'คัตโตะ-โค้ดดี้' กับการทำงานร่วมกันแบบไร้อีโก้ และโค้งสุดท้ายของการเป็นศิลปิน

2 พี่น้องอารมณ์ดี โค้ดดี้-อรรถพล โพธิ์หาญรัตนกุล แห่งเสือร้องไห้ และ คัตโตะ-อารมณ์ โพธิ์หาญรัตนกุล หรือ คัตโตะ ลิปตา เป็นอีกหนึ่งศิลปินและยูทูบเบอร์ชื่อดังที่ร่วมกันสร้างสีสันและความสุขให้กับคนดูอย่างมากมาย เป็นครั้งแรกที่มาเปิดใจแบบแพ็คคู่ ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องที่เป็นเหมือนเพื่อน การทำงานที่เบื้องหน้าดูสนุกสนานแต่เบื้องหลังนั้นสุดจริงจังและซีเรียสมาก พร้อมเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของยุคที่คัตโตะมองว่ามาถึงโค้งสุดท้ายของการเป็นศิลปินแล้ว ในรายการ WOODY FM

บางคนสงสัยว่าเราทั้งคู่เป็นอะไรกัน ?
โค้ดดี้ : ที่น่าสงสัยก็คือคนชอบคิดว่าผมเป็นพี่คัตโตะ เพราะเรามีพี่ชายอยู่ในวงการที่เป็นนักร้อง แล้วมันก็แบบแต่งตัววัยรุ่น ร้องเพลงโยกๆ เราทำงานเบื้องหลังโทรมๆ เราก็ดูเหมือนเป็นพี่เขาตลอดเวลา
คัตโตะ : อายุห่างกันปีเดียวครับ ปีนี้ผมอายุ 41 โค้ดน่าจะอยู่ที่ 40

ความสัมพันธ์ของคู่นี้เป็นยังไง ?
โค้ดดี้ : เหมือนเพื่อนกัน เด็กๆ ก็จะเรียกมึงกูแกล้งกันตีกัน พ่อแม่เขาตั้งใจเลี้ยงมาแบบนี้ ผมว่านี่เป็นพรนะ เพราะว่าเมื่อคุณรักพี่น้องคุณเหมือนเพื่อนมันจะคุยกันได้ทุกเรื่อง เราก็เลยจะสนุก เป็น Best Friend
คัตโตะ : คือเขาจะเป็นคนหนึ่งที่ผมเอาไปใช้ในตัวเลือกสำคัญ ทำไงดี งานตรงนี้มีปัญหา พอเป็นงานเราเองต่อให้เราดูแลชีวิตเรายังไง เราก็ไม่ได้ถอยออกมาจากชีวิตตัวเองมากพอ มันต้องมีคนที่อยู่ไกลออกมาหน่อยคอยช่วยดู อาจจะเห็นตัวเองไม่ชัดเจน เขาก็ช่วยดูให้

การทำงานด้วยกันอยู่ในองค์กรเป็นยังไง ?
โค้ดดี้ : ตั้งแต่เด็กๆ เราเป็นพี่น้องที่เป็นเพื่อนกัน ทีนี่เวลาทำงานก็จะเหมือนเพื่อนคุยกัน เหมือนเพื่อนทำธุรกิจด้วยกัน แชร์กันได้หมดทุกอย่าง แต่ในการทำงานจริงๆ ผมกับเขาจะค่อนข้างมืออาชีพมาก คือเวลาคนทำงานกับเพื่อนหรือพี่น้องข้อเสียคือจะคุยแบบไม่มืออาชีพ แต่ผมจะวางเป็นวาระประชุม ต้องประชุมเรื่อง 1 2 3 4 ผมเรียงไว้อย่างนี้ ยิ่งคนที่ผมรัก ใกล้ตัว เพื่อนสนิท ครอบครัว ทำงานต้องมืออาชีพ เคล็ดลับง่ายมากอีโก้ต้องศูนย์ คนเราพอใกล้กันมันจะรู้ข้อดีข้อเสียเป็นยังไงก็จะตั้งแง่แล้วว่าก็คุณเป็นแบบนี้ แต่ผมจะไม่ทำแบบนั้นเริ่มใหม่หมดเลยเป็นศูนย์

