟท. คาดว่า หาก ครม.เห็นชอบในเดือน เม.ย.2568 จะสามารถเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาหาผู้รับจ้าง ที่ปรึกษาคุมงาน และที่ปรึกษาอิสระ ได้ประมาณเดือน พ.ค.2568 โดยจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 8 เดือน คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในเดือน ม.ค.2569 ระยะเวลาดำเนินการ 36 เดือน หรือประมาณ 3 ปี เปิดบริการประมาณเดือน ม.ค.2572