'แอฟฟิโนม' ชุดตรวจ ATK แบรนด์ไทย ผ่านอย. แม่นยำ 96%

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ  หรือ NIA ร่วมกับบริษัท แอฟฟิโนม จำกัด แถลงความสำเร็จพัฒนาชุดตรวจหาแอนติเจนที่จำเพาะกับเชื้อไวรัสโควิด แบรนด์ แอฟฟิโนม (AFFINOME) เพื่อลดปัญหาการเข้าถึงการตรวจหาเชื้อ

 

25 ต.ค.2564- สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับบริษัท แอฟฟิโนม จำกัด แถลงข่าวชุดตรวจหาแอนติเจนที่จำเพาะกับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แบรนด์ แอฟฟิโนม (AFFINOME) เพื่อลดปัญหาการเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิด19 และเป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมกลับสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น

วิเชียร สุขสร้อย รองผู้อำนวยการด้านเศรษฐกิจและสังคม NIA กล่าวว่า ยังคงมีจุดมุ่งหมายในการเดินหน้าสนับสนุนนวัตกรรมด้านการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนวัตกรรมเพื่อป้องกันหรือลดการระบาดของเชื้อโควิด19 ที่ปัจจุบันประเทศไทยยังมีผู้ป่วย หรือผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อดังกล่าวในปริมาณที่สูง เพื่อให้เข้าถึงภาคประชาชน กลุ่มโรงพยาบาล – บุคลากรทางการแพทย์ และลดปัญหาการเข้าถึงภาคบริการสาธารณะ ซึ่งขณะนี้ชุดตรวจ ATK กำลังเป็นที่ต้องการ เนื่องจากมาตรการคลายล็อกดาวน์ การเปิดประเทศทำให้หลาย ๆ กิจกรรมเริ่มกลับมาเป็นปกติมากขึ้น

“ทาง NIA จึงได้มีการสนับสนุนเงินทุนในการผลิตชุดตรวจหาแอนติเจนที่จำเพาะกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของแบรนด์ แอฟฟิโนม ภายใต้วงเงิน 2,800,000 บาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตชุดตรวจฯ ภายในประเทศ รวมถึงลดต้นทุนการนำเข้า พร้อมทั้งผลักดันภาคส่วนต่าง ๆ ให้เข้าถึงนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพและได้รับผลการตรวจที่แม่นยำ ตลอดจนช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงชุดการตรวจที่สามารถตรวจหาเชื้อได้ด้วยตนเอง” รอง ผอ.NIA กล่าว

รอง ผอ.NIA กล่าวอีกว่า นวัตกรรมที่ผลิตชุดตรวจ19 ดังกล่าวเป็นการพัฒนาแอนติบอดีที่มีความจำเพาะต่อ N-Protein ของไวรัส ARS-CoV-2 ด้วยเทคโนโลยีการผลิตโมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody) เซลล์ไฮบริโดมา (hybridoma cell) ที่นำมาพัฒนาเป็นชุดตรวจแบบรวดเร็ว (rapid test kit) สามารถทราบผลได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว 15 นาที ถึงแม้ความแม่นยำอาจจะไม่เท่า RT-PCR แต่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือก และมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศถึง 50 บาท และได้ผ่านการขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในส่วนการตรวจหาเชื้อโควิด19 กลายพันธุ์ในอนาคต รอง ผอ.NIA อธิบายว่า เนื่องจากชุดตรวจนี้เป็นการนำเชื้อโควิดที่มีการแพร่ระบาดในไทยที่มีจำเพาะสูงมาพัฒนาทำให้ตามทันลักษณะของเชื้อหลักที่มีการระบาดในขณะนี้ ซึ่งหากโควิดมีการกลายพันธุ์อาจจะต้องมีการสกัดโปรตีนจากเชื้อกลายพันธุ์มาใส่กับแอนติบอดีใหม่ เพื่อให้รองรับการตรวจเชื้อกลายพันธุ์นั้นๆ

ทั้งนี้ในช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการนำร่องการกระจายชุดตรวจ ATK จำนวน 20,000 ชุด ไปยังกลุ่มโรงพยาบาล อสม. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ รพ.สต.บางเสร่ รพ.สต.วังลึก สำนักงานเทศบาลเมืองชลบุรี ศูนย์บริหารจัดการจังหวัดชายแดนใต้ สำนักงานสาธารณสุขทั้ง 4 จังหวัดชายแดนใต้ ฯลฯ ตลอดจนกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องมีการรักษาอาการภายใต้ระบบ Home – Isolation นอกจากนี้ยังมีแผนในการส่งมอบชุดตรวจ ATK ในระบบคิวคิว (QueQ) สำหรับการลดปัญหาความแออัดของการให้บริการภายใต้สถานการณ์ COVID-19 ในโรงพยาบาลกว่า 10 จังหวัดของภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถลดการนำเข้าจากต่างประเทศได้กว่าเดือนละ 8 แสนชุดภายในปี 2565