ตอนนี้คนกำลังให้ความสำคัญกับคนที่อคติแบบที่ไม่รู้ตัวจากเพศจากรูปลักษณะหรือแม้กระทั่งจากตำแหน่งต่างๆ มันเกิดขึ้นเยอะมาก ก็กลายเป็นว่าคุยกันลำบาก ?
คัตโตะ : เรื่องอคติมันมีอยู่จริงมากๆ ซึ่งอย่างออฟฟิศเรา อย่างผมกับโค้ดหรือว่าเพื่อนๆประชุมงานกันแล้วมีเด็กๆ ประชุมกันเราก็จะซื้อทุกไอเดีย ให้เด็กๆได้ออกมาคุยกัน คือไม่ใช่ว่าเด็กแล้วเขาจะคิดไม่ได้ หรือว่าเขาเป็นคนที่คิดงานได้ 40% ขององค์กรไม่ใช่งานต่อไปเขาจะสามารถคิดได้ถูก หรือเด็กใหม่คนนึง 100 ประชุมอาจจะถูกแค่ครั้งเดียวก็ได้ ที่เอาไปใช้งานเหมาะกับองค์กรจริงๆ แต่ผมว่า 1% นั้นอาจจะเป็นการวางรากฐานใหม่ของงานต่อไปใน 5 ปีของเราเลยก็ได้ คือผมมองว่าคนอคติน้อยอาจจะมองได้กว้างกว่า แต่ไม่ได้บอกว่าผิดนะ บางคนจะมองแค่นี้แต่เขาแหลมคมก็เป็นเรื่องของเขา อยู่ที่ว่าเขาทำอะไร

เป็นคนซีเรียสกับงานไหม ?
คัตโตะ : ผมว่าออฟฟิศเราจริงจังมากๆ กับงาน ยิ่งโค้ดไม่ได้อยากจริงจังแต่ต้องจริงจัง หมายความว่าเมื่อไหร่ที่เรามีองค์กรของเราแล้ว ทุกๆ องค์กรมีคนที่เราต้องดูแล บางทีความฝันเรามันจบแล้วตอนนี้มันโอเคทุกอย่างแล้ว แต่คนในองค์กรความฝันเขาเพิ่งเริ่ม ดังนั้นอาจจะต้องขยับขยายความฝันเราให้โตขึ้น เพื่อที่จะรองรับความฝันอีกหลายๆ ความฝัน ให้อยู่ภายใต้ร่มเดียวกันให้ได้ ผมว่าตรงนี้เป็นความท้าทายที่ทำให้เราต้องจริงจัง ถึงแม้ผมกับโค้ดไม่ชอบจริงจัง เราชอบทำงานกันแบบสนุกๆ เพราะเป็นคนชอบทำอะไรที่ครีเอทีฟแต่ตอนนี้มันบังคับให้เราต้องจริงจัง

