'นีน ณลีนา' ปล่อยซิงเกิลแรก นำประสบการณ์รักมาถ่ายทอดเป็นบทเพลง

Heliconia Music (เฮลิโคเนีย มิวสิค) เปิดตัวด้วยศิลปินเบอร์แรกของค่าย อย่างสาวสวยเสียงดี นีน-ณลีนา เพ็ญโรจน์ ลูกสาวของโปรดิวเซอร์คนดัง หนุ่ม-กิติกร เพ็ญโรจน์ ที่ได้ปล่อยผลงานแรกด้วยเพลง One Way Losing Game ที่สาวนีนบอกว่าเธอทั้งแต่งเนื้อร้องและทำนองเอง แถมยังถ่ายทอดมาจากประสบการณ์จริงในชีวิตอีกด้วย

"เพลง One Way Losing Game เพิ่งปล่อยไปค่ะ แต่งเองทั้งเนื้อร้องและทำนอง จริงๆที่ผ่านมาก็แต่งเพลงเองมาตลอดค่ะ แต่เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่จะปล่อยออกมาให้ได้ฟังกัน ก็ตื่นเต้นมากค่ะ นีนไม่ได้คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้ แต่เราอยากเป็นนักร้องตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยรู้สึกว่าเราทำได้แล้ว ตอนเด็กๆคุณพ่อให้เรียนเปียโนเรียนร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก มีดนตรีอยู่ในชีวิตมาตลอด ที่ชอบแต่งเพลงเพราะส่วนหนึ่งมันเหมือนเราได้ระบายเวลาเครียดๆก็นั่งเล่นเปียโน-แต่งเพลง

คอนเซ็ปต์ของค่ายเลยคือ based on a true story. ก็คือหานักร้อง-ศิลปินที่แต่งเพลงเอง ใช้ประสบการณ์จากชีวิตจริงมาทำเพลงค่ะ อย่างเพลง One Way Losing Game ก็เป็นเรื่องราวของคน 2 คนที่รักกันแล้วอีกฝ่ายเลือกที่จะไปอยู่กับคนอื่น มันเหมือนเป็นเกมส์ที่เราไม่สามารถชนะได้ เขาเหมือนเป็นคนคุมเกมส์ แต่เขาไม่เลือกเรา เขาเลือกคนอื่น เราก็เอาความรู้สึกของเราใส่ลงไปในเพลงค่ะ นีนถนัดเพลงภาษาอังกฤษเลยถ่ายทอดเป็นภาษาอังกฤษค่ะ บวกกับนีนเรียนอินเตอร์ตั้งแต่เด็กและตอนนี้นีนเรียนเรียนอยู่ต่างประเทศเลยถนัดภาษาอังกฤษมากกว่าค่ะ ทิศทางต่อไปก็น่าจะเป็นเพลงสากลแบบนี้ไปเรื่อยๆค่ะ ส่วนเพลงไทยเดี๋ยวจะมีคัฟเวอร์เพลงคุณพ่อค่ะ

ถามว่ากดดันไหมที่เป็นศิลปินเบอร์แรกของค่าย และเป็นลูกคุณพ่อด้วย นีนว่านีนกดดันตัวเองมากกว่าคนอื่นมากดดันนะคะ เพราะว่านีนเป็น Perfectionist ไม่ว่าจะทำอะไรก็ชอบให้มันเป๊ะ ให้มันสมบูรณ์แบบ ซึ่งนีนก็ทำดีที่สุดแล้วและมีความสุขกับผลงานที่ออกมาค่ะ คุณพ่อก็มีมาช่วยแกะโน้ตบ้างค่ะ เพราะคุณพ่อถนัดเรื่องดนตรีอยู่แล้วก็มาช่วยนิดหน่อยค่ะ ตอนแรกนีนแต่งเพลงแล้วเอาไปโชว์ให้คุณพ่อดู จริงๆนีนแต่งมาหลายเพลงแล้วแต่เพลงนี้คือเพลงที่คุณพ่อเลือกว่าให้เอาเพลงนี้เป็นเพลงแรกในการเปิดตัวค่ะ

ส่วนเรื่องเรียนจริงๆนีนยังเรียนอยู่ที่แคนาดาเพิ่งเรียนปีแรกยังเหลืออีก 3 ปี เดี๋ยวก็ต้องกลับไปเรียนต่อค่ะ ตอนนี้ก็ปล่อยซิงเกิลไปก่อนค่ะ เราอยู่ไทยปีหนึ่ง 5 เดือนก็สามารถไปโชว์ในคอนเสิร์ตได้ไปงานได้ กลับไทยปีละ 2 รอบ นีนทำเพราะอยากทำ เรารักการแต่งเพลง พอปล่อยออกมาก็ได้ผลตอบรับดีค่ะ เพื่อนๆชอบเพลง คนที่ฟังแล้วมาคอมเมนต์ว่าเขาเข้าถึงผลงานของเรา มันตรงกับชีวิตเขา เราดีใจมากค่ะ เหมือนเขารู้สึกเหมือนที่นีนรู้สึก เหมือนเวลาที่นีนฟังเพลงคนอื่นแล้วรู้สึกว่าเพลงนี้เหมือนแต่งมาให้เรา นี่มันชีวิตเราเลย อะไรแบบนี้ค่ะ"