'มิ้วกี้ ไปรยา' เปิดใจรักครั้งใหม่-ชอปปิ้งบำบัดวันละ 10 ล้าน?!

คุณแม่สุดแซ่บ มิวกี้ ไปรยา เปิดใจครั้งแรกกับความรักครั้งใหม่กับหนุ่มสาย ฝ. ย้ำสถานะตอนนี้โสด รับมีคนในวงการทุกแขนงไดเร็คมาจีบเยอะ เผยตอนเจอมรสุมถึงขั้นโรคซึมเศร้ากำเริบ น้ำหนักลดฮวบ พร้อมเคลียร์เรื่องเงินปัดใช้ของสามี ช้อปปิ้งบำบัดวันละ 10 ล้าน? ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องOne31 ที่มี เป็กกี้ ศรีธัญญา และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

สถานะตอนนี้?
มิวกี้ : โสดค่ะ

ฮอตมาก?
มิวกี้ : มีบ้างนิดหน่อย มีไดเร็คมาหลายคน เกิน 10 ค่ะ

หนึ่งในนั้นมีศิลปินดาราด้วย?
มิวกี้ : ใช่ค่ะ ก็หลายคนอยู่นะ มีหมดเลยทุกแขนง รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ก็ยังไม่ได้โดนใจ ไม่ใช่ทุกคนไม่ดีทุกคนก็น่ารัก ไม่ได้จู่โจมขนาดน่ากลัวก็แค่ทักทาย ทานข้าวกันมั้ย แต่ว่าก็ยังไม่กล้าไปไหนกับใครเท่าไหร่ก็ยังกลัวอยู่

อักษรย่อ?
มิวกี้ : หลายตัวเลยค่ะ

มีใครตอนนี้ติดอันดับในใจบ้างมั้ย?
มิวกี้ : ไม่มีเลย ไม่มีในใจเลยค่ะ ถ้ายิ่งเป็นคนในวงการก็ยิ่งไม่มี เราก็ทำงานในสื่อโซเชียล คุยกันเดี๋ยวเราไม่รู้ว่าเขามีเจ้าของหมกเม็ด มันโป๊ะขึ้นมากลายเป็นเราไม่ดีอีก เลยยังไม่ดีกว่า

ระวังตัวมาก?
มิวกี้ : ใช่ค่ะ เพราะดราม่าเยอะจัดไม่ไหวแล้ว

มีหนุ่มดีเจ?
มิวกี้ : ถ้านิยามสถานะเป็นเพื่อนสนิทกันค่ะ สนิทที่สุด เป็นเพื่อนมาสักพักนึงค่ะ

เขารู้มั้ยคนจีบเราเยอะ?
มิวกี้ : ก็รู้ค่ะ พอเราโตขึ้นถ้าเราคุยกับใครเราก็คุยเป็นคนๆไป ไม่อยากคุยเยอะแยะเดี๋ยวปัญหามันเกิด

มีพาไปงานด้วย เปิดตัว?
มิวกี้ : หนูไม่ได้อยู่กับเค้า เพราะว่าเพื่อนวอแวอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา

ไปเจอกันได้ยังไง?
มิวกี้ : ตอนนั้นเจอกันที่งานเป็นไพรเวทปาร์ตี้ เพื่อนๆจัดให้มิวกี้ที่ต่างจังหวัดหลังแยกกันอยู่กับสามีแล้ว เขาก็มาในงานด้วยเพื่อมาเปิดแผ่นให้ มันเริ่มจากที่เราคุยกัน เขาถามว่าเราเป็นอะไรดูเศร้าๆ นะ เราก็บอกว่าเพิ่งแยกกับสามีได้ไม่นาน มันเริ่มจากให้คำปรึกษาเป็นเพื่อน มันไม่ได้จู่โจมว่าเป็นแฟน มันเหมือนการเป็นเพื่อนคุยกันมากกว่า สถานะเราตอนนี้มันยังไม่ได้ หรือวันนึงอาจจะเป็นแค่เพื่อนเฉยๆก็ได้

ตรงสเปคมั้ย?
มิวกี้ : อยู่แล้วแบบนี้ เขาน่ารัก นิสัยดี

ได้เจอลูกชายเราหรือยัง?
มิวกี้ : ตอนไปเที่ยวต่างจังหวัดก็มีเจอ เพราะชอบไปเที่ยวภูเก็ตก็มีเจอกันบ้าง บอกคนนี้เพื่อนมามี้นะ ก็เป็นเพื่อนจริงๆ