คัตโตะบอกว่านี่คือโค้งสุดท้ายของการเป็นศิลปิน ?
คัตโตะ : ใช่ครับ ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าเวลาเราไปงานประกาศรางวัล ไปทัวร์คอนเสิร์ต ศิลปินยุคเดียวกับเรามันไม่มีแล้ว รู้สึกว่าตั้งแต่เรา 40 ขึ้นมา มีช่วงที่รู้สึกเหนื่อยขึ้น ผมเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอยู่ ทำให้ทุกวันนี้ผมไม่ได้รับงานที่ไกลมากๆ นั่งรถตู้ต่อเครื่องบินเราไม่ได้ทำงานแบบนั้นแล้ว ยิ่งโควิดผมว่าเป็นช่วงที่เปลี่ยนแปลงมากเลยเพราะว่า 3 ปีที่ผ่านไปมันล้างศิลปินที่เป็นเจนเนอเรชั่นเราไปหมดเลย แล้ววันนี้ผมไปร้องเพลง เพลงมันเก่าขึ้นไปอีก 3 ปี ก็รู้สึกว่านี่อาจจะเป็นโค้งสุดท้ายของเราแล้วที่อยู่มาตั้ง 18-19 ปี รู้สึกว่าน่าจะเป็นยุคของเด็กๆ ผมชอบพูดเรื่องความตาย เรื่องการสิ้นสุดของวัฏจักรเรา เป็นสิ่งที่เรายอมรับมัน การยอมรับเป็นสิ่งที่ดี เมื่อไหร่ที่เรายอมรับช่วงเวลาของเราแล้วก็จะเข้าใจ ถึงเวลาที่เราตายก็โอเคเรารอเวลานี้มันถึงเวลาของฉันแล้ว ผมชอบคุยเรื่องแบบนี้

ชีวิตตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้มีเรื่องไหนที่หนักสุดในชีวิต ?
โค้ดดี้ : บอกพี่ตามตรงว่าผมตอบไม่ได้นะ เพราะผมคิดว่าชีวิตในแต่ละวัยมันหนักในวัยของมัน โดนครูตีตอนเด็กมันก็หนักในตอนนั้นนะ

สมมุติว่าคุณกำลังจะจากโลกนี้ภาพที่เกิดขึ้นในอดีตมันก็จะกลับมา คุณนึกถึงอะไรบ้าง ?
โค้ดดี้ : แม่ พ่อ ครอบครัว เพื่อน แฟน ความฝัน ประสบการณ์ดีและร้าย
คัตโตะ : น่าจะเป็นช่วงหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องเงิน ผมเติบโตมาพร้อมกับหนี้ที่บ้าน ซึ่งทำให้ผมต้องมีวินัยในการทำงานและการเก็บเงินมาก ๆ เราก็จะพยายามเก็บเงิน คอยซัพพอร์ตครอบครัวในช่วงนั้น แล้วช่วงนั้นโค้ดก็เริ่มทำงาน มันก็เป็นภาระสำหรับเรามันหนักอึ้งมาก แต่พอมาคุยกันในตอนนี้มันก็เป็นเรื่องที่เล็กลงมาแล้ว ผมมองว่านี่คือปัญหาที่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น เป็นเรื่องที่ทำให้ผมฝันร้ายอยู่ช่วงหนึ่ง คิดในใจว่าโตไปจะทำให้ชีวิตของตัวเองไม่มีหนี้สักบาทเป็นความฝันของผมตลอดชีวิต อยากเป็นคนที่อายุมากๆ แล้วพยายามจะดูแลตัวเองให้ได้ดีไม่ลำบากใคร ผมเป็นคนที่มีวินัยในการเก็บเงินสูงพอสมควร ทุกวันนี้ยังมีปัญหาอยู่บ้างแต่มีโค้ดมาช่วยมันก็เบาลง ทุกอย่างก็ออกมาดี

ผมสัมผัสได้ถึงความจริงใจในชีวิตของคุณมากๆ ผมคิดว่าคุณเป็นคนที่เซนซิทีฟ ?
โค้ดดี้ : ผมจะเป็นคนเซนซิทีฟเรื่องความสุข แต่คัตโตะเขาเป็นศิลปิน จะเป็นคนที่เปรียบเทียบเหมือนกับฟองน้ำที่ดูดอะไรเข้าไปแล้วอยู่กับมวลนี้เขาจะเป็นคนสไตล์นี้

