คลังเกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' หวั่นบานปลายราคาน้ำมันพุ่ง 6 บาท

“คลัง”เกาะติดสถานการณ์ตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครน ลุ้นจบลงด้วยดี ด้าน “หอการค้าไทย” หวั่นเหตุการณ์บานปลาย ดันราคาน้ำมันไทยพุ่งอีก 6 บาท

24 ก.พ. 2565 – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า ผลจากกรณียูเครน รัสเซีย ต้องติดตามสถานการณ์ ไม่อยากเห็นเหตุการณ์บานปลาย ซึ่งจะส่งผลต่อราคาน้ำมันขยับตัว ซึ่งขณะนี้อยู่ในกรอบ 90-100 ดอลลาร์ต่อบาเรล ยังอยู่ในขอบเขตที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบริหารจัดการไม่ให้ดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตรได้ กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิตที่ผ่านมาก็เข้าไปช่วยในเรื่องของภาษี ขณะที่นักท่องเที่ยวจากรัสเซีย ยูเครน ก็มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก ถ้าเกิดความตึงเครียดรุนแรง ก็จะส่งผลกระทบต่อไทยอยู่บ้าง

“สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากความขัดแย้งของรัสเซีย และยูเครน แต่เชื่อว่าจากความพยายามของทุกฝ่ายน่าจะทำให้เรื่องจบลงด้วยดี ไม่น่าเกิดความรุนแรงจนนำไปสู่การสู้รบ ซึ่งหากสถานการณ์จบลงด้วยดีก็จะส่งผลดีต่อทิศทางราคาน้ำมัน โดยปีนี้คาดว่าราคาน้ำมันจะอยู่ที่ระดับ 90-100 ดอลล่าร์ต่อบาเรล” นายอาคม กล่าว

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์การรัสเซีย-ยูเครนในขณะนี้จะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น โดยทุก 1 ดอลลาร์ต่อบาเรล จะทำให้ราคาน้ำมันในไทยปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร และกรณีเลวร้าย หากเกิดสงคราม คาดว่าราคาน้ำมันจะปรับขึ้นถึง 120 ดอลลาร์ต่อบาเรล และจะกระทบต่อราคาน้ำมันถึง 6 บาทต่อลิตร

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนมองว่า คงไม่เกิดกรณีเลวร้ายแน่นอน เพราะคงไม่มีใครอยากให้เกิดสงคราม และจากการติดตามสถานการณ์และพูดคุยกับนักธุรกิจที่อยู่ในยูเครน ยังพบว่า สถานการณ์ไม่เลวร้ายอย่างที่หลายฝ่ายเป็นกังวล

“ภาคเอกชน ยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 3.5 – 4%แต่ยังคงเสนอให้รัฐบาลอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ผ่านการขยายเวลามาตรการช้อปดีมีคืน และเพิ่มวงเงินในโครงการคนละครึ่งด้วย” นายสนั่น กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โออาร์-บางจากขึ้นราคาเบนซิน 40 สตางค์/ลิตร

บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) และ บมจ.บางจาก ได้มีการประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันราคาเบนซินและกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 40 สตางค์/ลิตร