จากนี้วางสเปคยังไงไม่ว่าจะผู้ชายหรือการใช้ชีวิต?
มิวกี้ : หนูรู้สึกว่าบางครั้งเหมาะกับการอยู่คนเดียว เพราะเราเป็นผู้หญิงทำงานเยอะคิดอะไรในหัวเยอะ ถ้าความรักมันทำให้เรามีความสุขมากขึ้น หนูเรียกว่าน่ารัก แต่ถ้าใครที่ทำให้เราเหนื่อยงานด้วยเหนื่อยกับเค้าด้วย หนูมองว่าอยู่คนเดียวดีกว่า แต่จริงๆเป็นคนขี้เหงามากๆนะคะ

อยู่กับความเหงายังไง?
มิวกี้ : เล่นกับลูก ชอปปิ้ง อยู่กับผู้จัดการเลขาสนุกๆ

ตอนมีมรสุมข่าวเศร้ามากเลย?
มิวกี้ : มากๆค่ะ มันเกิดจากการเข้าใจผิด หลายคนคิดว่ามิวกี้คุยกับดีเจก่อนที่จะแยกกับสามี ประโคมด่าแรงมากเยอะมาก ตอนนั้นเครียดมาก เลิกกับสามีเราก็เครียดอยู่แล้ว ตอนนั้นน้ำหนักลดลงไป 10 โล ภายในเดือนกว่าๆ มีช่วงซึมเศร้าหนักๆ คุยกับสามีไม่รู้เรื่องด้วย เขาไม่ยอมออกมาพูดอะไรเลย แล้วเราโดนด่าอยู่ฝ่ายเดียว เราก็แอบคิดเหมือนกันว่าไม่อยากอยู่แล้ว มันท้อแท้มากๆเลย

คอมเมนท์ไหนที่อ่านเจอแล้วจี๊ด?
มิวกี้ : แบบโชคดีของผู้ชายแล้วที่เลิกกับผู้หญิงคนนี้ไป เราก็แบบงงทำผิดอะไร

มีคนบอกมูฟออนไวไปมั้ย?
มิวกี้ : หนูก็สงสัยเรื่องนี้เหมือนกัน เราเป็นคนชัดเจนให้คนเห็นว่าเราทำสิ่งนี้ ไปไหนก็เปิดบางทีความแมนของเราก็มีผล แต่หนูเลือกที่จะเป็นตัวเองอยู่ดี เพราะมันจะอยู่ได้นาน แต่ถ้าเราปิดคนจะยิ่งขุดคุ้ย

ถ้าไม่หยุดด่าจะมีการดำเนินการทางกฏหมายด้วย?
มิวกี้ : ตอนนี้ฟ้องหลายคนแล้วค่ะ เพราะมันหนักมาก หนูแค่คิดว่าวันนึงลูกมาอ่านแล้วคนด่าแม่เค้าขนาดนี้ เด็กต้องไปโรงเรียนเกิดลูกโดนบูลี่กลับมา เราไม่อยากให้ผลกระทบไปถึงลูก ทุกคนก็ไม่ควรด่าคนอื่นแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

โรคซึมเศร้ากำเริบเลย?
มิวกี้ : ใช่ค่ะหนักมาก ไม่มีใครรู้ว่าหนักขนาดไหน เราเลิกกับสามีเราก็เสียใจอยู่แล้ว การมูฟออนไวคือมีเพื่อนคุยก็ไม่ใช่ว่าเราสามารถลืมคนของเราได้เลยมันยังคิดถึงอยู่ตลอดเวลา มันเวลาหลายปีที่อยู่ด้วยกันมันต้องใช้เวลา แค่นั้นเราก็ช้ำพออยู่แล้ว บางคนแต่เรื่องเป็นเรื่องเป็นราว เลยรู้สึกว่ายังงี้ไม่ได้แล้ว เราเองก็ทำธุรกิจหลายอย่างต้องมีพาร์ทเนอร์ สิ่งที่ไม่ดีถูกเผยแพร่ออกไปเราเสียหาย เดือนแรกเราเสียหายหลักล้าน

ร้องไห้?
มิวกี้ : ร้องไห้ทุกวัน ดื่มบ้างเวลาไปเที่ยวกับเพื่อน ทานข้าวไม่ได้ ดิ่งมาก คิดถึงขั้นไม่อยากอยู่แล้วแต่ไม่ได้จะฆ่าตัวตาย อยากหลับไปก่อนตื่นอีกทีหายแล้ว เพราะว่ามันหนักเหลือเกิน