ถ้าพูดถึงเรื่องความกลัว นึกถึงอะไรก่อน ?
คัตโตะ : น่าจะเป็นเวลาเห็นคนในครอบครัวป่วยมั้งครับ ผมจะเซนซิทีฟเรื่องนี้มาก อย่างหนึ่งที่โดนสอนมาตั้งแต่เด็กแล้วก็จำออกมา คือแบบว่าเป็นพี่นะต้องดูแล ทุกวันนี้คือผมทำแพลนคุยกับคนที่ขับรถเอาไว้ว่า ถ้าเกิดวันนี้แม่ป่วยจะต้องเข้าโรงพยาบาลอะไร รถจะมีไหม กลัวคนในบ้านเป็นอะไรไปแล้วเราช่วยเขาไม่ทัน ในวันนี้มันเกิดเหตุกาณ์นี้จริงๆ เราจะเสียใจ ทุกวันนี้ความฝันของผมคืออยากมีความปลอดภัยให้ครอบครัว รู้สึกดีใจมากเลยที่ผมปลูกบ้านติดกับแม่ มันเป็นความสุขมาก ผมยังไม่มีครอบครัว ก็เป็นเหมือนเซฟโซนของเรา คอยเติมพลังให้ไม่ว่าจะเครียดจะกลับมาตี 1 ตี 2 เราพร้อมจะเจอกันตลอด มันดีมากกับการเดินแค่ 20 ก้าวไปทักแม่แล้วเดินกลับมาทำงานต่อได้ แล้ววันไหนที่แม่เขาคิดถึงเราก็เดินมาเคาะประตูบ้าน

ความรักของคัตโตะเป็นยังไงในตอนนี้ ?
คัตโตะ : โล่งๆ เลยครับ ว่างๆ มันเคยมีช่วงที่เราอยากจะให้มันเป็นฝั่งเป็นฝา แต่ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น พอมันเลยแพลนเอาไว้แล้ว ทีนี่ก็เลยออกมายาวเลย เพื่อนของผมตอนนี้มีครอบครัวมีลูกกันหมดแล้ว เราเองไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งนี้เลย รู้สึกว่าชีวิตเรายังโอเคอยู่นะดีหมดเลย แต่ว่าตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรา ปัญหาอยู่ที่ทุกคน ทุกคนจะบอกว่าเมื่อไหรจะเป็นฝั่งเป็นฝา ก็ตอบกับตัวเองว่ากูก็อยากมีเหมือนกัน แต่ว่ามันเหมือนยังไม่ได้เจอคนที่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมอยากให้มันเกิดขึ้นมากๆ แต่แค่ว่ามันยังไม่มี
โค้ดดี้ : ใครที่ดูอยู่นะครับ เปิดรับสมัครอยู่ตอนนี้

เป็นยังไงบ้างโค้ดวันนี้ ?
โค้ดดี้ : ผมมาเจอพี่เฉยๆ ครับวันนี้ สนุกดีครับ ถ้าไม่ใช่พี่ผมก็ไม่มา เพราะปกติไม่ออกรายการเลย 10 ปีผมไม่ออกอะไรเลย ยิ่งละครเล่นหนังผมไม่เอาเลย ไม่อยากทำให้งานเขาไม่ดีด้วย ผมรู้สึกว่าผมไม่เก่งมีคนเก่งมากกว่าผมเยอะ ใช้คนอื่นดีกว่า
คัตโตะ : เมื่อวานมีคนมาถามผมว่าเสือร้องไห้มันมีสคริปต์ไหม หรือว่ารายการของ Good Day มีสคริปต์ไหม ไม่มีเราแค่มีโครงสร้างว่าเราจะทำอะไร ที่เราคุยกัน มันคือเพื่อนคุยกันจริงๆ เด็กในกองช่างกล้องหรือครีเอทีฟอะไรทุกคนก็คือมาอยู่ในบ้าน เราก็อยากคุยกับคนในบ้านเพราะรู้สึกว่ามันลื่นไหลสบาย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'แจ็คสัน หวัง' ศิลปินจีนคนแรกที่ขึ้นโชว์โคเชลลาเป็นครั้งที่ 3

