คมนาคมจี้หน่วยงานในสังกัดเร่งเบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ 95% ตามเป้ารัฐบาล 

 “ศักดิ์สยาม” นั่งหัวโต๊ะ ตรวจงานเบิกจ่ายงบประมาณปี65 กำชับหน่วยงานรัฐ-รัฐวิสาหกิจเร่งรัดการลงนามในสัญญา-เบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลให้ได้ 95% ตามเป้าหมายของรัฐบาล 

11 ก.พ. 2565 – นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมเร่งรัดติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2565 ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ว่าการประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมติดตามการดำเนินงาน การลงนามในสัญญา เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 2565 ของหน่วยงานในสังกัดให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้ตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีผลการเบิกจ่าย  

ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้รับจัดสรรงบประมาณแผ่นดินปี 2565 ใน 8 ส่วนราชการ 5 รัฐวิสาหกิจในภาพรวม จำนวน 208,455.23 ล้านบาท แบ่งเป็น รายจ่ายประจำ 26,076.73 ล้านบาท หรือ 12.51% และรายจ่ายลงทุน 182,378.50 ล้านบาท หรือ 87.49  โดยในส่วนของงบรายจ่ายลงทุน ณ สิ้นเดือน ม.ค. 2565 มีการเบิกจ่ายเงินแล้ว 32,752.39 ล้านบาท หรือ 17.96% ของงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) เมื่อเปรียบเทียบกับผลการเบิกจ่ายเงิน     ณ สิ้นเดือน ม.ค. 2564 สามารถเบิกจ่ายเงินได้มากขึ้น 13,459.55 ล้านบาท หรือ 7.38%ของงบประมาณ   ที่ได้รับจัดสรร) 

สำหรับการลงนามในสัญญารายจ่ายลงทุน กระทรวงคมนาคมมีรายการที่จะต้องลงนามในสัญญารายการปีเดียว จำนวน 7,612 รายการ วงเงิน 77,846.70 ล้านบาท ลงนามในสัญญาแล้ว 5,776 รายการ วงเงิน 51,773.18 ล้านบาท คาดว่าจะลงนามในสัญญาได้ครบทุกรายการในเดือน ก.พ. 2565 ส่วนรายการผูกพันใหม่ จำนวน 138 รายการ วงเงิน 2,876.06 ล้านบาท ลงนามในสัญญาแล้ว 20 รายการ วงเงิน 145.21 ล้านบาท  คาดว่าจะลงนามในสัญญาได้ครบทุกรายการภายในเดือนเมษายน 2565  

ทั้งนี้ในส่วนของงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ปี 2565 ใน10 รัฐวิสาหกิจ วงเงินรวม 117,576.61 ล้านบาท มีแผนการเบิกจ่ายเงิน วันที่1 ตุลาคม 2564 – 31 มกราคม 2565 จำนวน 15,734.97 ล้านบาท ซึ่ง ณ สิ้นเดือนมกราคม 2565 เบิกจ่ายเงินแล้ว 13,566.07 ล้านบาท หรือ 86.22% ของแผนเบิกจ่ายสะสม โดยรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่สามารถเบิกจ่ายเงินได้ตามแผนที่กำหนดไว้ 

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่าได้กำชับให้หน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน ปี 2565 เร่งรัดการลงนามในสัญญาให้ครบทุกรายการโดยเร็ว และเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล รายจ่ายภาพรวม 93% และรายจ่ายลงทุน  75% และในส่วนของงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ขอให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจเร่งรัดเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามแผนการเบิกจ่ายเงินในแต่ละเดือน เพื่อที่จะให้ผลการเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล 95% ภายในเดือนกันยายน 2565 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดคำวินิจฉัย ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย ชี้ความเป็นรมต. 'ศักดิ์สยาม' ไม่สิ้นสุดลง

จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 7 ต่อ 1 เสียง ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5)

ภูมิใจไทยรอด! 'นักวิชาการ' ชี้เป็นความผิดส่วนบุคคล ส่วนเงินบริจาคไม่ผิดกฎหมาย

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้ความเห็นต่อโอกาสยุบพรรคภูมิใจไทย จากความผิดของเลขาธิการพรรคว่า

ซ้ำอีกดอก! 'พี่ศรี' จ่อร้อง กกต.กรณี ซุกหุ้น 'ศักดิ์สยาม-ภูมิใจไทย' ต้องถึงยุบพรรคหรือไม่

นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 7 ต่อ 1 ให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รม

อนุกกต.เรียกหจก. บุรีเจริญ แจงบริจาคเงินเข้าภูมิใจไทย

ผู้สี่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อเดือนมี.ค. 66 ก่อนการเลือกตั้ง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นคำร้องต่อกกต.ขอให้ยุบพรรคภูมิใจไทย โดยอ้างเหตุว่า นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ มีพฤติการณ์เป็นนอมินีถือหุ้นในหจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่นแทนนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​คมนาคม และทั้งนายศุภวัฒน์ หจก. บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น บริษัทศิลาชัย บุรีรัมย์ จำกัด ได้มีการบริจาคเงินเข้าพรรคภูมิใจไทยตั้งแต่ปี 2561-2565 รวมจำนวนหลาย 10 ล้านบาท เงินบริจาคดังกล่าว จึงอาจเข้าข่ายขัดมาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 นั้น