ลุ้นเปิดสะพานไทย-ลาวแห่งที่ 5 'บึงกาฬ-บอลิคำไซ' ปลายปี86

ได้ฤกษ์ ‘สุริยะ’ ร่วมเทคอนกรีตเชื่อมสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่5 ‘บึงกาฬ-บอลิคำไซ’ คืบหน้า 98% ปักธงเปิดใช้สัญจรภายในปี 68 หนุนมูลค่าการค้าชายแดนโตต่อเนื่อง ดันการสัญจรเพิ่ม 5% ต่อปี พร้อมจัดแผนโครงการสะพานมิตรภาพแห่งที่ 6 เชื่อมจังหวัดอุบลราชธานี – แขวงสาละวัน

6 มิ.ย.2568 – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม พร้อมด้วย ท่านสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเทคอนกรีตเชื่อมสะพานและพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยกรรมสิทธิ์ การใช้ การบริหาร และการบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) ณ จังหวัดบึงกาฬ และลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้าง ทล.212 สายโพนพิสัย – บึงกาฬ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมโยงระบบคมนาคมระหว่างไทย สปป.ลาว และเวียดนาม ยกระดับการเดินทาง การขนส่งและโลจิสติกส์

สำหรับ สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) คืบหน้า 98%คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน นี้ และจะเปิดให้ใช้บริการเต็มรูปแบบภายในเดือน ธันวาคม 2568 โดยภายหลังจากการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 จะสนับสนุนให้มูลค่าการค้าชายแดน ไทย – สปป.ลาว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากขณะนี้มีมูลค่ากว่า 28,000 ล้านบาท โดยสะพานแห่งนี้จะเชื่อมต่อไปยังเส้นทางโลจิสติกส์สำคัญ รวมถึงท่าเรือน้ำลึกของเวียดนามได้อีกด้วย อีกทั้งยังประเมินว่าปริมาณการจราจรในบริเวณดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอีก 5% ต่อปี ดังนั้นสะพานแห่งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงร่วมกัน

“สะพานแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งภายใต้ยุทธศาสตร์และแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย ยกระดับระบบโลจิสติกส์ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเป้าหมายในการสร้างรากฐานความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม ความปลอดภัยในการเดินทาง มุ่งเน้นการเชื่อมโยงและความคล่องตัวในการขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้านไปสู่ศูนย์กลางของภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ โครงการนี้ยังสอดรับกับกรอบความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาค ได้แก่ กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง”นายสุริยะ กล่าว

นอกจากนี้ ราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีการเชื่อมโยงผ่านสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงขนาดใหญ่แห่งแรก ระหว่างจังหวัดหนองคายและนครหลวงเวียงจันทน์ ในปี 2537 ต่อมาที่มุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขต นครพนมและแขวงคำม่วน และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงรายกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว และในวันนี้เรากำลังจะเชื่อมสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 โดยเชื่อว่าการพัฒนาการเชื่อมโยงระหว่างประเทศยังมีการเติบโตพัฒนามากขึ้นแบบไม่หยุดยั้ง สำหรับในอนาคตอันใกล้ยังมีแผนจะดำเนินโครงการสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 6 เชื่อมจังหวัดอุบลราชธานีกับแขวงสาละวัน ซึ่งจะช่วยเติมเต็มโครงข่ายคมนาคมตามแนวระเบียงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 ไม่ใช่เพียงแค่โครงสร้างทางกายภาพ หากแต่เป็นสะพานแห่งมิตรภาพ ความหวัง และอนาคตร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ ทั้งยังเป็นเส้นทางเชื่อมโยงความเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวจังหวัดบึงกาฬและแขวงบอลิคำไซ ตลอดจนเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวให้มั่นคงสืบไป

“ขอขอบคุณหน่วยงานทุกภาคส่วนของทั้งสองประเทศ ที่ได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อผลักดันโครงการให้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมืออันดีมาโดยตลอด แม้จะเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์โรคระบาดที่รุนแรง การเทคอนกรีตเชื่อมสะพานในวันนี้ เป็นเครื่องยืนยันว่าความร่วมมือของเรากำลังจะบรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในช่วงปลายปีนี้ ทั้งสองประเทศมีเป้าหมายจะเปิดใช้งานสะพานอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและ สปป.ลาว” นายสุริยะ กล่าว

ด้าน นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวเพิ่มเติมว่า สะพานดังกล่าวเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2563 และคาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดให้ประชาชนได้ใช้สัญจรภายในปี 2568 โดยโครงการสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 เป็นโครงการฯ เชื่อมต่อกับ ทล.222 อำเภอเมืองบึงกาฬกับถนนสาย 13 เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ ภายหลังพิธีเทคอนกรีตเชื่อมสะพาน กรมทางหลวงจะเตรียมความพร้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการอนุญาตข้ามแดนต่อไป

เพิ่มเพื่อน