ศิลปินหนุ่ม Jackson Wang (แจ็คสัน หวัง) ปรากฏตัวบนเวทีของงานดนตรีที่ยิ่งใหญ่ อย่าง Coachella Music Festival ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งล่าสุดเขาได้ร่วมแสดงโชว์ให้กับศิลปินวง Number i ในเพลง 'GOAT (Jackson Wang Remix)' และศิลปินสาว BIBI ในเพลง ‘Feeling Lucky'

เอ็นดู 'WONDERFRAME' จากนักร้องสู่ผู้ประสบภัย คนดูฉีดน้ำขึ้นเวทีจนไมค์พัง!

เป็นอีกหนึ่งศิลปิน ที่ออกมาส่งความสุข สาดความสนุกให้กับแฟนๆ ในเทศกาลสงกรานต์ สำหรับนักร้องสาว “WONDERFRAME” หรือ ศุภัคชญา สุขใบเย็น

'พระดล' ฟีเวอร์ 'ปั๊บ โปเตโต้' รับติดใจการแสดง ได้ไอเดียอัลบั้มใหม่ต่อเลย!

นาทีนี้มีแต่คนเรียก “พระดล” กันหมดเพราะกระแสตั้งแต่ภาพคาแรกเตอร์แรกของ “ปั๊บ โปเตโต้ (พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข)” จากซีรีส์เรื่อง “สาธุ” ปล่อยออกมา ชวนให้ทุกคนลืมภาพนักร้องไปหมดสิ้น

เซ็กซี่หนักมาก! 'BNK48' ปล่อยเพลง 'Kurumi to Dialogue - แล้ว…ต้องทำยังไงล่ะ?'

ทำเอาแฟนคลับร้องว๊าว! หลังจากเปิดตัวพร้อมลุคสุดเซ็กซี่ไปไม่นาน ล่าสุดค่าย iAM ได้ส่ง BNK48 ยูนิต Next Girls หรือสาวๆ ที่แฟนคลับโหวตให้ติดอยู่ในอันดับ 33-48 จากงาน “BNK48 16th Single Senbatsu General Election” ที่ผ่านมา พร้อมปล่อยเพลง “Kurumi to Dialogue - แล้ว…ต้องทำยังไงล่ะ?”

'อ๊ะอาย' เล่าเรื่องสุดพีคถูกตัดต่อภาพอนาจาร!

เปิดเส้นทางในวงการบันเทิงที่ยาวนานกว่า 10 ปี ของนักร้องนักแสดงสาว “อ๊ะอาย กรณิศ” หรือ “อ๊ะอาย 4EVE” ที่ล่าสุดได้มาเล่าเรื่องสุดพีคที่ถูกหนุ่มปริศนาตัดต่อทำภาพอนาจาร ผ่านรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่อง One31

'fellow fellow' จับมือ 'FREEHAND' ให้แง่คิดเจ้าของดวงใจที่แตกสลาย

หลังจากสร้างปรากฏการณ์ความฮิตผ่านเพลง “ดาวหางฮัลเลย์” ที่ปล่อยพร้อมกับเพลงสุดเจ็บ “ฉันคือความทรงจำดีๆของเธอรึเปล่า” ก่อนตามด้วยเพลงฟีลกู้ด “ไม่เปลี่ยนเลย (Best Luck)” ล่าสุด 2 หนุ่ม fellow fellow (เฟลโล่ว เฟลโล่ว) อย่าง ข้าว-ปณิธิ เลิศอุดมธนา (ร้องนำ) และ ที-พิษณุ หทัยพัธลักษณ์ (ร้อง, กีตาร์) สังกัดค่าย Kicks Records (คิกส์ เรคคอร์ดส) ของ 2 หนุ่ม แทน-คัตโตะ Lipta