บพท. จับมือสถาบันการศึกษา 16 แห่ง ปลดแอกคนจน 40,000 ราย 20 จังหวัด

26 ม.ค.65-นายกิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า บพท. ได้ร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษา 16 แห่งทั่วประเทศ ดำเนินการตรวจค้นผู้เดือดร้อนมาแล้วใน 20 จังหวัดต้นแบบทำให้พบว่ามีผู้ประสบความยากลำบากไม่ได้รับความช่วยเหลือถึง 400,000 คน ครอบคลุมความจนหลากมิติ เช่นด้านการเงิน อาชีพ ที่อยู่อาศัยและสุขภาวะ


“บพท. ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ทำงานบนฐานข้อมูล TPMAPและได้พบว่ายังมีคนจนยากไร้อีกจำนวนหนึ่งที่ไม่อยู่ในฐานข้อมูล Big data ดังกล่าว บพท.จึงได้ออกแบบระบบข้อมูลซึ่งมีลักษณะเป็น Deep data ใช้ชื่อว่า “PPPconnext”ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่ในการสอบทานและยืนยันเป้าหมายโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาคมพื้นที่ทั้งขบวน ประกอบด้วยองค์กรชุมชน ประชาสังคม ท้องถิ่น ท้องที่สถาบันวิชาการ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทำให้สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน นำไปสู่การแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรงจุด ตรงประเด็นและทันท่วงที ภารกิจนี้สะท้อนบทบาทสำคัญของมหาวิทยาลัยพัฒนาพื้นที่ในการร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะมีความพร้อมทั้งในด้านบุคลากร ข้อมูล ความรู้ เทคโนโลยี และกลไกภาคีเครือข่าย”


ในช่วงปีงบประมาณ 2563 – 2564 บพท. ได้มีการดำเนินแผนงานวิจัยการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่นำร่อง 20 จังหวัดที่มีรายได้ภาคครัวเรือนต่ำที่สุดจากข้อมูลดัชนีความก้าวหน้าของคนปี 2562 ซึ่งแบ่งเป็นจำนวน 10 จังหวัดในปี2563 ประกอบด้วย ปัตตานี อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน ชัยนาท สุรินทร์ ยโสธร ศรีสะเกษ สกลนคร มุกดาหาร กาฬสินธุ์และ 10 จังหวัดในปี 2564 ได้แก่ บุรีรัมย์ นราธิวาส อุบลราชธานี ลำปาง พัทลุง นครราชสีมา ร้อยเอ็ด พิษณุโลก เลยและยะลา ทั้งนี้ จากระบบการสอบทานอย่างละเอียด พบข้อมูลคนยากจน 7.8 แสนคนเพื่อส่งต่อเข้าระบบความช่วยเหลือขององค์กรภาครัฐ

ในปี 2565 จึงเป็นการทำงานต่อยอดกระบวนการถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาอาชีพ/ยกระดับคุณภาพชีวิต โดยมีเป้าหมายในการช่วยเหลือคนจนไม่น้อยกว่า10,000 ครัวเรือน รวม 40,000 คน ซึ่งคนเหล่านี้ส่วนหนึ่งจะเข้าสู่ระบบสวัสดิการภาครัฐ และอีกส่วนหนึ่งทาง บพท.จะพัฒนาโมเดลแก้จนโดยร่วมมือกับสถาบันวิชาการ และกลไกภาคี วิเคราะห์ศักยภาพคนจนกลุ่มเป้าหมายวิเคราะห์เทคโนโลยีความรู้พร้อมใช้ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งด้านการเกษตร การแปรรูป การตลาด วิสาหกิจชุมชนการพัฒนาระบบการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อม ฯลฯซึ่งในขณะนี้ได้ประมวลเป็นโมเดลแก้ไขปัญหาความยากจนในหลากหลายรูปแบบ ที่สอดคล้องกับบริบทภูมิสังคม เช่นกลุ่มสมุนไพร กลุ่มสิ่งแวดล้อม กลุ่มพัฒนาอาชีพ กลุ่มคลังแรงงาน กลุ่มสวัสดิการชุมชน เป็นต้น

“ทั้งนี้ สมุนไพรเป็นหนึ่งในสาขาเศรษฐกิจสำคัญในแผนหลักของประเทศ และสอดรับกับวาระแห่งชาติ BCG ดังนั้น บพท.และมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการจึงเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ เพราะเป็นการพัฒนาบนทุนเดิมของชุมชนโดยจะทำเป็นตัวอย่าง ซึ่งเมื่อนำความรู้ไปช่วยสำเร็จแล้ว ก็สามารถยกระดับเศรษฐกิจ ตลอดห่วงโซ่การผลิตซึ่งคนจนจะอยู่ในห่วงโซ่ได้ทั้งระดับต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ขึ้นกับศักยภาพของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันโดยมีกลไกภาคีสนับสนุน”


สำหรับสถาบันอุดมศึกษา 16 แห่ง ที่ประสานความร่วมมือกับ บพท. เพื่อบรรลุเป้าหมายในการปลดแอก 40,000 คนให้พ้นจากความยากจน ได้แก่ วิทยาลัยชุมชนมุกดาหาร วิทยาลัยชุมชนชัยนาท วิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอนวิทยาลัยชุมชนยโสธร มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนครมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ศุภมาส’ ยัน ไม่ได้หนีอุเทนถวาย หลังมีคำสั่งให้ ขรก. เวิร์คฟรอมโฮม

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) กล่าวก่อนการป

ปชป. แนะทางสว่าง! เตือนรัฐบาลหยุดยุ่มย่ามแบงก์ชาติ

ปชป. เตือนรัฐบาล รักษาระยะห่างหยุดยุ่มย่ามแบงก์ชาติ มัวแต่หมกมุ่นแจกเงินดิจิทัล แนะเร่งช่วยเหลือคนจน-กลุ่มเปราะบางก่อน ทำได้ทันทีใช้งบเพียง 2 แสนล้านบาท

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงาน'วันนักประดิษฐ์'

2 ก.พ.2567 - เวลา 09.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ทรงเปิดงาน "วันนักประดิษฐ์" ประจำปี 2567 และพระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้ได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