ใครที่ดึงเราออกมา?
มิวกี้ : คุณแม่ ลูกชายแล้วก็แฟนๆ มิ้วกี้ได้รับ DM เยอะมากจากแฟนๆให้กำลังใจ เรารู้สึกว่ามันมีอีกหลายคนที่รอเราอยู่ เราไปให้ค่ากับคนหลักหน่วยทำไม

มีอะไรจะบอกคนที่เข้าใจผิดมั้ย?
มิวกี้ : มิวกี้เข้าใจความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่มิวกี้มองว่าการที่เราจะว่าใครแบบรุนแรงทำให้ใครเสีหายเราต้องคิดให้ดีเลย เพราะว่าบางครั้งคำพูดของคนสามารถฆ่าคนได้ มิ้วกี้ยังเข้มแข็งพอแล้วยืนหยัดอยู่ตรงนี้ได้

สิ่งที่เยียวยาได้อีกอย่างคือการช้อปปิ้งวันละ 10 ล้าน?
มิวกี้ : ไม่ถึง ที่มันจะเยอะคือมันมาพร้อมกันแค่นั้น อันนั้นราคาต้องเก็บต้องใช้ นาฬิกา กระเป๋า มันขายง่าย

บางคนคิดว่ามีเงินจริงหรอ หรือเอาเงินสามีมาช็อปปิ้ง?
มิวกี้ : ได้ยินตลอด บางคนบอกโชคดีของคนผู้ชายที่ไม่ต้องมีเมียมาล้างผลาญ ฉันทำงานเก่งมากนะ ฉันหาเงินเก่งมากนะ ทุกวันนี้ก็จะเห็นแล้วว่าหาเงินเอง แต่ตอนที่เป็นแฟนกันเขาอยากซื้อของให้มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ส่วนใหญ่เราจะซื้อของเราเอง หนูสปอยด์สามีหนักกว่าสามีสปอยด์หนูด้วยบางครั้ง

หลายคนถามไปเอาเงินมาจากไหน?
มิวกี้ : ทำงานทั้งนั้นเลยค่ะ หนูทำงานเยอะมาก มีหลายธุรกิจ รู้จักเก็บออม ส่วนใหญ่ซื้อของเราก็จะดูว่าควรซื้ออะไรควรเก็บอะไรได้มูลค่าเพิ่ม

มีคนบอกอวดรวย?
มิวกี้ : ก็อวดนะ อวดแหละ มีมันก็ตองซื้อ ตายไปก็ไม่ได้ใช้ ให้เขาคิดเลยให้เขาคิดไป

เชื่อว่ามาจากการมูเตลูหนักด้วย?
มิวกี้ : ใช่ค่ะ มิวกี้จะเชื่อเรื่องการทำบุญกับคุณพ่อคุณแม่มากๆ การให้บุพการี ตอบแทนคนที่เคยช่วยเหลือเราเป็นสิ่งสำคัญ แล้วเราสายมูสุดๆทุกแขนงหมดเลย หนูเชื่อว่าการที่เรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่พึ่งทางใจมันดีเสมอ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องตัวเราทำด้วย

เคยเกือบตายมาแล้ว?
มิวกี้ : พระพิฆเณศจริงๆท่านชุบชีวิตให้มิวกี้ถึง 2 ครั้ง ตอนแรกที่ประกวดเวทีตั้งแต่ปี 2012 ตอนนั้นไม่มีเงินเลย ตอนประกวดต้องแข่งขันได้เงิน 1 ล้านบาท ตอนนั้นเครียดมาก ทุกคนมีพี่เลี้ยงแต่เราไม่มีเงินจะจ้าง เราก็อธิษฐานนอนร้องไห้ไปด้วยก็หลับไป ก็ฝันว่าพี่ลูกเกด เมธินี มอบมงกุฏให้ จำได้ว่าวิ่งลงมาบอกคุณแม่พอวันประกาศผลเราได้ที่ 1 ภาพนั้นเป๊ะเลย

ลูกเห็นสิ่งลี้ลับด้วย?
มิวกี้ : เขาจะชอบเห็นอะไรแปลกๆ ชื่อน้องมาจากปี 2012 มิ้วกี้ไปอินเดียกับคุณแม่ คนอินเดียเขาเรียกพระพิฆเณศว่ากาเนส กี้ก็ยกมือไหว้ว่าถ้ามีลูกขอให้ลูกคนแรกเป็นผู้ชาย แล้วขออนุญาติตั้งชื่อว่ากาเนส เขาจะเห็นอะไรดีๆไม่ใช่ผี