ด้านดนัย ประพันธ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอฟฟิโนม จำกัด ผู้พัฒนาชุดตรวจหาแอนติเจนที่จำเพาะกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 “แอฟฟิโนม” ให้ข้อมูลว่า การพัฒนาชุดตรวจ ATK แอฟฟิโนม เป็นผลการพัฒนาจากโครงการงานวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ผ่านการวิจัยและการประเมินประสิทธิภาพทางคลินิกตามเกณฑ์มาตรฐานของ อย. โดยขณะนี้เราได้เจรจาขออนุญาตใช้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวจากทางม.มหิดลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าวเป็นชุดตรวจแบบง่ายและรวดเร็วด้วยใช้หลักการอิมมูโนโครมาโตกราฟี ที่มีกลไกการทำงานคล้ายกับชุดตรวจการตั้งครรภ์ แต่วัตถุประสงค์เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดในตัวอย่างหลังโพรงจมูกจากผู้ป่วย

ส่วนจุดเด่นของชุดตรวจ ATK แอฟฟิโนม คือ 1.คุณภาพความแม่นยำของชุดตรวจนั้นมีความไวถึง 96% ความจำเพาะ 100% ค่าทำนายผลบวก (Positive Predictive Value) เท่ากับ 95.91% และค่าทำนายผลลบ (Negative Predictive Value) เท่ากับ 98.01% ผ่านการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างมาแล้วจำนวน 200 ราย ซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพและผลคลาดเคลื่อนในอัตราที่ต่ำมาก 2.น้ำยาทดสอบสามารถฆ่าเชื้อได้ ทำให้เมื่อนำไปทิ้งจะไม่สามารถแพร่กระจายเชื้อ และมีถุงซิปไว้สำหรับบรรจุขยะติดเชื้อต่าง ๆ ที่เกิดขั้น จึงปลอดภัยทั้งกับผู้ใกล้ชิดและผู้ที่อาจสัมผัสสิ่งส่งตรวจ รวมถึงพนักงงานเก็บขยะ และ3.ก้าน swab เป็นแบบสั้น ช่วยลดความกังวลในผู้ตรวจบางรายที่กลัวในเรื่องอาการบาดเจ็บจากชุดตรวจบางประเภทที่มีก้านที่ยาวเกินไป และสามารถหักก้าน swab แล้วทิ้งตัวปลายอยู่ในหลอดน้ำยาได้เลย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้มีการตั้งราคาขายชุดตรวจ ATK แอฟฟิโนมอยู่ประมาณ 100-150 บาท จำหน่ายทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ให้กับบริษัทตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ อาทิ โรงพยาบาล คลินิก ร้านขายยากรุงเทพ ฯลฯ ซึ่งราคาที่ประชาชนซื้อขึ้นอยู่กับตัวแทนจำหน่าย ส่วนในอนาคตหากมีการผลิตได้มากขึ้นก็จะมีการปรับราคาให้ถูกลงอย่างแน่นอน ส่วนในด้านกำลังในการผลิต ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 100,000 – 120,000 ชุดต่อเดือน และทางบริษัทกำลังมีการวางแผนสั่งซื้อเครืองอัตโนมัติเพิ่มเติมคาดว่าต้นปีหน้าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 200,000 ชุดต่อเดือน

ดนัย กล่าวเสริมว่า ขณะนี้มีแผนจะขยายโรงงานไปในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมการแพทย์สมัยใหม่ และเป็น 1 ใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล ที่จะได้รับการสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ ในระดับที่สูง ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผน คาดว่าจะช่วยในเรื่องกำลังการผลิตที่อาจเพิ่มได้สูงถึง 600,000 – 800,000 ชุดต่อเดือน ซึ่งจะเพียงพอต่อการตรวจหาเชื้อในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยมีการเปิดประเทศและเปิดรับการลงทุนอย่างเต็มรูปแบบอย่างแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อึ้ง! รองโฆษกรัฐบาลออกมาการันตี 'ยาย้อมผม'

'คารม' เผย อย.สร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภค ระบุยาย้อมผม มีเลขที่ใบรับจดแจ้ง ใช้ชนิดและปริมาณสารเคมีตามมาตรฐานสากล มีความปลอดภัย ย้ำยังไม่มีงานวิจัยชี้ชัดเป็นอันตรายต่อตับหรือไต

สธ. หารือแนวทางเยียวยาผู้ใช้ยาลดความดันโลหิตสูง 'เออบีซาแทน' ปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สั่งเรียกคืนยารักษาโรคความดันโลหิตสูง “เออบีซาแทน” (Irbesartan) ที่จำหน่ายจากบริษัทผู้ผลิต เนื่องจากยาบางรุ่นการผลิต พบการปนเปื้อนสารที่อาจก่อมะเร็งเอแซดบีทีใน

IRPC ได้รับการชูเกียรติให้เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรม จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

คุณอนุชา สมจิตรชอบ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์นวัตกรรมไออาร์พีซี บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เป็นผู้แทนรับมอบเข็มที่ระลึกและประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติ